in , ,

Mazda MX-30 e-SKYACTIV R-EV การกลับมาของเครื่องยนต์โรตารี่ในรูปแบบ PHEV

Mazda กลับมาใช้ครื่องยนต์ Rotary อีกครั้ง ที่มาในรูปแบบขุมพลัง PHEV ที่มีอยู่บนตัว Mazda MX-30 e-Skyactiv R-EV

Mazda MX-30 e-SKYACTIV R-EV

ที่ภายในงาน Brussels Motor Show 2023 ที่ถูกจัดขึ้นในประเทศเบลเยียม ทางค่ายรถยนต์มาสด้าได้ปลุกชีพเครื่องยนต์โรตารีขุมพลังสูบหมุนอันขึ้นชื่อของแบรนด์กลับมาใช้งานอีกครั้ง โดยการกลับมาใหม่ครั้งนี้มาในรูปแบบขุมพลัง PHEV เสียบปลั๊กชาร์จไฟ ที่ถูกติดตั้งอยู่บนตัว Mazda MX-30 e-SKYACTIV R-EV ซึ่งเป็นรุ่นย่อยใหม่ของทาง MX-30 

Mazda MX-30 e-SKYACTIV R-EV

สำหรับ Mazda MX-30 e-Skyactiv R-EV เป็นรถที่มาในรูปแบบตัวถัง SUV-Crossover มีพื้นฐานมาจาก Mazda3 / Mazda CX-30 โดยในรุ่นย่อยใหม่นี้ จะมากับขุมพลังโรตารี่ใหม่แบบ Single-rotor ที่มีขนาดกะทัดรัด อกแบบด้วยความเรียบง่าย พร้อมกับถูกประกอบขึ้นจากวัสดุอะลูมิเนียม โดยจะมีมีน้ำหนักเพียง 33 ปอนด์ หรือ 15 กก. และมีขนาดความจุที่ 830 ซี.ซี.ให้กำลังสูงสุด 74 แรงม้า (PS) โดยจะทำหน้าที่เป็นเครื่องปั่นไฟให้กับมอเตอร์ไฟฟ้าและสำหรับการชาร์จกระแสไฟฟ้าเข้าสู่แบตเตอรี่ 

Mazda MX-30 e-SKYACTIV R-EV

Mazda MX-30 e-SKYACTIV R-EV

Mazda MX-30 e-SKYACTIV R-EV

มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้ามีการปรับแรงม้าสูงสุดถึง 166 แรงม้า (PS) แรงบิด 260 นิวตันเมตร (โดยในรุ่น EV จะมีพละกำลัง 145 แรงม้า (PS) และแรงบิด 271 นิวตันเมตร)  ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 9.1 วินาที ขณะที่ความเร้วสูงุสดนั้นจะถูกจำกัดไว้ที่ 140 กม./ชม.

Mazda MX-30 e-SKYACTIV R-EV

Mazda MX-30 e-SKYACTIV R-EV

อีกทั้งยังติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 17.8kWh ที่เล็กกว่าในรุ่น EV 100% ที่มีขนาด 35.5 kWh ซึ่งเป็นผลมาจากต้องแบ่งเนื้อที่สำหรับติดตั้งถังน้ำมันขนาด 50 ลิตร ด้วยเหตุที่มีแบตเตอรี่ขนาดเล็กลงจึงส่งผลทำให้ MX-30 e-SKYACTIV R-EV คันนี้วิ่งด้วยโฆมดไฟฟ้าเพียว ๆ ได้ระยะทางเพียง 85 กม. เท่านั้น แต่เมื่อระบบพลังงานไฟฟ้า ที่ทำงานผสานเครื่องยนต์โรตารี่จะช่วยให้สามารถขับขี่ไปได้ไกลสุดราว 600 กม. 

