Lamborghini เปิดตัว Lamborghini Huracán Sterrato กระทิงดุตัวใหม่ รถยนต์ซูเปอร์สปอร์ตสุดแกร่งรุ่นแรกที่มาพร้อมเครื่องยนต์ V10 และระบบ All-wheel drive ที่ลุยได้ทั้งทางเรียบ และทางฝุ่น เผยโฉมครั้งแรกในเซาธ์อีสต์เอเชีย ในบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย
สำหรับ Lamborghini Huracán Sterrato เป็นรถยนต์ซูเปอร์สปอร์ตรุ่นแรกที่ถูกออกแบบ เพื่อส่งมอบสุดยอดประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกเร้าใจทั้งในถนนทางเรียบและทางฝุ่น
สร้างนิยามใหม่แห่งยานยนต์สปอร์ตชั้นเยี่ยม และตอกย้ำปรัชญาของแบรนด์กับภาพลักษณ์อันกร้าวแกร่ง แบบฉบับที่ไม่ซ้ำใคร และปรากฏการณ์ใหม่ที่เหนือความคาดหมายในทุกมิติ
ในด้านงานออกแบบภายนอกสะท้อนถึงจิตวิญญาณแห่งการผจญภัยของ Sterrato ได้อย่างชัดเจนตั้งแต่แรกเห็น โดยมีการเพิ่มระยะความสูงใต้ท้องรถขึ้นอีก 44 มม. เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่น Huracán EVO เพื่อการันตีว่าระบบกันสะเทือนจะทำงานได้ดียิ่งขึ้น พร้อมเพิ่มความกว้างช่วงล้อหน้า 30 มม. และล้อหลัง 34 มม.
นอกจากนี้เพื่อการปกป้องตัวถัง ยังติดตั้งแผ่นอลูมิเนียมใต้ท้องรถส่วนหน้า แผ่นธรณีประตูรถแบบเสริมแรง ดิฟฟิวเซอร์ท้าย และซุ้มล้อทรงดุดันเพื่อเสริมภาพลักษณ์ที่บึกบึนสมชาย อีกทั้งยังติดตั้งท่อลมเข้าแบบคลาสสิกบนฝากระโปรงหลังซึ่งไม่เพียงช่วยเสริมจิตวิญญาณแบบรถสปอร์ต หากยังช่วยให้อากาศบริสุทธิ์ไหลเข้าสู่เครื่องยนต์เมื่อต้องวิ่งบนลู่แข่งที่มีฝุ่นดินเยอะ
ในด้านมิติขนาดตัวรถมีความยาว ความยาว 4,525 มม., กว้าง 1,956 มม. (รวมกระจกมองข้าง) 2,236 มม., สูง 1,248 มม. และมีระยะฐานล้อยาว 2,629 มม.
ภายในห้องโดยสารได้รับแรงบันดาลใจจากเบาะรุ่นเอ็กซ์คลูซีฟใน Alcantara Verde Sterrato ซึ่งสะท้อนถึงปรัชญา ‘Feel like a pilot’ ที่ถูกนำมาประยุกต์ใช้กับรถยนต์ Huracán เพื่อสร้างประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยมขั้นสุดพร้อมการควบคุมทุกฟีเจอร์การทำงานของรถยนต์ที่สมบูรณ์แบบ จอแบบทัชสกรีนมาพร้อมการแสดงผลกราฟิกแบบใหม่และฟีเจอร์พิเศษสำหรับการขับขี่ออฟโร้ด ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ให้มาตรวัดความลาดเอียงแบบดิจิทัลพร้อมด้วยตัวบอกระยะการยกตัวและการเอียงตัวของรถ เข็มทิศ ตัวบ่งชี้พิกัดทางภูมิศาสตร์ และตัวบ่งชี้มุมบังคับเลี้ยวแบบครบครัน
นอกจากบริการต่าง ๆ ที่ปรากฏบนหน้าจอ ระบบติดตามรถยนต์ Lamborghini Connect ยังผสานการทำงานกับ Amazon Alexa เพื่อช่วยในการปรับแต่งฟีเจอร์การทำงานต่าง ๆ ของรถ เช่น เครื่องปรับอากาศและไฟส่องสว่าง รวมถึงการควบคุมและระบบนำทาง การคุยสายโทรศัพท์และความบันเทิง ซึ่งควบคุมได้ง่าย ๆ ผ่านระบบการสั่งการด้วยเสียง นอกจากนี้ ยังสามารถควบคุมรถยนต์จากระยะไกลได้ด้วยแอป Lamborghini UNICA ยกตัวอย่างเช่น การตรวจสอบความเร็วรถจากระยะไกลและการส่งพิกัดจุดหมายไปยังระบบนำทางได้โดยตรง
