หลังจากที่ปล่อยให้แฟนๆ รอกันนานข้ามปี ถึงการมาของขุมพลังใหม่ Hyper Power X2 กำลัง 204 แรงม้า ใน All-New Mitsubishi Triton ในที่สุด Mitsubishi ก็ได้ฤกษ์เปิดตัว และประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการเมื่อช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งล่าสุด…เรามีโอกาสได้ไปทดลองขับ พร้อมพิสูจน์สมรรถนะของขุมพลังใหม่นี้มาแล้ว ในโมเดล Mitsubishi Triton Athlete 2024 ส่วนจะเจ๋งจริงสมการรอคอยหรือไม่? เดี๊ยวรู้กัน!!
สำหรับเครื่องยนต์ Hyper Power X2 นั้น ถือเป็นเครื่องยนต์ที่ทาง Mitsubishi ได้พัฒนาขึ้นมาใหม่ล่าสุด เพื่อใช้งานกับรถกระบะ All-New Mitsubishi Triton โดยเฉพาะ ซึ่งเป็นเครื่องยนต์เทอร์โบคู่ แบบ 2 Stage-Turbo Charger มีการแบ่งการทำงานกันระหว่างรอบต่ำ และรอบสูง ให้การตอบสนองที่ดีในทุกย่านความเร็ว กำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิด 470 นิวตัน-เมตร
โดยทาง Mitsubishi เลือกที่จะนำเครื่องยนต์บล็อคใหม่นี้ มาติดตั้งให้กับโมเดลตัวท็อปอย่าง Mitsubishi Triton Athlete 2024 ที่มีให้เลือกทั้งรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และรุ่น 4×4 โดยวางตำแหน่งทางการตลาดเป็น Sport Premium Pick-Up ที่ชูจุดเด่นด้วยสมรรถนะ ดีไซน์สปอร์ต และฟีเจอร์ที่จัดเต็ม
แต่ก่อนที่เราจะไปว่ากันถึงสมรรถนะการขับขี่ของ Mitsubishi Triton Athlete 2024 ขออนุญาตสรุปให้ทุกท่านได้เข้าใจไปพร้อมๆ กันก่อนว่า “จุดเด่นของ All-New Mitsubishi Triton” มันมีอะไรบ้าง? เปลี่ยนแปลงไปจากโฉมเดิมมากน้อยขนาดไหน
จุดเด่นสำคัญของ All-New Mitsubishi Triton
- ขนาดตัวถังใหญ่ขึ้น / การออกแบบที่แข็งแกร่ง /ภายในกว้างขวาง / กระบะขนาดใหญ่
- เครื่องยนต์ใหม่ Hyper Power X2
- เฟรมใหม่ Mega Frame ใหญ่ขึ้น แข็งแรงขึ้น แต่น้ำหนักเบากว่าเดิม
- ระบบกันสะเทือนใหม่ทั้งหมด ยืดระยะยุบตัวด้านหน้าอีก 20 มม.
- วัสดุภายในคุณภาพสูง อุปกรณ์มาตรฐานครบครัน ง่ายต่อการใช้งาน
- เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ADAS
- ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Super Select 4WD II
มิติตัวถัง
- ความยาว 5,320 มม.
- ความกว้าง 1,865 มม.
- ความสูง 1,795 มม.
- ระยะฐานล้อ 3,130 มม.
- ระยะต่ำสุดจากพื้น 222 มม.
สิ่งที่เพิ่มเติมขึ้นมาในรุ่น Athlete
ดีไซน์ภายนอก
- ชุดตกแต่งกันชนหน้าสีดำ
- ชุดตกแต่งกระจังหน้าสีดำ
- โป่งล้อขนาดใหญ่สีดำ
- ฝาครอบกระจกสีดำ
- มือเปิดประตูสีดำ
- ราวหลังคาสีดำ
- สปอร์บาร์กระบะท้ายสีดำ
- มือเปิดฝากระบะท้ายสีดำ
- กันชนท้ายสีดำ
- ล้อสีดำขนาด 18″
ดีไซน์ภายใน
- ห้องโดยสารสีทูโทนส้ม – ดำ
- ผ้าหลังคาสีดำ
- เบาะหนังสีส้ม สลับ Suede สีดำ เดินด้ายสีส้มแบบรังผึ้ง
- เดินด้ายตะเข็บสีส้มที่พวงมาลัย / คอนโซลหน้า / แผงประตู
- การตกแต่งภายในด้วยสี Smoked Titanium
สมรรถนะที่เหนือกว่า Hyper Power X2
- เครื่องยนต์ Hyper Power X2 กำลัง 204 แรงม้า แรงบิด 470 นิวตัน-เมตร
- ระบบ 2 Stage – Turbo Charger
- หัวฉีดรุ่นใหม่ พร้อมห้องเผาไหม้ที่ออกแบบใหม่
- เพิ่มแรงดันหัวฉีดจาก 2,000 บาร์ เป็น 2,500 บาร์
- ปรับโมเดลกล่อง ECU ใหม่
- เพิ่มวาล์วระบายแรงดันน้ำมันเครื่องแบบแปรผัน
- พวงมาลัยไฟฟ้า
- ระบบควบคุมความเร็วแปรผัน Adaptive Cruise Control
สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาเฉพาะรุ่นท็อปสุด Athlete 4×4
- ระบบ Active Yaw Control (AYC) ระบบควบคุมการขับเคลื่อน และสมดุลขณะเข้าโค้ง
- ระบบ Hill Descent Control ควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน
- ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Super Select 4WD II
- โหมดการขับขี่ 7 โหมด Normal / ECO / Gravel / Snow / Mud / Sand / Rock
สมรรถนะการขับขี่ดีขึ้นทุกมิติ แต่ยังไม่สุด!!
