เอ็มจี แบรนด์รถยนต์ที่อยู่ภายใต้สังกัดของ SAIC ผู้ผลิตรถยักษ์ใหญ่เบอร์ต้น ๆ ของจีน ประกาศเปิดตัววางจำหน่าย MG5 สปอร์ตคูเป้รุ่นปี 2026 ที่มากับเฉดสีใหม่ทั้งภายนอก และภายในห้องโดยสาร อีกทั้งยังเพิ่มเติมด้วยชุดอุปกรณ์ใหม่ให้มากขึ้น โดยมีทั้งหมด 4 รุ่นย่อย เปิดราคาจำหน่ายไว้ระหว่าง 59,900 – 69,900 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 2.71 – 3.16 แสนบาท
สำหรับ MG5 สปอร์ตซีดานโฉมปี 2026 นี้ ยังคงมาในรูปทรงแบบ ฟาสต์แบ็ก (Fastback) เหมือนกับรุ่นก่อนหน้านี้ โดยจะมีการเพิ่ม 2 สีตัวถังใหม่ ได้แก่ สีส้ม Bubble Orange และ สีเทา Andean Gray ขณะที่สีแดง Flame Red และขาว Snow Mountain White ก็ยังคงมีให้เลือกเช่นเเดิม
ในด้านงานออกแบบดีไซน์ ยังคงมากับรูปลักษณ์ที่ดูแข็งแกร่ง และดุดัน ด้านหน้าจะมากับกระจังหน้าที่ใหญ่ และกว้าง ด้านในตัวกระจังเป้นแบบทรงรังผึ้งสีดำ พร้อมตกแต่งด้วยเส้นโครเมียมรมดำที่เป็นแนวตั้งด้านในที่วางเรียวต่อกัน 12 ชิ้น มาพร้อมโลโก้ MG ที่แปะอยู่ใต้ฝากระโปรงหน้า
มาพร้อมฝากระโปรงหน้าดีออกแบบให้มีความสปอร์ต ด้วยเส้นคู่ที่ลากยาวตลอดแผ่นฝากระโปรงหน้า มาพร้อมไฟหน้า LED ทรงสามเหลี่ยม
เสริมความโฉบเฉี่ยวด้วยช่องดักอากาศรูปทรงตัว C ที่วางขนาบกระจังหน้าทั้ง 2 ฝั่ง ขณะที่ชายกันชนล่างที่ออกแบบให้มีขนาด มาพร้อมชายสเกิร์ตสีดำที่ด้านล่าง
ด้านเส้นสายด้านข้างดูความพริ้วไหว ด้วยเส้นที่ออกแบบให้มีมิติที่ชัดเจน สอดรัลเข้าชุดกับล้ออัลลอยลายคล้ายกลีบดอกไม้ขนาด 17 นิ้ว ที่รัดด้วยยาง 215/50R17
ขณะที่ชุดไฟท้ายก็ยังคงเดิมที่มาในแลบบแยกส่วนตัวโคมออกแบบให้ดูเรียวยาว มาพร้อมฝาท้ายที่ออกแบบให้เป็นแบบทรง Duck Trail ในตัว ส่วนตัวกันชนท้ายออกแบบให้ขนาดใหญ่ มาพร้อมท่อไอเสียแบบคู่แยกซ้าย – ขวา เติมความดุด้วยดิฟฟิวเซอร์สีเดียวกับตัวรถ
ในด้านขนาดมิติตัวรถจะมีความยาวตัวรถอยู่ที่ 4,715 มม. กว้าง 1,842 มม. ความสูง 1,473 มม. และระยะฐานล้อที่ 2,680 มม.
