NETA เผยโฉม NETA GT รถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้า 100% ครั้งแรกในไทย โดยมีให้เลือกด้วยกัน 2 เวอร์ชั่น ได้แก่ รุ่น Long Range และ รุ่น Performance ซึ่งมาพร้อมกับสมรรถนะระดับ Super Car และเตรียมนำไปโชว์ตัวจริงที่งาน Motor Expo 2023
ดีไซน์สปอร์ต เน้นหลัก Aerodynamic
สำหรับ NETA GT นั้น จัดเป็นรถสปอร์ตขนานแท้ ซึ่งมาพร้อมกับรูปลักษณ์ดีไซน์ที่สปอร์ตรอบคันในสไตล์แบบ 2 ประตู Coupe มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศ Cd ต่ำถึง 0.21 เท่านั้น
โดดเด่นด้วยระบบไฟ Full LED รอบคัน, หลังคากระจก Panoramic Glass Roof, ล้ออัลลอยลายสปอร์ตขนาด 19″ มือเปิดประตูแบบแนบกับตัวรถ และที่สำคัญมาพร้อมกับระบบช่วยเหลือการขับขี่ และระบบความปลอดภัย NETA Pilot 2.5 เป็นกึ่งขับขี่อัตโนมัติ Lv.2 ที่มาพร้อมชุดกล้องรอบคัน 4 ตำแหน่ง กล้อง ADAS ที่กระจกบานหน้า 1 ตำแหน่ง เซ็นเซอร์ 12 ตำแหน่ง และเรดาร์อีก 5 จุด ที่ทำงานผ่านชิพประมวลผลเวอร์ชั่นล่าสุดของ Journey 3
มิติตัวถัง NETA GT
- ความยาว : 4,715 มม.
- ความกว้าง : 1,979 มม.
- ความสูง : 1,415 มม.
- ระยะฐานล้อ : 2,770 มม.
ช่วงล่างรองรับการขับขี่สมรรถนะสูง
ระบบช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบ Double Wishbone Independent และด้านหลังเป็นแบบ 5-Link Independent เหมือนกันทั้ง 2 รุ่นย่อย
แต่รุ่น Performance จะได้รับการติดตั้งยาง Michelin Pilot Sport ที่ขนาด 245/45R19 และระบบเบรกที่เหนือกว่ารุ่น Long Range เพื่อรองรับกับการขับขี่ที่สปอร์ต และรีดสมรรถนะของตัวรถได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ในส่วนของภายใน มาพร้อมกับการตกแต่งที่สปอร์ตและพรีเมียม ด้วยห้องโดยสารแบบทูโทน และเพียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์มาตรฐานระดับท็อปคลาส ไม่ว่าจะเป็น หน้าจออินโฟเทนเมนท์ขนาด 17.6 นิ้ว ที่รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto ที่มาพร้อมชิพประมวลผลใหม่ล่าสุด Qualcomm Snap Dragon รองรับสัญญาณ 4G / Wifi พร้อมระบบนำทางเนวิเกชันแบบ Real-Time GPS และสามารถสั่งการตัวรถผ่านมือถือได้
หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 10.25 นิ้ว แสดงผลในรูปแบบ Full Digital เบาะนั่งแบบสปอร์ต Bucket Seat ฝั่งผู้ขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง และผู้โดยสารตอนหน้า 4 ทิศทาง มาพร้อมระบบปรับอากาศแยกอิสระซ้าย – ขวา และแท่นชาร์จไร้สาย Wireless Charger เพิ่มสุนทรียภาพในการขับขี่ได้เต็มที่ด้วยชุดเครื่องเสียงลำโพง 12 ตำแหน่ง และปุ่มคริสตัลสำหรับเข้าโหมด Launch Control
สมรรถนะเทียบชั้น Super Car
รุ่น Long Range มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อหลัง RWD กำลัง 231 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-100 ทำได้ใน 6.5 วินาที แบตเตอรี่มีความจุ 74.48kWh สามารถขับได้ไกล 660 กม./การชาร์จ (มาตรฐาน CLTC)
รุ่น Performance มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD กำลัง 462 แรงม้า แรงบิด 620 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-100 ทำได้ใน 3.7 วินาที แบตเตอรี่มีความจุ 78kWh สามารถขับได้ไกล 580 กม./การชาร์จ (มาตรฐาน CLTC)
ระบบความปลอดภัยกึ่งขับขี่อัตโนมัติ Lv.2
ระบบความปลอดภัยของ NETA GT จัดเต็ม มาพร้อมกับระบบกึ่งขับขี่อัตโนมัติ Lv.2 จากชุดระบบ NETA Pilot 2.5 ที่ประกอบไปด้วย
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ TJA
- ระบบควบคุมความเร็วอัจฉริยะ ICA
- ระบบช่วยเตือนเปลี่ยนเลนความเร็วสูง HWA
- ระบบเตือนการชนด้านหน้า FCW
- ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA
- ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW
- ระบบเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA
- ระบบเตือนวัตถุด้านหน้า FCTA
- ระบบเตือนขณะถอยหลัง RCTA
- ระบบเตือนเมื่อเปิดประตู DOW
- ระบบเตือนป้ายจราจร TSR
- ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ APA
ทั้งนี้ NETA ยังไม่ประกาศชัดว่า จะเปิดตัว NETA GT อย่างเป็นทางการเมื่อไหร่ แต่ยืนยันแล้วว่าจะนำคันจริงไปโชว์ที่ตัวงาน Motor Expo 2023 พร้อมกับ NETA S และเอสยูวีรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง NETA X