in , ,

Maxus Dajia 9 ใหม่ เอ็มพีวี PHEV วิ่งโหมด EV ได้ไกลสุด 225 กม. ราคาเริ่ม 1.54 ล้านบาทในจีน

Maxus Dajia 9 รถเอ็มพีวีแบบ 7 ที่นั่ง ขุมพลัง Plug-in Hybrid มีแบตเตอรี่ให้เลือก 2 รูปแบบลิเธียมเหล็กฟอสเฟต และลิเธียมแบบไตรภาค วิ่งโหมด EV ไกลสุด 225 กม. พร้อมวิ่งครอบคลุมระยะทางไกลถึง 1,309 กม. เมื่อแบตฯ ชาร์จเต็ม+น้ำมันเต็มถัง เปิดราคาเริ่มในจีนที่ 1.54 ล้านบาท

Maxus Dajia 9

SAIC Motor เปิดตัว Maxus Dajia 9 รถเอ็มพีวีสำหรับครอบครัวแบบ 7 ที่นั่ง เวอร์ชัน PHEV เสียบปลั๊กชาร์จไฟ ในตลาดเมืองจีน โดยมีวางจำหน่ายเคียงคู่กับ MG MAXUS 9 ลักชัวรี่ MPV เวอร์ชั่นไฟฟ้า 100%

Maxus Dajia 9

สำหรับ Maxus Dajia 9 เอ็มพีวีเวอร์ชัน PHEV ตัวใหม่นี้ จะมีให้เลือก 2 รุ่นได้แก่ รุ่น Long-Range Forest และรุ่น Ultra-Long-Range Forest Edition เคาะราคาไว้ที่ 299,900 หยวน และ 309,900 หยวน ตามลำดับ หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 1.54 ล้านบาท และ 1.6 ล้านบาท 

Maxus Dajia 9

ในด้านงานดีไซน์รูปลักษณ์หน้าตานั้นจะเหมือนกับเวอร์ชันที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ที่ยังคงมากับดีไซน์ที่ดูหรูหรา โฉบเฉี่ยว และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตัวรถจะมากับกระจังหน้าแบบ Grille Less Design ขนาบข้างด้วยชุดไฟหน้าแบบ LED ทั้งระบบ มาพร้อมไฟ DRL ที่เป็นเส้นเรียวยาวพาดใต้ฝากระโปรงหน้า พร้อมตีตราแบรนด์ไว้ที่ปลายฝากระโปรง ในส่วนกันชนหน้าออกแบบให้มีขนาดใหญ่ ขนาบข้างด้วยชุดไฟส่องสว่าง

Maxus Dajia 9

Maxus Dajia 9

ตัวรถมาในแบบทูโทน โดยตั้งแต่เสาประตูขึ้นไปจนถึงหลังคาจะมาในโทนสีดำ ประตูข้างทั้ง 2 ฝั่งเป็นแบบสไลด์ด้วยไฟฟ้า ตกแต่งด้วยชิ้นงานโครเมียมที่ชายขอบบันไดข้างตัวรถ และคิ้วกันชนหลัง มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว

Maxus Dajia 9

ด้านท้ายจะเป็นอีกจุดที่ดูโดดเด่น โดยจะมากับไฟท้าย LED แบบ Galaxy Halberd Fantasy ที่ดีไซน์เป็นแนวยาวรูปตัว Y มาพร้อมฝากระโปรงท้ายเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า และสิ่งที่จะบ่งบอกว่าแตกต่างจากรุ่นไฟฟ้า 100% จะอยู่ที่โลโก้ Hybrid สีฟ้า ที่อยู่ด้านหลังฝั่งขวา

Maxus Dajia 9

ในด้านมิติตัวรถมีความยาว 5,270 มม., กว้าง 2,000 มม., สูง 1,840 มม. และมีระยะฐานล้อ 3,200 มม.