ภายในห้องโดยสารของ MG5 รุ่นปี 2026 จะมานแบบทูโทน โดยจะเป็นสีใหม่ สีส้ม/ดำ พร้อมตกแต่งด้วยวัสดุโครเมียมตามจุดต่าง ๆ ทั้งที่ บริวณช่องแอร์ด้านข้างที่ออกแบบให้เป็นทรงสี่เหลี่ยมด้านเท่า ขณะที่ช่องระบายอากาศตรงกลางจะมาในรูปทรงสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน
ด้านชุดอุปกรณ์ต่าง ๆ นั้นยังคงเดิม แผงแดชบอร์ดจะมากับมาตรวัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว ที่วางฝังไว้บนคอนโซลหน้า โดยมีพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรงสามก้านทรง D-Shape อยู่ด้านหน้า มาพร้อมหน้าจออินโฟนเทนเมนต์แบบสัมผัสใหม่ขนาด 12.3 นิ้ว (สำหรับรุ่นเริ่มต้นจะมีขนาด 10.25 นิ้ว) รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย มาพร้อมระบบอัจฉริยะ Zebra Venus ที่ควบคุมสั่งงานด้วยเสียง
ส่วนตัวเบาะนั่งจะถูกหุ้มด้วยวัสดุหนัง และผ้า ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว นอกจากนั้นยังมากับระบบเครื่องเสียงก็ได้รับการอัปเกรดใหม่จากเดิม ที่มีลำโพงเพียง 6 ตำแหน่ง เพิ่มเป็น 8 ตำแหน่ง มาพร้อมชุดไฟ Ambient Light 256 สี ที่สามารถเปลี่ยนสี และปรับความสว่างได้โดยอัตโนมัติตามจังหวะเพลง และสภาพแสงภายนอก
ขณะที่ส่วนอื่น ๆ ก็ยีงครบครันทั้ง กุญแจ Smart Key, ปุ่ม Push Start, ระบบปรับอากาศแบบดิจิตอลพร้อมกรองอากาศ PM 2.5 มาพร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง และหลังคาซันรูฟ
นอกจากนั้นยังได้รับการอักเกรดระบบ OTA ใหม่ มาพร้อมระบบผู้ช่วยเสียง AI และระบบช่วยเหลือการขับขี่ level 2
ด้านระบบความปลอดภัยตัวรถมีความแข็งแรงทนทานต่อแรงบิดถึง 25,866 นิวตันเมตร/องศา อีกทั้งตัวรถยังคงผลิตขึ้นจากเหล็กกล้าที่มากถึง 65% รวมทั้งยังได้รับ นอกจากนี้ยังมีถุงลมนิรภัย 6 ใบทั่วทั้งห้องโดยสาร
ส่วนพละกำลังขับเคลื่อนของ MG5 รุ่นปี 2026 ยังคงมีความแรงให้เลือก 2 ระดับ ทั้ง เครื่องยนต์ 1.5 และ 1.5T
- เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ให้กำลัง 95 kW / 127 แรงม้า มาพร้อมแรงบิดสูงสุด 158 นิวตันเมตร ส้่งกำลังด้วยชุดเกียร์ CVT 8 สปีด ให้ความเร็วสูงสุด 180 กม./ชม. โดยมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอยู่ที่ 6.38 ลิตรต่อ 100 กม. (WLTC)
- เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร มาพร้อมเทอร์โบชาร์จ ให้กำลัง 133 kW / 178 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 285 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์ DCT 7 สปีด ให้อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ในเวลา 6.9 วินาที ส่วนความเร็วสูงจะอยู่ที่ 200 กม./ชม. โดยจะมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอยู่ที่ 6.45 ลิตรต่อ 100 กม. (WLTC)
โดยทั้ง 2 รุ่นจะมากับถังน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีความจุ 50 ลิตร
ด้านระบบช่วงล่างหน้า MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง และช่วงล่างหลัง Torsion Beam แบบสปอร์ตแปรผันตามความเร็ว พร้อมดิสก์เบรก 4 ล้อ
สำหรับราคาจำหน่ายของ MG5 รุ่นปี 2026 ในตลาดประเทศจีน
- MG5 รุ่น 180DVVT Global Preview ราคา 59,900 หยวน คิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 2.71 แสนบาท
- MG5 รุ่น 180DVVT Global Deluxe Edition ราคา 62,900 หยวน คิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 2.85 แสนบาท
- MG5 รุ่น 300TGI Global flagship version ราคา 66,900 หยวน คิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 3.03 แสนบาท
- MG5 รุ่น 300TGI Global flagship MAX version ราคา 69,900 หยวน คิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 3.16 แสนบาท