ขณะที่ช่วงนี้ยังอยู่ในกระแสงาน Japan Mobility Show 2023 หรือชื่อเดิมที่รู้จักกันในงาน Tokyo Motor Show ที่มีขึ้นในประเทศญี่ปุ่น แต่ในปลายเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ที่บ้านเรา ก็จะมีงานใหญ่ประจำปีอย่าง Motor Expo 2023 โดยในงานนี้ก็จะมีบรรดาค่ายรถน้อยฝหญ่ต่างขนยนตกรรมของทางค่ายมาจัดแสดงโชว์ โดยเฉพาะค่ายรถจากเมืองจีนที่ในปีมีมากกว่าทุก ๆ ปีที่ผ่านมา
อย่างล่าสุดทางค่าย NETA หนึ่งในแบรนด์รถจากเมืองจีนที่มาทำตลาดในไทย ก็เตรียมส่งยนนตกรรมของค่ายค่ายมาจัดแสดง โดยไฮไลท์เด็ดของทางเนต้าในปีนี้จะนำเจ้า NETA GT สปอร์ตคูเป้ไฟฟ้าแบบ 2 ประตู 4 ที่นั่ง มารวมโชว์จัดแสดงภายในงาน Motor Expo 2023 ในปีนี้
ซึ่งก่อนไปพบเจอตัวจริงของ NETA GT ทางทีมงาน Autostation.com มีข้อมูลบางส่วนของ รถยนต์พลังงานไฟฟ้าสไตล์ Sport Coupe มานำเสนอกันก่อน
สำหรับ NETA GT เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่มาในรูปแบบสปอร์ตคูเป้ 2 ประตู ซึ่งเวอร์ชันที่เปิดจำหน่ายในเมืองจีนนั้น ถูกเปิดตัวครั้งแรกเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยทาง Hozon Auto ประเทศจีนตั้งราคาจำหน่ายไว้ที่ 178,800 – 226,800 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 8.82 แสนบาท – 1.11 ล้านบาท
ด้านงานออกแบบดีไซน์ของ NETA GT ตัวรถออกแบบดีไซน์ไม่มีกระจังหน้า มีเพียงช่องรับอากาศขนาดใหญ่ที่กันชนหน้าถึง 3 จุดด้านข้างที่มาทรงสามเหลี่ยม และด้านล่าง เสริมความโฉบเฉี่ยวตามแบบฉบับรถสปอร์ตด้วยการติดตั้งสเกิร์ตสีดำรอบคันทั้งที่ชายกันชนหน้า ด้านข้างตัวถัง และด้านท้าย
มาพร้อมชุดไฟหน้า LED ทรงเรียวยาว ที่ออกแบบให้ดูพลิ้วไหวไปตามตัวบังโคลนหน้า นอกจากนี้ในส่วนฝากระโปรงยังมีการเจาะรูให้มีช่องรับอากาศปลอม
เส้นสายด้านข้างได้รับการออกแบบให้เน้นลู่ลม ตรงตามหลักอากาศพลศาสตร์ ประตูเป็นแบบไร้กรอบกระจก ส่วนมือเปิดประตูจะมาในแบบแบบราบเรียบไปกับตัวรถ มาพร้อมล้อขนาดใหญ่ 19 นิ้ว รัดด้วยยาง 245/45 R19 พร้อมคาลิปเปอร์สีแดงที่ด้านใน
ด้านท้ายออกแบบให้มีความลาดเทตามสไตล์รถคูเป้ จะพร้อมกระจกบานหลังขนาดใหญ่ เสริมความสปอร์ตด้วยสปอยเลอร์หลังในตัว มาพร้อมชุดกันชนหลังสีดำที่ตกแต่งด้วยเส้นสายสีแดงเสริมภาพลักษณ์ทำให้ตัวรถดูร้อนแรง และสปอร์ตมากยิ่งขึ้น ด้วยงายออกแบบดีไซน์ที่ ทำให้ตัวรถมีความลู่ลมโดยมีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานเพียง 0.21 Cd
ในด้านมิติตัวขนาดตัวรถ NETA GT จะมีความยาว 4,715 มม., กว้าง 1,979 มม., สูง 1,415 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,770 มม.
