อาวดี้ เปิดประสบการณ์ใหม่ พร้อมให้สัมผัสกับการเดินทางแบบ First Class ด้วยการเผยโฉมเปิดตัว Audi A8 L TFSI e ซีดานปลั๊กอินไฮบริดสุดหรู ที่เพียบพร้อมไปด้วยฟังก์ชันนวัตกรรมระดับไฮเอนด์อย่างครบครัน มาพร้อมขุมพลังแรงระดับ 462 แรงม้า เปิดราคาจำหน่ายในไทยเริ่มที่ 7.199 ล้านบาท
สำหรับ Audi A8 L 60 TFSI e quattro Prestige S Line สปอร์ตพรีเมียมขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด มาพร้อมกับดีไซน์ที่โดดเด่น สง่างามเหนือระดับ พร้อมเทคโนโลยีระบบไฟฟ้าขั้นสูง เพียบพร้อมไปด้วยฟังก์ชันนวัตกรรมระดับไฮเอนด์อย่างครบครัน
ภายในห้องโดยสารสร้างประสบการณ์อันไร้ที่ติในทุกการเดินทาง ที่เพิ่มความสะดวกสบายผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น สามารถควบคุมการใช้งานภายในรถได้จากด้านหลังด้วยหน้าจอส่วนตัวพร้อมจอ OLED แบบสัมผัสขนาด 5.7 นิ้ว
เบาะหลังแยกซ้ายขวาออกจากกันให้ความเป็นส่วนตัว พร้อมที่พักเท้าแบบอุ่นร้อนและฟังก์ชันนวดเท้า หลังคาพาโนรามิคเลื่อนเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า ม่านบังแดดปรับไฟฟ้าสำหรับกระจกด้านหลังและกระจกข้างด้านหลังเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัว ไฟอ่านหนังสือภายในแบบ Matrix LED เพื่อความสะดวกสบายในการมองเห็นภายในรถ นอกจากนั้นในส่วนเบาะที่นั่งจะตกแต่งให้ดูสปอร์ตมากขึ้นด้วยลาย Diamond cut
ในด้านพละกำลังมาพร้อมกับเครื่อยนต์ V6 3.0 TFSI ให้กำลังสูงสุดถึง 340 แรงม้า ทำงานคู่กับระบบขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีกำลังสูงสุดถึง 136 แรงม้า ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์ Tiptronic 8 จังหวะ ไปยังล้อทั้งสี่ ผ่านระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ quattro ให้กำลังสูงสุด 462 แรงม้า เร่งความเร็วจาก 0 – 100 กม. / ชม. ภายใน 4.7 วินาที และทำความเร็วสูงสุด 250 กม. / ชม. อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเพียง 2.3 ลิตร / 100 กิโลเมตร
มีโหมดการขับขี่ให้เลือกถึง 4 โหมด ได้แก่ EV Mode, Battery Hold, Battery Charge, และ Hybrid โดยตัวรถจะทำงานแบบคาดการณ์ล่วงหน้า และถูกเปิดใช้งานโดยอัตโนมัติเมื่อมีการเริ่มการใช้ระบบนำทาง MMI Navigation plus with MMI touch response การชาร์จแบตเตอรี่ทำได้อย่างชาญฉลาดและปรับให้เหมาะสมต่อการขับขี่ตลอดเส้นทาง รถจะใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นหลักเมื่ออยู่ในตัวเมืองและในการจราจรที่แน่นหนา โดยทั่วไปแล้วระบบจะคำนวณการขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าให้ได้มากที่สุด และใช้แบตเตอรี่ที่มีอยู่ให้หมดเมื่อถึงจุดหมายปลายทาง
พร้อมกับวิ่งด้วยโหมดไฟฟ้าเพียว ๆ ได้ระยะทางไกลสุด 52 กม.ตามมาตรฐาน WLTP โดยจะให้ความเร็วในโหมดไฟฟ้าอยู่ที่ 135 กม./ ชม. พร้อมรองรับการชาร์จไฟได้สูงสุด 7.4 kWh ใช้เวลาเพียง 2 ชม. สำหรับการชาร์จด้วยไฟ 220 ก็สามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มได้ภายในเวลาไม่เกิน 4 ชม.
นอกจากนั้นเมื่อรถมีการเคลื่อนที่แบบลอยตัว ตัวรถจะทำการชาร์จไฟกลับสู่แบตเตอรี่ด้วยระบบ Coasting Recuperation โดยระบบนี้จะสามารถคืนพลังงานไฟฟ้าให้กับรถได้มากถึง 25 kW นอกจากนั้นในขณะที่ผู้ขับขี่ทำการเบรก Audi A8 L 60 TFSI e quattro จะสามารถคืนพลังงานเข้าแบตเตอรี่ได้สูงสุดถึง 80 kW ด้วยระบบ Brake recuperation โดยมีหน้าจอ Virtual Cockpit และระบบ MMI หน้าจอระบบสัมผัสที่ทำให้ผู้ขับขี่สามารถดูข้อมูลการขับขี่ได้อย่างหลากหลาย เช่น มาตราวัดกำลัง ระยะทาง หรือพลังงานในปัจจุบันของระบบเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า เป็นต้น เพื่อจะได้เลือกการขับขี่ได้อย่างถูกต้อง
ในด้านระบบความปลอดภัยจะมาแบบครบครัน อาทิระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ (Audi pre sense basic), ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุด้านหลัง (Audi pre sense rear), ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตาเมื่อเปลี่ยนเลน (Lane change assist), ระบบแจ้งเตือนสภาพแวดล้อมด้านข้างและด้านท้ายรถเมื่อเปิดประตูลงจากรถ (Exit warning), ระบบแจ้งเตือนสภาพแวดล้อมด้านข้างและด้านท้ายรถเมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง (Rear cross traffic assist) เป็นต้น
Audi A8 L TFSI e จะมีสีภายนอกให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีขาว Metallic Glacier White, สีดำ Metallic Mythos Black, สีบรอนซ์เงิน Metallic Floret Silver และ 2 สีใหม่ สีน้ำเงิน Metallic Firmament Blue, สีเขียว Metallic District Green ขณะที่เฉดสีภายในห้องโดยสารจะมีให้เลือก 2 สี คือ สีน้ำตาล Cognac Brown และสีดำ Black
สำหรับราคาจำหน่าย Audi A8 L 60 TFSI e quattro Prestige S line เปิดให้จองแล้วในราคา 7,199,000 บาท