ก่อนนี้ประมาณเดือน พ.ค. ที่ผ่านมาทาง NIO หนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีน ได้เปิดตัวแบรนด์ใหม่ที่ใช้ชื่อว่า Onvo พร้อมกันนั้นก็ได้เผยโฉมของรถคันแรกของทางแบรนด์ออกมาพร้อม ๆ กันโดยใชชื่อรุ่นว่า Nio Onvo L60
ล่าสุด Nio Onvo L60 รถยนต์ไฟฟ้า ของทาง NIO ล็อตแรกได้ออกจากสายการผลิตอย่างเป็นทางการแล้ว โดยเตรียมลงชว์รูมให้ลูกค้าได้จับจองกันในช่วงเดือนกันยายนนี้
โดย Onvo L60 ทางนีโอ วางตัวไว้ให้เจาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นครอบครัวรุ่นใหม่ในตลาดเมืองจีน ซึ่งตั้งเป้าจะเข้ามาแข่งขันกับ Tesla โดยเฉพาะ
สำหรับชื่อ Onvo นั้นถูกย่อมาจากคำว่า On Voyage โดยมีชื่อในภาษาจีนที่เรีกว่า Ledao (乐道) ขณะที่ Onvo L60 ซึ่งเป็นรถคันแรกของทางแบรนด์นั้น ตัวรถจะมาในรูปแบบครอสโอเวอร์เอสยูวีไฟฟ้า ตัวถังแบบฟาสต์แบ็กท้ายลาด
โดยมีขนาดมิติตัวถังความยาวอยู่ที่ 4,828 มม. กว้าง 1,930 มม. สูง 1,616 มม. และระยะฐานล้อ 2950 มม. ซึ่งเมื่อเทียบกับทาง Model Y จะมีสัดส่วนที่ใหญ่กว่าทุกมิติ
ในด้านรูปลักษณ์จะได้รับการออกแบบให้ตัวรถนั้นดูมีความลู่ลม มาพร้อมภาษาการออกแบบที่เรียกว่า Bentley Raul Pires ชุดไฟหน้าแบบแยกส่วน 2 ชั้น ด้านบนเป็นไฟ DRL LED ที่มาในรูปทรงบูมเบอแรง ส่วนชุดไฟส่องสว่าง LED ด้านล่างจะดีไซนืให้มลักษณะที่เรียวแหลม โดยมีช่องอากาศเข้ารูปสี่เหลี่ยมคางหมูขนาดใหญ่อยู่บริเวณด้านล่าง พร้อมช่องนำอากาศรูปตัว C ทั้งสองด้าน
ขณะที่ด้านข้างตัวถังดีไซน์ให้มีความราบหรู มือเปิดประตูเป็นแบบราบสนิทไปกับตัวถัง มาพร้อมคิ้วโป่งล้อสีดำขนาดใหญ่ ล้ออัลลยทูโทนปัดเงารูปทรงคล้ายกับใบพัด
ส่วนหลังคาด้านท้ายมาในสไตล์คูเป้ท้ายลาด ฝาประตูท้ายออกแบบให้เป็นสปอยเลอร์แบบ Ducktail ในตัว มาพร้อมไฟท้าย LED ที่เป็นแถบเส้นแยกออกจากกันโดยมีชื่อแบรนด์ ONVO และตราโลโก้คั้นไว้ตรงกลาง
โดยทาง Onvo เผยว่าด้วยงานออกแบบดีไซน์ทั้งหมดจะช่วยให้ตัวรถนั้นมีค่าสัมประสิทธิ์การต้านลม อยู๋ที่เพียง 0.229Cd. ซึ่งเมื่อเทียบกับ Model Y ที่มีค่าค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอยู่ที่ 0.236Cd.