ภายในห้องโดยสารของ NETA GT จะรองรับได้ 4 ที่นั่ง ตกแต่งด้วยวัสดคาร์บอนตามจุดต่าง ๆ มาพร้อมวัสดุบุนุ่มทั่วทั้งคัน
เบาะที่นั่งหุ้มด้วยหนัง Nappa ตัวเบาะที่นั่งด้านหน้าจะมาในทรงสปอร์ต พร้อมตีตราสัญลักษณ์ NETA ไว้ที่พนักพิงศรีษะ
แผงแดชบอร์ดจะได้รับการติดตั้งจอแสดงข้อมูลจะเป็นแบบดิจิทัลขนาด 10.25 นิ้ว วางอยู่ด้านหลังพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรง D-Shape มาพร้อมคันเกียร์ที่อยู่ด้านหลัง
ขณะที่หน้าจอส่วนกลางแบบสัมผัสจะมาในแนวตั้งขนาด 17.6 นิ้ว ที่มีความละเอียดสูงถึง 2.5K พร้อมติดตั้งชิปประมวลผลรุ่นล่าสุด Qualcomm Snapdragon 8155 Generation 3 พร้อมซีพียูแบบ 8-Core และโปรเซสเซอร์ 7nm ที่ช่วยให้ทุกการประมวลผลและการใช้งานรวดเร็วทันใจมากยิ่งขึ้น พร้อมสามารถควบคุม และสั่งการระบบของรถรวมถึงความบันเทิงต่าง ๆ
คอนโซลกลางจะถูกเชื่อมต่อกับคอนโซลหน้ามีพื้นที่ขนาดใหญ่ โดยออกแบบให้มีช่องวางแก้ว 2 ช่อง รวมทั้งยังมีแท่นชาร์จสมาร์ตโฟน และปุ่ม Start/Stop
นอกจากนั้นยังระบบปรับอากาอัตโนมัติ, ชุดเครื่องเสียงพร้อมลำโพง 12 จุดทั่วทั้งคัน ปิดท้ายด้วยหรูหราด้วยหลังคาแก้วพาโนรามิก
NETA GT มาพร้อมระบบช่วยในการขับขี่ NETA PILOT 2.5 โดยจะมีทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง และขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ โดยในรุ่นขับหลังจะมากับมอเตอร์ไฟฟ้าที่วางอยู่ที่เพลาคู่ล้อหลังกำลังสูงสุด 231 แรงม้า ในด้านแบตเตอรี่จะมีให้เลือก 2 ขนาดคือ แบตเตอรี่ขนาด 64 kWh ชาร์จไฟเต็มวิ่งไกล 550 กม. ตามาตรฐาน CLTC และชุดแบตเตอรี่ขนาด 78 kWh ชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้งวิ่งไกล 660 กม. ตามาตรฐาน CLTC
ขณะที่ในรุ่น AWD จะได้รับการติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าแบบคู่ที่วางอยู่ทั้งล้อคู้หน้า และหลังให้กำลังรวม 462 แรงม้า ให้อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ในเวลา 3.7 วินาทื นอกจากนั้นยังมากับปุ่ม “One-Click Eject Button” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการออกตัวแบบพุ่งทะยานไปข้างหน้าด้วยอัตราเร่งสูงสุด
ระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบ Double Wishbone และด้านหลังแบบ Five-link ที่ได้รับการปรับจูนช่วงล่างแบบสปอร์ต และการออกแบบให้รถมีความสมดุลด้วยการกระจายน้ำหนักหน้า-หลังที่อัตราส่วน 50:50 มาพร้อมเบรกคาลิเปอร์ประสิทธิภาพสูงด้านหน้าแบบ 4 พ๊อต ด้านหลังแบบพ็อตเดียว
ระบบความปลอดภัยมากัยระบบขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง Dual Horizon Journey มากับกล้องรอบคัน 5 ตำแหน่ง เซนเซอร์แบบอัลตราโซนิค 12 ตำแหน่ง เรดาร์แบบ Millimeter wave 5 ตำแหน่ง และระบบช่วยเหลือในการขับขี่อีก 17 ระบบ
โดยที่ในงาน Motor Expo 2023 นั้นจะ NETA GT จะเป็นเพียงการนำมาโชว์ตัวเท่านั้น ยังไม่มีการเปิดวางจำหน่ายแต่อย่างใด แต่ในอนาคตไม่แน่มีลุ้นข้ามาทำตลาดในเมืองไทย ซึ่งถ้าเข้ามาจริงก็คาดว่าจะเป็นรถยนต์สปอร์ตคูเป้ไฟฟ้า ที่มีราคาเข้าถึงง่าย เพราะเห็นจากราคาตั้งต้น ที่เมืองจีนนั้นมีราคาที่ไม่สูงมากนัก
ซึ่งถ้านำเข้ามาจำหน่ายจริงก็คงจะหนีไม่พ้นที่จะเข้ามาเป็นคู่แข่งของ BYD SEAL รวมถึง ORA Grand Cat และ ChangAn Deepal SL03 ที่ทั้ง 2 รุ่นหลังนี้จะเปิดเตัวในไทยในช่วงปลายปีนี้ที่ในงาน Motor Expo 2023
