in ,

NIO EL6 เอสยูวีไฟฟ้าขนาดกลางวิ่งไกล 529 กม. ราคาเริ่ม 2.4 ล้านบาท ในยุโรป

NIO EL6 Electric SUV ขุมพลัง 438 แรงม้า มาพร้อมแบตเตอรี่ชาร์จเต็มวิ่งไกล 529 กม.นอกจากนี้ยังสามารถถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ จ่อขายใน 5 ประเทศในยุโรปทั้งเยอรมนี เนเธอร์แลนด์ สวีเดน เดนมาร์ก และนอร์เวย์ เปิดราคาเริ่มที่ 65,500 ยูโร หรือประมาณ 2.4 ล้านบาท

NIO EL6 MY2024

หลังจากที่ทาง NIO ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีน ได้เปิดตัว NIO ES6 เอสยูวีไฟฟ้าตัวใหม่ของทางค่ายในประเทศบ้านเกิดเมืองจีนไปแล้ว 

NIO EL6 MY2024

ล่าสุดทาง NIO ได้ส่งเอสยูวีไฟฟ้าขนาดกลางรุ่นใหม่นี้ไปว่างจำหน่ายในตลาดยุโรป โดยใช้ชื่อรุ่นว่า NIO EL6 โดยจะมาพร้อมกับ ขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ 483 แรงม้า ซึ่งจะวางจำหน่ายใน 5 ประเทศคือ เยอรมนี, เนเธอร์แลนด์, สวีเดน, เดนมาร์ก และนอร์เวย์ โดยจะมีให้เลือก 2 รุ่น คือรุ่นแบตเตอรี่ขนาด 75 kWh ที่เปิดราคาอยู่ที่ 65,500 ยูโร หรือประมาณ 2.4 ล้านบาท และรุ่นแบตเตอรี่ขนาด 100 kWh กับราคาจำหน่ายที่ 74,500 ยูโร หรือราว ๆ 2.8 ล้านบาท

NIO EL6 MY2024

สำหรับ NIO EL6 ถูกพัฒนาขึ้นบนแพลตฟอร์ม NT2 เวอร์ชันใหม่ของทาง NIO โดยจะได้รับการติดตั้ง มอเตอร์แบบคู่ มาพร้อมกับระบบส่งกำลังไฟฟ้า AWD โดยในเพลาคู่ล้อหน้ามีขนาด 150kW หรือให้กำลัง 201 แรงม้า ส่งนกับมอเตอร์แม่เหล็กถาวรด้านหลังจะมีขนาด 210 kW หรือให้กำลัง 282 แรงม้า โดยเมื่อทำงานพร้อมกันจะให้พละกำลังที่มากถึง  483 แรงม้า มาพร้อมแรงบิด 700 นิวตันเมตร. นั่นก็เพียงพอที่จะทำให้ NIO EL6 ทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.5 วินาทีเท่านั้น มาพร้อมชุดแบตเตอรี่ที่มีให้ดเลือก 2 ขนาดความจุคือ 75 /100 kWh ชาร์จไฟเต็มวิ่งได้ระยะทาง 529 กม. อีกทั้งยังมาพร้อมนวัตกรรมถอดแบตเตอรี่เปลี่ยนได้

NIO EL6 MY2024

ในด้านมิติขนาดตัวรถมีความยาว 191.1 นิ้ว (4,854 มม.), กว้าง 78.5 นิ้ว (1,995 มม.), สูง 67 นิ้ว (1,703 มม.) และมีระยะฐานล้อ 114.7 นิ้ว (2,915 มม.) 

ด้านการออกแบบจะดูคล้าย กับรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ของทาง NIO ทั้งหมด เริ่มจากกระจังหน้าแบบปิด  ชุดไฟหน้าใหม่แบบแยกส่วน โดยในชุดไฟ DRLจะถูกดีไซน์ให้เป็นทรงเรียวยาว 

NIO EL6 MY2024

ขณะที่ชุดไฟส่องสว่างหรือไฟหลักจะถูกแยกออกมา โดยจะเป็นไฟแบบ LED แบบ 3 ดวงวางเรียวซ้อนกันอยู่ในกรอบสีดำทรงสี่เหลี่ยมคางหมู ด้านบนหลังคาด้านหน้าจะติดตั้งกล้อง พร้อมเรดาห์ที่เป็นส่วนหนึ่งของระบบความปลอดภัยขั้นสูง LiDAR