Huracán Sterrato มาพร้อมระบบเชื่อมต่อระยะไกลที่ช่วยให้นักขับสามารถตรวจสอบสมรรถนะรถยนต์และวิเคราะห์ข้อมูลผ่านทางแอป UNICA โดยผู้ที่ใช้ Apple Watch ยังสามารถซิงค์ข้อมูลอัตราการเต้นหัวใจเข้ากับระบบเชื่อมต่อ เพื่อตรวจวัดสมรรถนะการขับขี่ของตัวเอง โดยสามารถใช้ฟังก์ชั่น Lamborghini Drive Recorder เพื่อบันทึกประสบการณ์การขับขี่ได้ตามต้องการ ให้นักขับเก็บช่วงเวลาแสนเร้าใจในรูปแบบคลิปวิดีโอ ซึ่งช่วยยกระดับการใช้งานฟีเจอร์ Board Diaries ซึ่งเป็นสมุดบันทึกดิจิทัลที่ผสานการทำงานเข้ากับแอป Lamborghini UNICA ไว้อย่างลงตัว
อีกหนึ่งไฮไลต์ที่ขาดไม่ได้คือ Huracán Sterrato นำเสนอออปชันการตกแต่งอย่างไร้ข้อจำกัดเพื่อการสร้างสรรค์ซูเปอร์คาร์ในฝันให้ตรงกับสไตล์นักขับมากที่สุดด้วย Lamborghini Ad Personam โดยลูกค้าสามารถเลือกโทนสีภายนอกได้มากถึง 350 เฉดสี ตลอดจนสีของหนังและการตกแต่งแบบ Alcantara ได้มากกว่า 60 โทน
ในด้านพละติดตั้งขุมพลังเครื่องยนต์ V10 ขนาด 5.2 ลิตร ให้กำลังเครื่องยนต์สูงสุด 610 แรงม้า แรงบิด 560 นิวตันเมตรที่ 6,500 รอบต่อนาที ผสานระบบส่งกำลังคลัตช์คู่ 7 สปีดและระบบขับเคลื่อน All-wheel drive ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมเฟืองท้ายระบบกลไกแบบล็อกตัวเอง โดยสามารถเร่งความเร็วตั้งแต่ 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 3.4 วินาที และทำความเร็วสูงสุดที่ 260 กม./ชม. เพื่อมอบสมรรถนะการขับขี่ขั้นสูงสุดแม้วิ่งบนพื้นถนนทางหลักจนถึงถนนทางฝุ่น
มาพร้อมระบบ LDVI (Lamborghini Integrated Vehicle Dynamics) ที่อัพเดทเป็นเวอร์ชันล่าสุด ซึ่งได้มีการคาลิเบรตโหมด STRADA และ SPORT โดยเฉพาะ พร้อมนำเสนอโหมด RALLY สำหรับการขับขี่บนพื้นผิวที่มีกริพน้อยให้แก่รถยนต์ตระกูล Huracán เป็นครั้งแรก
สำหรับระบบเบรกใช้คาลิเปอร์อลูมิเนียมแบบฟิกซ์โดยมีลูกสูบเบรกหน้า 6 ตัวและลูกสูบเบรกหลัง 4 ตัว สำหรับล้อหน้า ใช้จานเบรกเซรามิกมีครีบระบายความร้อนและเจาะรูแบบ Cross-drilled เส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 380 มม. และหนา 38 มม. และจานเบรกหลังขนาด 356 มม. หนา 32 มม.
Huracán Sterrato ยังมาพร้อมล้อขนาด 19 นิ้วซึ่งออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อใช้กับยางรุ่น Bridgestone Dueler AT002 สำหรับรถรุ่นนี้โดยเฉพาะ เพื่อมอบความคล่องตัวและสามารถวิ่งได้บนทุกสภาพถนน พร้อมเติมเต็มทุกสัมผัส อารมณ์ และความเร้าใจได้อย่างเต็มเปี่ยม
โดยยางหน้าขนาด 235/40 R19 และล้อหลังขนาด 285/40 R19 ผสานเทคโนโลยียางแบบ Run-flat ซึ่งช่วยให้นักขับสามารถขับต่อไปได้อย่างปลอดภัยแม้ยางถูกตำทะลุจนไม่มีลม โดยจะวิ่งต่อไปได้อย่างน้อย 80 กม.บนความเร็ว 80 กม./ชม. ที่ความดันลม 0 บาร์ โดยยาง Bridgestone รุ่นนี้ถูกออกแบบมาให้สอดรับกับดีเอ็นเอของแบรนด์แบบ 100% เพราะมีการออกแบบลายดอกยางใหม่และใช้สารประกอบที่ล้ำสมัย ที่ช่วยให้ยางมีแรงยึดเกาะที่สมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะวิ่งบนทางกรวดหรือถนนราดยาง พร้อมการควบคุมที่ดีเยี่ยมและสุดยอดประสิทธิภาพเมื่อวิ่งด้วยความเร็วสูง
สำหรับ Lamborghini Huracan Serrato จะถูกผลิตออกมาในจำกัดเพียง 1,499 คัน คาดว่าต้แองมีเข้ามาจำหน้ายในบ้านเราอย่างแน่นอน ส่วนจะมาจำนวนเท่าสไหร่เปิดราคาอยู่ที่เท่าไหร่นั้นต้องติดตามกันต่อไป โดยทางทีมงาน Autostation.com จะนำรายงานให้ทราบอีกครั้งต่อไป