Mazda MX-30 e-SKYACTIV R-EV

นอกจากนั้นตัวรถยังรองรับการชาร์จไฟทั้งแบบ AC และ DC โดยทางชาร์จไฟแบบ DC ขนาด 36 kW จะใช้เวลาชาร์จไฟเต็มเพียง 25 นาที 

Mazda MX-30 e-SKYACTIV R-EV

พร้อมกับมีโหมดการขับขี่ให้เลือกถึง 3 โหมด ได้แก้ EV, Normal และ Charge mode โดยโหมดนี้สามารถตั้งค่าปริมาณพลังงานแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ได้ด้วยตนเอง โดยเมื่อพลังงานไฟในแบตเตอรี่ลดลงเหลือในระดับที่ตั้งค่าเอาไว้ เครื่องยนต์จะทำงานเพื่อชาร์จไฟให้โดยอัตโนมัติ นอกจากนั้น MX-30 e-Skyactiv R-EV ยังมีปลั๊กจ่ายกระแสไฟฟ้าขนาด 1,500 W ไปยังชุดอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายนอกอีกด้วย

Mazda MX-30 e-SKYACTIV R-EV

Mazda MX-30 e-SKYACTIV R-EV

Mazda MX-30 e-SKYACTIV R-EV

สำหรับในด้านรูปลักษณ์การออกแบบของ MX-30 e-Skyactiv R-EV จะเหมือนกับในรุ่นขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% แต่เพิ่อความพิเศษทาง Mazda จึงได้เพื่อรุ่นพิเศษ Edition R สำหรับ MX-30 e-Skyactiv R-EV ออกมาด้วย โดยในชื่อรุ่นพิเศษตัว R นั้นจะถูกย่อมาจาก คำว่า Return 

Mazda MX-30 e-SKYACTIV R-EV

โดยความจะเพิ่มความพิเศษโดยตัวรถจะมาในตัวถังสีดำเงา พร้อมตกแต่งด้วยขอบสีแดง Malone Rouge Metallic ทีท่ไล่มาตั้งแต่เสา A เลาะขึ้นไปตลอดแนวหลังคา จนไปถึงเสา C ด้านท้ายรถ พร้อมติดแผ่นโลหะที่ปุ้ตรา M A Z D A ไว้ที่เสา C ด้านท้าย 

Mazda MX-30 e-SKYACTIV R-EV

Mazda MX-30 e-SKYACTIV R-EV

Mazda MX-30 e-SKYACTIV R-EV

ขณะที่ภายในห้องโดยสาร ในส่วนเบาะที่นั่งจะถูกหุ้มด้วยหนังสีดำ Jet black พร้อมปั้มโลโก้สัญลักษณ์ของเครื่องยนต์โรตารี่ พร้อมชื่อรุ่น Edition R e-Skyactiv R-EV แบบนูนต่ำไว้ที่พนักพิงศรีษะ นอกจากนั้นในส่วนพรมปูพื้น และกุญแจรีโมท ก็ติดตราสัญลักษณ์เครื่องยนต์โรตารี่แบบพิเศษไว้เช่นกัน 

Mazda MX-30 e-SKYACTIV R-EV

Mazda MX-30 e-SKYACTIV R-EV

สำหรับ Mazda MX-30 e-Skyactiv R-EV พร้อมลงตลาดวางจำหน่ายแล้วในยุโรปช่วงฤดูใบไม้ผลินี้ โดยทาง Mazda ตั้งราคาค่าตัวไว้เท่ากับรุ่น EV โดยมีราคาเริ่มอยู่ที่ 31,995 ปอนด์สเตอร์ลิง หรือราว ๆ 1.28 ล้านบาท

Mazda MX-30 e-SKYACTIV R-EV

ส่วนรุ่นพิเศษ Edition R จะมีเพิ่มขึ้นไปอีกนิดอยู่ที่ 37,950 ปอนด์สเตอร์ลิง หรือประมาณ 1.5 ล้านบาท (ราคาดังกล่าวยังไม่รวมภาษีนำเข้า)