ขณะที่ด้านข้างตัวรถเน้นความเรียบหรู มื่อเปิดประตูเป็นแบบรถสมัยใหม่ที่ออกแบบให้ราบเรียบไปกับตัวบอดี้ 

NIO EL6 MY2024

NIO EL6 MY2024

หลังคาด้านท้ายที่มาในแบบลาดเอียงเสริมให้ตัวรถดูสปอร์ตโฉบเฉี่ยวมากยิ่งขึ้น มาพร้อมกับสปอยเลอร์หลังคา ชุดไฟท้ายที่ออกแบบให้วางพาดยาวเต็มพื้นที่ กันชนท้ายขนาดใหญ่ 

NIO EL6 MY2024

ภายในห้องโดยสาร แผงแดชบอร์ดติดตั้ง แผงคอนโซลหนน้าติดตั้งแผงหน้าปัด LCD ขนาด 10.2 นิ้ว และหน้าจออินโฟรเทนเมนต์แบบแนวตั้งขนาด 12.8 นิ้ว ที่วางในแนวตั้งตรงลอยอยู่บนคอนโซลกลางที่เชื่อมต่อกับคอนโซลหน้า รองรับระบบสาระบันเทิง Banyan OS รุ่นล่าสุดของ NIO

นอกจากนั้นยังติดตั้ง NOMI ที่เป็นผู้ช่วยส่วนตัวที่อยู่บนคอนโซลหน้า และมาพร้อมกับเทคโนโลยีเสมือนจริง AR/VR 

เบาะนั่งคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้าฝั่งผู้ขี่ปรับได้ 20 ทิศทาง ส่วนฝั่งผู้โดยสารปรับได้ 22 ทิศทาง มาพร้อมระบบทำความร้อนที่เบาะ, ระบบระบายอากาศ, ระบบนวด และพนักพิงและที่วางขา

NIO EL6 MY2024

สำหรับพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายจะมีความจุ 668 ลิตร แต่เมื่อพับเบาะหลังลงจะเพิ่มพื้นที่มากถึง 1,430 ลิตร โดยในส่วนเบาะหลังพับได้แบบ 40/20/40

นอกจากนั้นในด้านชุดอุปกรณ์ต่างของ NIO EL6 ยังจะได้รับหน้าจอ HUD, ชุดไฟ Ambient light ที่สามารถปรับเปลี่ยนสีได้มากถึง 256 สี, ระบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง 23 ตำแหน่ง และหลังคาซันรูฟขนาดใหญ่ ซึ่ง NIO เคลมว่าใหญ่ที่สุดในกลุ่มด้วยพื้นที่ ด้วยความกว้าง และใหญ่ถึงเกือบหนึ่งตารางเมตร (10.7 ตารางฟุต)

NIO EL6 MY2024

ในด้านระบบความปลอดภัย และระบบช่วยเหลือการขับขี่ของ NIO EL6 จะได้รับการติดตั้งเซ็นเซอร์ และกล้องรอบคัน ที่มาพร้อมระบบ NAD (ระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ) นอกจากนี้ยังสามารถจอดรถด้วยตนเองและแม้แต่ไปที่สถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่โดยอัตโนมัติ อีกทั้งยังมาพร้อมกับระบบ Aquila ซึ่งเป็นระบบการรับรู้ที่ประกอบด้วยเซ็นเซอร์มากถึง 33 ตัว รวมถึง LiDAR มาพร้อมชิปประมวลผลแบบ Real time ด้วยชิป NVIDIA รุ่นใหม่ 4 ตัวสำหรับพลังการประมวลผลรวม 1,016 TOPS 

NIO EL6 MY2024

สำหรับ NIO ES6 จะมีวางจำหน่ายแยู่ใน 5 ประเทศที่ยุโรปได้แก่ เยอรมนี, เนเธอร์แลนด์, สวีเดน, เดนมาร์ก และนอร์เวย์ เปิดราคาระหว่าง 65,500 – 74,500 ยูโร หรือคิดเป็นเินไทยอยู่ที่ประมาณ 2.4 – 2.8 ล้านบาท