มาสด้าพร้อมเปิดตัว Mazda2 รุ่นไมเนอร์เชนจ์ ในเมืองไทย โดยในรุ่นที่จะเปิดตัวใหม่นี้จะเป็นเพียงรุ่น Minorchange ปรับโฉมใหม่ ไม่ใช่โมเดลใหม่ โดยในโมเดลนี้ยังคงเป็นตัวถังแบบเดิมที่ลากขายมานานกว่า 9 ปี โดยทาง Mazda พร้อมเปิดตัว Mazda2 รุ่นไมเนอร์เชนจ์ปรับโฉมใหม่ ในวันที่ 21 มิถุนายน 2566
ในด้านรูปลักษณ์หน้าตาคาดจะเป็นเวอร์ชั่นเดียวกับ Mazda2 JMD ที่เปิดตัวในแดนปลาดิบ ญี่ปุ่น เมื่อมกราคม 2023 ที่ผ่านมา ส่วนรายละเอียดเบื้องต้นตัวรถจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ทางทีมงาน Autostation.com รวบรวมรายละเอียดบางส่วนมาไว้ให้แล้ว
สำหรับ Mazda2 รุ่นไมเนอร์เชนจ์ปรับโฉมใหม่ ที่เปิดตัวในญี่ปุ่นเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา จะมาพร้อมกับสีตัวถังที่สดใส อีกทั้งยังมากับกระจังหน้าให้เลือก 2 แบบทั้งแบบตาข่ายสีดำ ที่เสริมภาพลักษณ์ที่ดูสปอร์ต และดุดัน หรือจะเป็นกระจังหน้าแบบปิดทึบสีเดียวกับตัวรถ รวมถึงยังเป็นครั้งแรกที่มีการตกแต่งครอบล้อให้เป็นสีเดียวกับเฉดสีตัวรถ
โดย Mazda2 เวอร์ชั่นญี่ปุ่นจะมากับเฉดสีตัวถังใหม่ 2 สี คือสีเทา Aero Grey Metallic และสีฟ้า Airstream Blue Metallic ซึ่งคาดว่าสเปคเมืองไทยก็อาจจะนำ 2 สีใหม่นี้เข้ามาวางจำหน่ายในบ้านเราด้วยเช่นกัน
ในด้านรูปลักษณ์ใหม่ของ Mazda2 รุ่นไมเนอร์เชนจ์ในตลาดญี่ปุ่น ในรุ่น 15 BD (Strawberry Beady) และ XD BD (Crossed Beady) เป็นรุ่นย่อยใหม่จะมาพร้อมกับภาพลักษณ์ที่สดใส โดยจะได้รับการตกแต่งในส่วนฝาครอบดุมล้อให้เป็นสีทูโทน โดยจะมีให้เลือกถึง 6 สี รวมถึงสีตัวถังที่มีให้เลือก 11 สี
อีกทั้งยังสามารถเลือกสีหลังคาที่มีให้เลือก 3 เฉดสี และกระจกมองข้างที่สามารถเลือกสีที่แตกต่างจากสีตัวรถได้
นอกจากนี้ยังสามารถเลือกสีของแผงคอนโซลได้ 3 สี ได้แก่ สีขาว Pure White, สีดำ Gloss Black และสีฟ้า Gloss Light Blue) โดยทางมาสด้าเผยว่าทางลูกค้าสามารถเลือกปรับแต่งได้มากถึง 198 รูปแบบ ตามความชอบของลูกค้า
นอกจากนี้ ยังสามารถเลือกแพ็คเกจสำเร็จรูปได้อีก 2 รูปแบบ คือ Rookie Drive ที่เน้นตกแต่งด้วยชุดแต่งสีส้ม Racing Orange และ Clap Pop ที่เน้นความเรียบหรูด้วยเฉดสีขาว
ขณะที่ในรุ่น 15 SPORT และ XD SPORT+ จะได้รับกระจังหน้าลวดลายตะแกรงตาข่ายแบบพิเศษสีดำ Gloss Black มาพร้อมล้ออะลูมิเนียมขนาด 16 นิ้ว ขณะที่ภายในห้องโดยสารเบาะที่นั่งจะหุ้มด้วยหนังสีดำ เย็บเดินตะเข็บด้วยด้ายสีแดง แผงหน้าปัดตกแต่งด้วยเฉดสีดำ – แดง มาพร้อมปลายท่อไอเสียคู่ขัดเงา และเสาอากาศแบบครีบฉลาม
ส่วนในรุ่นรุ่นท็อปหรือรุ่น 15 Sunlit Citrus จะได้รับการติดตั้งเบาะนั่งปรับด้วยไฟฟ้า มาพร้อมระบฮีทเตอร์ที่พวงมาลัย เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน อีกทั้งในส่วนพวงมาลัย หัวเกียร์ และคันเบรกมือ จะถูกหุ้ทด้วยหนัง มาพร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่ 3 ฟังก์ชัน (MRCC, SBS และ LAS)
ด้านขุมพลังของ Mazda2 เวอร์ชันญี่ปุ่น จะมีทั้งเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1.5 ลิตร Skyactiv-G กำลังสูงสุด 110 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 142 นิวตันเมตร และเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 1.5 ลิตร Skyactiv-D กำลังสูงสุด 105 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ระบบส่งกำลังจะมีให้เลือกทั้งเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด
ส่วนสเปคขุมพลังในบ้านเรานั้นจะมีให้เลือก 2 แบบคือ
- เครื่องยนต์เบนซิน 1.3 Skyactiv-G ให้กำลังสูงสุด 93 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 123 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ 6สปีด ไปยังคู่ล้อหน้า
- เครื่องยนต์ดีเซล 1.5 Skyactiv-D ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดไปยังคู๋ล้อหน้า
สำหรับราคาจำหน่ายของ Mazda 2 รุ่นปรับโฉมใหม่ เวอร์ชั่นในญี่ปุ่น จะมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 1,529,000 – 2,541,000 เยน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 3.68 – 6.42 แสนบาท
ส่วน Mazda2 ในบ้านเรานั้น จะมีสเปค และออปชันที่แตกต่างจาก Mazda2 JMD รวมทั้งจะมีราคาค่าตัวอยู่ที่เท่าไหร่ วันที่ 21 มิถุนายนนี้เซึ่งป็นวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการได้ทราบกันอย่างแน่นอน โดยทางทีมงาน Autostation.com จะนำอัปเดทข้อมูลให้กันอีกครั้งเมื่อ Mazda2 รุ่นไมเนอร์เชนจ์ปรับโฉมใหม่ ถุกเปิดผ้าคลุมออกมา