สำหรับรายละเอียดภายในห้องโดยสารล่าสุดเพิ่งจะมีการเปิดเผยข้อมูลออกมา โดยงานดีไซน์จะมีอารมณ์เดียวกับ Model 3 และ Model Y ซึ่งจะไม่มีไม่มีปุ่มสั่งงานใด ๆ เลย โดยในส่วนของแผงแดชบอร์ด จะได้รับการติดตั้งเพียงหน้าจอแสดงผล 3K ขนาด 17.3 นิ้ว ไว้สำหรับควบคุมสั่งงาน ที่มาพร้อมกับชิปประมวลผล Nvidia Orin X และพวงมาลัยมัลทรงแบนรีที่มีแป้นควบคุมที่เป็นแบบลูกกลิ้งเล็ก ๆ นอกจากนี้ยังมีจอแสดงผลขนาดเล็กอยู่ด้านบนของพวงมาลัย ซึ่งคาดว่าจะใช้เป็นมาตรวัดความเร็ว
ขณะที่ด้านชุดอุกรณ์ภายในห้องโดยสารของ NIO Onvo L60 จะมากับจอ HUD ขนาด 13 นิ้ว ที่สะท้อนข้อมูลการขับขี่ไปยังกระจกบังลมหน้า มาพร้อมระบบปฏิบัติการ SkyOS ของ Nio และการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ เช่น Nintendo Switch Onvo L60
ด้านเบาะที่นั่ง เน้นความสะดวกสบาย โดยถูกพัฒนาขึ้นจากทาง Nio โดยพนักพิงเบาะหน้าสามารถปรับเอนได้เต็มที่ นอกจากนี้เบาะหลังยังติดตั้งหน้าจอควบคุมความบันเทิงขนาด 8 นิ้ว
รวมทั้งยังมาพร้อมกับชุดไฟ Ambient Light รอบทิศทาง 16 ล้านสี ที่ทาง Onvo จะเรียกว่า “Urban Oasis” นอกจากนี้ยังมากีบ ระบบเสียง 1,000 วัตต์ที่พัฒนาโดย Onvo ที่เรียกว่า “Onvo Sound” และระบบเสียงรอบทิศทาง Dolby Atmos 7.1.4
ในด้านระบบความปลอดภัย และระบบช่วยเหลือกการขับขี่ทาง Onvo ยังเผยว่า L60 จะมากับระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงจาก Nio โดยจะได้รับการติดตั้งระบบช่วยนำร่อง NOA ที่มีฮาร์ดแวร์ช่วยขับขี่ 30 ชิ้น รวมถึงเรดาร์ถ่ายภาพ 4 มิติ, กล้อง 8 ล้านพิกเซล 7 ตัว ที่อยู่มุมหลังคาทั้ง 4 ด้าน, ด้านในกระจกบังลมหน้า และที่บังโคนหน้าทั้ง 2 ฝั่ง, กล้องมองรอบทิศทาง 4 ตัว และเรดาร์อัลตราโซนิก 12 ตัว เรดาร์ 4 มิติและกล้องขนาด 8 ล้านพิกเซล ที่จะมีความสามารถตรวจจับในระยะทางที่ไกลถึง 370 เมตรและ 687 เมตรตามลำดับ
ในด้านพละกำลังขับเคลื่อนจะมีให้เลือกทั้งมอเตอร์ไฟฟ้ตัวเดี่ยวไว้ที่คู่ล้อหลังให้กำลัง 240 kW (322 แรงม้า) และรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อนแบบ 4WD โดยมอเตอร์ไฟฟ้าคู่หน้าให้กำลัง 100 kW (134 แรงม้า) ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าคู่หลังให้กำลัง 240 kW (322 แรงม้า)
ด้านชุดแบตเตอรี่จะมีให้เลือก 3 ขนาด 60.6 kWh, 90 kWh และ 150 kWh ชร์จไฟวิ่งได้ระยะทาง 501 – 555 กม. (CLTC) โดยชุดแบตเตอรี่ขนาด 150 kWh จะเป็นแบตเตอรี่กึ่งโซลิดสเตตจาก WeLion ซึ่งสามารถเปลี่ยนเป็นรถได้ที่สถานีสลับรวมทั้งยังมาพร้อมกับสถาปัตยกรรมแบบ 900V ที่ NIO พัฒนาขึ้นมาเอง
สำหรับ Onvo L60 ทาง NIO เผยว่าจะเริ่มส่งมอบรถได้ในช่วงเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ ส่วนราคาจำหน่ายเคาะราคาเริ่มไว้ที่ 219,900 หยวน หรือราว ๆ 1.06 ล้านบาท
ทั้งนี้ทั้งนั้นรายละเอียดโดยรวมทั้งหมดของ NIO Onvo L60 คาดจะถูกเปิดเผยอีกครั้งในวันที่ลงโชว์รูม ซึ่งหากมีข้อมูลเพิ่มเติมออกมาอย่างไร ทางทีมงาน Autostation.com จะรีบนำรายงานให้เพื่อน ๆ ได้ทราบอีกครั้งหนึ่ง