Maxus Dajia 9

ภายในห้องโดยสารนั้นก็ยังคงความพรีเมี่ยม หรูหรา กว้างขวาง โปร่โล่ง ไม่อึดอัด เหมือนกับเวอร์ชันไฟฟ้า  ห้องโดยสารจะเป็นแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง (2+2+3) เบาะนั่งทั้งแถวที่ 1 และ 2 มาพร้อมระบบระบายอากาศ/ทำความร้อน/นวดด้วยไฟฟ้า โดยเบาะแถวที่ 2 จะมาในแบบ VIP Captain Seat 

Maxus Dajia 9

ขณะที่ในส่วนแผงแดชบอร์ดจะแตกต่างจากเวอร์ชั่นไฟฟ้าที่เคยเปิดตัวในไทยเมื่อปี 2023 ที่ผ่านมา โดย Maxus Dajia 9 เวอร์ชัน PHEV จะมากับหน้าจอที่ฝั่งอยู่บนแผงคอนโซลหน้าถึง 3 จอด้วยกันซึ่งจะอยู่ในระนาบเดียวกัน ที่ประกอบไปด้วยแผงหน้าปัด LCD ขนาด 10.25 นิ้ว ที่อยู่ด้านหลังพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบ 2 ก้าน ตรงกลางตีตราคำว่า M A X S U พร้อมตกแต่งบนพวงมาลัยด้วยวัสดุโครเมียม

ขยับมาตรงกลางจะเป็นในส่วนของหน้าจอควบคุมส่วนกลางขนาด 12.3 นิ้ว มาพร้อมหน้าจออินโฟนเมทนเมนต์สำหรับผู้โดยสารตอนหน้าที่มีขนาด 12.3 นิ้ว เท่ากัน

นอกจากนั้นยังมากับแผงควบคุมอุณหภูมิที่จะเป็นแบบสัมผัส โดยในส่วนนี้จะแยกออกมาอยู่ในแถบโครเมียมที่อยู่ด้านล่างของส่วนหน้าจอ

Maxus Dajia 9

ด้านชุดอุปกรณ์อื่น ๆ สำหรับเวอร์ชันปลั๊กอินไฮบริดจะได้รับเครื่องเสียงพร้อมลำโพง JBL 12 ตัว, กุญแจ Keyless Entry, ปุ่ม Push Start, หลังคาซันรูฟเปิด- บิดด้วยไฟฟ้า, ชุดไฟ Ambient light, จอแสดงผลแรงดันลมยาง

Maxus Dajia 9

นอกจากนี้ยังได้รับการติตดั้งระบบช่วยเหลือการขับขี่ level 2+ อาทิ ระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบปรับได้ล ระบบเตือนการชนด้านหน้า, ระบบเตือนรถออกนอกเลน, ระบบเตือนการเปิดประตู และเตื่อนขจุดอักสายตา เป็นต้น 

Maxus Dajia 9

สำหรับในด้านพละกำลังขับเคลื่อนของ Maxus Dajia 9 จะมากับยระบบปลั๊กอินไฮบริด ที่ประกอบด้วยเครื่องยนต์ 1.5T กำลังสูงสุด 110 kW (150 แรงม้า) แรงบิด 235 นิวตันเมตร มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลัง 176 kW (236 แรงม้า) ให้แรงบิดสูงุสด 390 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยชขุดเกียร์ DHT 1 สปีด

Maxus Dajia 9

ขณะที่ในชุดแบตเตอรี่จะมีให้เลือก 2 แบบ คือแบตเตอรี่ลิเธียมเหล็กฟอสเฟตขนาด 24.7 kWh และแบตเตอรี่ลิเธียมแบบไตรภาคขนาด 39.7 kWh โดยเมื่อวิ่งในโหมดไฟฟ้าล้วน จะให้ระยะทางการวิ่งอยู่ที่ 115 กม. และ 225 กม. (CLTC) ที่ ตามลำดับ อีกทั้งยังเคลมอีกว่าเมื่อิน้ำมันเต็มถัง และแบตเตอรี่ชาร์จไฟเต็มจะวิ่งไดHครอบคลุมระยะทางที่มากถึง 1,309 กม. พร้อมรองรับการชาร์จทั้งแบบ AC และ DC

Maxus Dajia 9

สำหรับในด้านราคาจำหน่ายของ Dajia 9 ในตลาดเมืองจีน ทาง SAIC Motor เปิดราคาในรุ่น Long-Range Forest ไว้ที่ 299,900 หยวน หรือประมาณ 1.54 ล้านบาท ส่วนในรุ่น Ultra-Long-Range Forest Edition จะมีราคาอยู่ที่ 309,900 หยวน คิดเป็นเงินไทยจะตกอยู่ที่ราว ๆ 1.6 ล้านบาท 

ส่วนในเมืองไทยนั้นเวอร์ชัน PHEV ใหม่นี้ยังไม่มีการนำเข้ามาจำหน่ายแต่อย่างใด คงมีวางขายเพียงในรุ่นไฟฟ้า 100% อยาง MG MAXUS 9 เท่านั้น