ที่ภายในงาน Motor Show 2024 ทางค่ายรถยนต์มาสด้าได้ปลุกชีพเครื่องยนต์โรตารีขุมพลังสูบหมุนอันขึ้นชื่อของแบรนด์กลับมาใช้งานอีกครั้ง โดยการกลับมาใหม่ครั้งนี้มาในรูปแบบขุมพลัง PHEV เสียบปลั๊กชาร์จไฟ ที่ถูกติดตั้งอยู่บนตัว Mazda MX-30 e-SKYACTIV R-EV ซึ่งนับว่าเป็น 1 ในรุ่นย่อยใหม่ของทาง MX-30
สำหรับ Mazda MX-30 e-Skyactiv R-EV เป็นรถที่มาในรูปแบบตัวถัง SUV-Crossover ในด้านรูปลักษณ์งานออกแบบจะเหมือนกับในรุ่นขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100%
ตัวรถจะมาในตัวถังสีดำเงา พร้อมตกแต่งด้วยเส้ยสายสีแดง Malone Rouge Metallic ที่ไล่มาตั้งแต่เสา A เลาะขึ้นไปตลอดแนวหลังคา จนไปถึงเสา C ด้านท้ายรถ
พร้อมติดแผ่นโลหะที่ปั้มตรา M A Z D A ไว้ที่เสา C ด้านท้าย มาพร้อมแพ็กเกจตกแต่งภายใน และภายนอกแบบ Edition R
ขณะที่ภายในห้องโดยสารเบาะที่นั่งหุ้มด้วยหนังสีดำ Jet black พร้อมปั้มโลโก้สัญลักษณ์ของเครื่องยนต์โรตารี่ พร้อมชื่อรุ่น Edition R e-Skyactiv R-EV แบบนูนต่ำไว้ที่พนักพิงศรีษะ นอกจากนั้นในส่วนพรมปูพื้น และกุญแจรีโมท ก็ติดตราสัญลักษณ์เครื่องยนต์โรตารี่แบบพิเศษไว้เช่นกัน
ด้านแผงแดชบอร์ดจะมากับมาตรวัดดิจิตอลแบบ TFT LCD พร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสีขนาด 7 นิ้ว อีกทั้งยังมาพร้อมกับหน้าจอสี Center Display แบบ Widescreen ขนาด 8.8 นิ้ว ที่รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlay, Android Auto รวมทั้งยังได้รับหน้าจอ HUD แบบ Windshield Active Driving Display
ด้านชุดอุปกรณ์ภายในจะได้รับ เบาะที่นั่งคนขับปรับไฟฟ้าได้ 10 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกตำแหน่งได้ 2 ตำแหน่ง, ระบบเครื่องเสียง Bose พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง, ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย, กระจกมองข้างปรับมุมต่ำลงอัตโนมัติ เมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ, ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า และหลังคาซันรูฟแบบไฟฟ้า
ขณะที่ระบบความปลอดภัย และระบบช่วยเหลือการขับขี่ จะมากับระบบแสดงภาพ 360 องศารอบทิศทาง พร้อมเซนเซอร์กะระยะ หน้า 4 จุด หลัง 4 จุด, ถุงลมนิรภัย 7ตำแหน่ง, ระบบความปลอดภัย i-Activsense : MRCC Stop & Go, CTS, eGVC Plus, ALH, Advanced SBS, ABSM, SBS-R, SBS-RC, RCTA, LAS, LDWS, DAA, TPMS
ในด้านพละกำลังจะมากับเครื่องยนต์โรตารี่ใหม่แบบ Single-rotor ที่มีขนาดกะทัดรัด ถูกประกอบขึ้นจากวัสดุอะลูมิเนียม โดยจะมีน้ำหนักเพียง 15 กก. และมีขนาดความจุที่ 830 ซี.ซี. ให้กำลังสูงสุด 74 แรงม้า (PS) โดยจะทำหน้าที่เป็นเครื่องปั่นไฟกลับเข้าสู่แบตเตอรี่
โดยจะมีมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 166 แรงม้า (PS) แรงบิด 260 นิวตันเมตร ทำหน้าที่หมุนล้อ โดยจะช่วยสร้างอัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ในเวลา 9.1 วินาที ขณะที่ความเร็วสูงุสดนั้นจะถูกจำกัดไว้ที่ 140 กม./ชม. มาพร้อมโหมดการขับขี่ให้เลือกถึง 3 โหมด ได้แก้ EV, Normal และ Charge mode โดยโหมดนี้สามารถตั้งค่าปริมาณพลังงานแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ได้ด้วยตนเอง โดยเมื่อพลังงานไฟในแบตเตอรี่ลดลงเหลือในระดับที่ตั้งค่าเอาไว้ เครื่องยนต์จะทำงานเพื่อชาร์จไฟให้โดยอัตโนมัติ
ขณะที่ตัวแบตเตอรี่นั้นจะเป็นแบบลิเธียมไอออนที่มีขนาดความจุอยู่ที่ 17.8kWh ซึ่งเมื่อเทียบกับแบตเตอรี่ที่มีอยู่ในรุ่น EV จะมีขนาดที่เล็กกว่ามาก ซึ่งเป็นผลมาจากต้องแบ่งเนื้อที่สำหรับติดตั้งถังน้ำมันขนาด 50 ลิตร ด้วยเหตุที่มีแบตเตอรี่ขนาดเล็กลงจึงส่งผลทำให้ MX-30 e-SKYACTIV R-EV คันนี้วิ่งด้วยโหมดไฟฟ้าเพียว ๆ ได้ระยะทางเพียง 85 กม. เท่านั้น แต่เมื่อทำงานทั้งระบบโดยน้ำมันเต้ัมถัง แบตตเรนอี่ชารืจเต็มจะช่วยให้วิ่งได้ระยะทางไกลถึง 600 กม.
นอกจากนั้นตัวรถยังรองรับการชาร์จไฟทั้งแบบ AC และ DC โดยถ้าชาร์จ DC ขนาด 36 kW จะใช้เวลาชาร์จไฟเต็มเพียง 25 นาที ในด้านอัตราสิ้นเปลืองทางมาสด้าเคลมไว้ว่าจะมัอัตราสิ้นเปลืองโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 7.6 ลิตร/100 กม. (WLTP) และมีอัตราสิ้นเปลืองไฟฟ้าโดยเฉลี่ย 17.5kWh/100 กม. (WLTP) มาพร้อมระดับการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อยู๋ที่ 21 กรัม/กิโลเมตร
นอกจากนั้น MX-30 e-Skyactiv R-EV ยังมาพร้อมกับระบบ V2L ที่จ่ายไฟฟ้าได้ 5 kW ไปยังชุดอุปกรณ์ไฟฟ้าภายนอกตัวรถได้อีกด้วย
สำหรับ Mazda MX-30 e-Skyactiv R-EV พร้อมลงตลาดวางจำหน่ายแล้วในยุโรปช่วงฤดูใบไม้ผลินี้ โดยทาง Mazda ตั้งราคาค่าตัวไว้เท่ากับรุ่น EV โดยมีราคาเริ่มอยู่ที่ 31,995 ปอนด์สเตอร์ลิง หรือราว ๆ 1.28 ล้านบาท ส่วนรุ่นพิเศษ Edition R จะมีเพิ่มขึ้นไปอีกนิดอยู่ที่ 37,950 ปอนด์สเตอร์ลิง หรือประมาณ 1.5 ล้านบาท
ขณะที่ในบ้านเรานั้นยังไม่แผนการนำ MX-30 e-Skyactiv R-EV เข้ามาจำหน่ายในช่วงนี้ แต่ถ้ามีผู้สนใจก็ไม่แน่ในอนาคตทางมาสด้าประเทศไทยอาจจะนำเข้ามาจัดจำหน่ายก็เป็นไปได้
โดย Mazda MX-30 e-Skyactiv R-EV รถยนต์ไฟฟ้าพลังโรตารี่ในรูปแบบ PHEV คันนี้ พร้อมให้ผู้สนใจเข้าไปชม และสัมผัสกันอย่างใกล้ชิดได้ที่ภายในบูธของทาง Mazda ที่ภายในงานมอเตอร์โชว์ 2024 ที่มีขึ้นตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 7 เมษายน 2567