สำหรับสมรรถนะการขับขี่ การทดสอบในครั้งนี้เราได้ขับในเส้นทางดอยแม่สลอง จ.เชียงราย ซึ่งเป็นเส้นทางที่คดเคี้ยว สลับกับการขึ้นเขา และลงเขาอยู่ตลอดเวลา แบบ 2 เลนสวน
ซึ่ง All-New Mitsubishi Triton Athlete 4×4 ก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า เครื่องยนต์ Hyper Power X2 นั้น ไม่ธรรมดา!! การตอบสนองของคันเร่งทั้งจังหวะเร่งแซง หรือดันขึ้นทางชัน ทำได้อย่างไร้ที่ติ แม้ว่าจะมีอากาศ Turbo Lag ให้รู้สึกบ้างเล็กน้อย แต่ก็ถือว่าทำได้ดีกว่าเครื่องยนต์เทอร์โบเดี่ยวของค่ายคู่แข่งที่แรงม้าสูงกว่านี้
รอบแรงบิด 470 นิวตัน-เมตร มีมาให้ใช้งานตั้งแต่ 1,500 – 2,750 รอบ/นาที ซึ่งถือว่าเป็นรอบแรงบิดที่กว้าง พอจะใช้งานเร่งแซง หรือบรรทุกของหนักขึ้นทางชันได้ไม่หายห่วง อัตราเร่งช่วงต้นรู้สึกถึงแรงดึงที่มีมามากพอสมควร ส่วนความเร็วลอยตัวไต่ขึ้นเรื่อยๆ ใช้รอบเครื่องยนต์ต่ำ แต่อัตราประหยัดน้ำมันยังไม่ดีเท่าที่ควร ทริปนี้เราขับระยะทางรวม 270 กม. ทำได้ที่ 11.4 กม./ลิตร (ใช้โหมด 4H บนดอยแม่สลอง)
ในด้านพละกำลังถือว่าตอบสนองได้ดีกว่าโฉมเก่าของตัวเอง และรุ่นเทอร์โบเดี่ยวอย่างรู้สึกได้ แต่ส่วนตัวคิดว่ามันน่าจะอัปเกรดได้แรงกว่านี้ ในเมื่อเปิดตัวมาทีหลังคู่แข่งที่ทะลุ 205 กับ 210 แรงม้าไปแล้ว ทำไม Mitsubishi ถึงไม่อัดให้เป็น 220 แรงม้า ไปเลยให้รู้แล้วรู้รอด เดี๊ยวถ้าคู่แข่งเขาเปิดตัวเจนฯ ใหม่ ก็ต้องกลับมาเป็นรองเขาอีกที ทั้งๆ ที่ก็รู้อยู่แล้วว่าเจนฯ ใหม่ คู่แข่งกำลังจะมา!!
ส่วนในเรื่องของ Handling และระบบช่วงล่าง อันนี้ต้องขอชื่นชม แม้ว่าระบบช่วงล่างจะไม่ได้มีการเซ็ทอัพใหม่ให้แตกต่างไปจากรุ่นย่อยอื่นๆ (คู่แข่งรุ่น GR Sport มีการเซ็ทอัพที่สปอร์ตกว่า) แต่การได้มาของพวงมาลัยไฟฟ้า และระบบ AYC เฉพาะในรุ่น Athlete ก็ช่วยให้การควบคุมรถบนเส้นทางที่คดเคี้ยวเป็นเรื่องที่ง่าย และมั่นใจได้มากยิ่งขึ้น น้ำหนักพวงมาลัยเซ็ทเอาไว้ได้พอดิบพอดีทั้งช่วงความเร็วต่ำ และความเร็วสูง รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 6.2 เมตร แม้ใช้ขับ 4H ถือว่าเป็นรถกระบะที่ให้ความคล่องตัวใช้ได้เลย ขับในเขตชุมชน จังหวะหักหลบกระทันหัน ไม่โยน ไม่สะบัด AYC เอาอยู่!!
