BMW XM Label Red ซูเปอร์เอสยูวี รถยนต์เรือธงที่รวบรวมเอาที่สุดแห่งขุมพลัง ความพิเศษ และความหรูหรา เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจและทรงพลังแบบไม่เหมือนใคร ที่ผลิตมาในจำนวนจำกัดทั่วโลกเพียง 500 คันเท่านั้น เปิดราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทยที่ 7,499,000 บาท พร้อมกับเปิดโชว์ตัวจริงให้ได้สัมผัสกันที่ในงาน Motor Expo 2023 ปลายเดือน พ.ย. ที่จะถึงนี้
สำหรับ BMW XM Label Red เป็นรถสปอร์ตอเนกประสงค์ หรือ Sports Activity Vehicle (SAV) รหัสตัวแดงตระกูล M ที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดดเด่น ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เหนือขอบเขตเดิม ๆ พิเศษด้วยการระบุเลขรหัส ‘1 of 500’ บนป้ายบริเวณด้านล่างของจอ Control Display บ่งบอกถึงความเป็นรถ ‘ลิมิเต็ด เอดิชัน’ อย่างแท้จริง
การออกแบบภายนอกโดดเด่นด้วยสีตัวถังภายนอกสีดำ BMW Individual Frozen Carbon Black Metallic กระจังหน้าทรงไตคู่ตามแบบฉบับบีเอ็มดับเบิลยู M พร้อมขอบสองชั้นรูปทรงแปดเหลี่ยมที่ด้านหน้ามาในรูปทรงแนวนอนอันโดดเด่น ซึ่งเป็นจุดเด่นของรถสปอร์ตสมรรถนะสูงจากบีเอ็มดับเบิลยู M ขอบด้านนอกของกระจังหน้าทรงไตคู่แต่ละข้างยังตกแต่งด้วยสีแดง Toronto Red metallic ในขณะที่ขอบด้านในมากับไฟ Iconic Glow รูปทรงโค้งมนเป็นวงแหวนไฟที่ให้แสงอย่างคมชัดและต่อเนื่อง แถบเน้นสีมันวาวตัดกับพื้นผิวสีแบบด้านซึ่งส่องแสงระยิบระยับทำให้ภายนอกของบีเอ็มดับเบิลยู XM Label Red มีลักษณะที่น่าดึงดูดใจเป็นพิเศษ
ภายในห้องโดยสารเบาะที่นั่งหุ้มด้วยหนังสีดำ Black ตัดกับสีแดง Fiona Red BMW Individual Merino โดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยส่วนประกอบแบบเอ็กซ์คลูซีฟ เช่น ตราสัญลักษณ์ ‘XM’ สีแดงอันเป็นเอกลักษณ์ตรงใต้หน้าจอ Control Display และแถบตกแต่งภายในคาร์บอนไฟเบอร์แบบซาติน ประดับด้วยด้ายเน้นสีแดงและน้ำเงิน
พวงมาลัยหุ้มหนังดีไซน์ M มีส่วนประกอบตกแต่งในสีดำโครเมียม พร้อมด้วยปุ่ม M และแป้นเปลี่ยนเกียร์คาร์บอนซึ่งมีสัญลักษณ์บวกและลบเป็นสีแดง และอีกหนึ่งคุณสมบัติพิเศษเฉพาะของบีเอ็มดับเบิลยู XM Label Red ได้แก่ ตราสัญลักษณ์ที่ระบุโหมดการขับขี่แบบ Boost Mode บนแป้นเปลี่ยนเกียร์ด้านซ้าย ส่วนห้องโดยสารด้านท้ายแบบ M Lounge สุดพิเศษ ยังมอบความรู้สึกที่กว้างขวางให้กับผู้โดยสาร พร้อมการตกแต่งด้วยวัสดุคุณภาพสูงและการออกแบบที่หรูหรา
ยังพิเศษเหนือใครด้วยผ้าบุหลังคาอันเปรียบเสมือนประติมากรรม 3 มิติ ลวดลายแบบปริซึมมีกรอบล้อม พร้อมด้วยหลอดไฟ LED กว่า 100 ดวงที่ให้แสงสว่างสร้างบรรยากาศที่งดงาม ลงตัวในทุกอารมณ์และเหมาะสมกับทุกเส้นทาง แผงหน้าปัดที่ตกแต่งด้วยเครื่องหนังสร้างความสะดุดตาและเพิ่มความหรูหราให้กับภายใน เพิ่มความสมบูรณ์ด้วยระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 4 โซน ระบบเสียงรอบทิศทาง Bowers & Wilkins Diamond surround พร้อมด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่และระบบความปลอดภัยอีกมากมายที่มอบทั้งความสะดวกสบายและความอุ่นใจในทุกการเดินทาง
ขุมพลังขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินแบบ V8 พร้อมเทคโนโลยี M TwinPower Turbo อันล้ำสมัย และระบบขับเคลื่อน M HYBRID ซึ่งให้กําลังรวมสูงสุด 550 kW /748 แรงม้า มาพร้อมแรงบิดสูงสุด 1,000 นิวตันเมตร เครื่องยนต์สันดาปยังให้กำลังเครื่องยนต์สูงสุด 430 kW/585 แรงม้า ที่ 5,600 – 6,500 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 750 รอบต่อนาที ที่ 1,800 – 5,400 รอบต่อนาที
ส่วนระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าให้กำลังมอเตอร์สูงสุดที่ 145 kW/197 แรงม้า พร้อมแรงบิดมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 280 นิวตันเมตร นอกเหนือจากการจ่ายกำลังไฟฟ้าในระหว่างการเร่งความเร็วแล้ว มอเตอร์ไฟฟ้ายังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์สันดาป โดยบีเอ็มดับเบิลยู XM Label Red สามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.8 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 290 กม./ชม. โดยมีระยะขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าได้ไกลถึง 96 กม. ตามมาตรฐาน NEDC
ระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะ 4 ล้อ M xDrive ช่วยถ่ายทอดกำลังที่เกิดจากเครื่องยนต์สันดาปและมอเตอร์ไฟฟ้าไปที่ล้อทั้งสี่ได้อย่างแม่นยำ รวดเร็ว และตรงตามความต้องการใช้งานตลอดเวลา ระบบเฟืองท้าย M Sport ยังช่วยเสริมสมรรถนะของรถด้วยการกระจายกำลังขับเคลื่อนระหว่างล้อหลัง ช่วยให้ตัวรถยึดเกาะถนนได้ดียิ่งขึ้น พร้อมเสริมเสถียรภาพการขับขี่ในสถานการณ์ต่าง ๆ
ระบบช่วงล่างแบบ Adaptive M Suspension Professional มอบการควบคุมแบบสปอร์ตโดยไม่ลดทอนความสะดวกสบายของผู้ขับขี่ นอกจากนี้ ระบบช่วยการขับขี่รุ่น Professional มอบความปลอดภัย และมั่นใจสูงสุดในทุกการเดินทาง ด้วยระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ พร้อมฟังก์ชั่น Stop&Go ที่ไม่เพียงแต่ช่วยรักษาความเร็วของรถในระดับที่ต้องการและคงระยะห่างจากรถคันหน้าให้สม่ำเสมอเท่านั้น แต่ยังช่วยให้รถยนต์อยู่ในเส้นทางอย่างคงที่ด้วยระบบบังคับพวงมาลัย ไม่เพียงเท่านี้ เพื่อความสะดวกสบายที่เหนือกว่า ระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ รุ่น Plus ยังช่วยให้การจอดรถและการบังคับรถทำได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
ระบบความปลอดภัยติดตั้งระบบ Teleservices ตัวยึดคาร์ซีทสำหรับเด็ก ISOFIX ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่, ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก, ระบบช่วยเสริมแรงเบรกอัตโนมัติ, เซ็นเซอร์ควบคุมระบบความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน, ระบบ Active Protection และระบบสร้างเสียงจำลองเตือนผู้ใช้ถนนรอบข้าง เพื่อมอบความอุ่นใจตลอดการเดินทางและทุกจุดหมายปลายทาง
สำหรับราคาจำหน่ายของ BMW XM Label Red รุ่นพิเศษที่มีเพียง 500 คัน ทาง บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ตั้งราคาจำหน่ายไว้ที่ 17,499,000 บาท พร้อมกันนี้ยังเตรียมที่จะนำ BMW XM Label Red ไปจัดแสดงโชว์ที่ในงาน Motor Expo 2023 ที่่จะถูกจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน – 11 ธันวาคม 2566 นี้ ณ อิมแพ็คชาเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี อีกด้วย