ส่วนช่วงล่าง อยากให้ลืมภาพความเด้งดึ๋งดั๋ง ความตึ้งตั้งของรถกระบะออกไปเลย เพราะ All-New Mitsubishi Triton Athlete มีความนุ่มนวลของช่วงล่างที่ใกล้เคียงกับรถ SUV หรือรถ Passenger มากๆ แม้ว่าจะเป็นพื้นฐานรถกระบะ (ช่วงล่างหลังเป็นแหนบ / Body on Frame) โดยตัวรถมีความแน่น หนึบ เกาะถนนใช้ได้ ยิ่งถ้าใช้โหมดขับเคลื่อนสี่ล้อ 4H หรือ 4HLc ด้วยแล้ว ยิ่งขับได้สนุก และมั่นใจเข้าไปใหญ่ กลายเป็นโค้งบนดอยแม่สลองไม่มีอะไรท้าทายเลยซะอย่างนั้น แต่ถ้านั่งตอนหลังอาจจะมีกระเด้งกระดอนอยู่บ้าง เพราะท้ายกระบะมันเบา ถ้าใส่สัมภาระ หรือโหลดน้ำหนักลงไปหน่อย น่าจะขับไม่ต่างอะไรจากรถ SUV เลยจริงๆ
แต่สิ่งที่ขาดหายไป และรู้สึกว่าทำไมไม่ให้มา ก็คือ แป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift ซึ่งเส้นทางที่ทดสอบในครั้งนี้ บอกเลยว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆ ในการใช้ Engine Brake จากการเชนจ์เกียร์ต่ำ ซึ่งทาง Mitsubishi มีให้ใช้ที่คันเกียร์เท่านั้น แต่ทว่าถ้ามี Paddle Shift มาให้ มันคงขับสนุก และควบคุมรถได้ง่ายกว่านี้ ในเมื่อวางตำแหน่งทางการตลาดว่าเป็น Sport Premium แล้ว สิ่งที่จะช่วยให้คนขับรู้สึกถึงความสปอร์ต ทำไมไม่ใส่มา?
บทสรุป
โดยภาพรวมแล้ว ต้องบอกว่าสมการรอคอย เครื่องยนต์ Hyper Power X2 ใน Mitsubishi Triton Athlete 2024 มอบสมรรถนะการขับขี่ที่ดีขึ้นในทุกมิติจริงๆ เป็นเครื่องยนต์ที่มีกำลังสูงเป็นอันดับต้นๆ ในรถกระบะที่มีขายในบ้านเรา ระบบช่วงล่าง และระบบช่วยเหลือการขับขี่ใช้ได้ ไม่น้อยหน้าใคร โหมดการขับขี่ โหมดขับ 4 เส้นทาง Off-Road ทุกคนคงรู้กันดีอยู่แล้วว่า Mitsubishi เขาแชมป์ Rally แชมป์ Rally Dakar มากี่สมัย คงไม่ต้องให้สาธยาย
แต่สิ่งที่ขัดใจไปหน่อยก็คือ ทำไมถึงพึ่งมาเปิดตัวเอาช่วงนี้ ช่วงที่ยอดขายรถกระบะตกหวบ และทำไมไม่อัปเกรดเครื่องยนต์ให้มีสมรรถนะนำหน้าคู่แข่งไปเลย เดี๊ยวพอถึงวันที่คู่แข่งเขาเปลี่ยนเจนฯ ก็กลายเป็นต้องเหนื่อยอีกรอบ แต่ถ้าถามว่า ณ เวลานี้ ซื้อได้เลยไหม ตอบตรงนี้เลย ถ้าไม่คิดเรื่องราคาขายต่อ ไม่คิดว่าต้องเป็นแบรนด์เจ้าตลาด Mitsubishi Triton Athlete 2024 เครื่อง Hyper Power X2 ขับดีที่สุดในเลทราคานี้เมื่อเทียบกับคู่แข่ง
ราคาจำหน่าย All-New Mitsubishi Triton Athlete
- รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ ราคา 1,125,000 บาท
- รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคา 1,298,000 บาท
