หลังจากที่ทาง Polestar (โพลสตาร์) ผู้ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าหรู ที่เป็นซับแบรนด์ของทางวอลโว่ ได้เผยโฉม เอสยูวีไฟฟ้าอย่าง Polestar 3 ที่เปิดตัวไปในช่วงปลายปี 2022 ที่ผ่านมา ล่าสุดทาง Polestar ได้เผยโฉม Polestar 4 MY2024 รถเอสยูวีคูเป้ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ที่ในงาน Shanghai Auto Show 2023 ก่อนที่จะลงโชว์รูมจำหน่ายในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2023 นี้ โดยมีราคาเริ่มอยู่ที่ 60,000 ยูโร หรือประมาณ 2.3 ล้านบาท
สำหรับ Polestar 4 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ดีไซน์การผสมผสานระหว่างรถซีดาน, คูเป้ และรถเอสยูวี โดยทาง Polestar 4 รุ่นใหม่นี้จะ ป็นรถ SUV Coupe สายพันธุ์ใหม่ ที่เป็นแนวทางเดียวกันกับที่ Hyundai Ioniq 5 และ Kia EV6 แต่ Polestar 4 จะมีความโฉบเฉี่ยวกว่า
โดย Polestar 4 จะถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม Sustainable Experience Architecture (SEA) ของ Geely ที่ปัจจุบันแพลตฟอร์มโมดูลาร์นี้ใช้ผลิตรถในเครือหลายรุ่น อาทิ Smart #1 หรือ Zeekr X
ด้านงานดีไซน์ของ Polestar 4 จะมาพร้อมกับความล้ำสมัยตามแบบฉบับรถยนต์ไฟฟ้ายุคปัจจุบัน เริ่มจากกระจังหน้าปิดทึบ มาพร้อมชุดไฟหน้า LED ดีไซน์รูปค้อน เหมือนกับ Polestar 3 แต่ในตัว Polestar 4 จะถูกแยกออกจากกัน ฝากระโปรงหน้าที่ออกแบบให้ดูยื่นยาว มาพร้อมเหลี่ยมมุมที่โฉบเฉี่ยว กันชนหน้าพร้อมช่องระบายอากาศทรงสปอร์ตเสริมสเกิร์ตในตัว
ดีไซน์ด้านข้างดูราบเรียบเพื่อต้องการให้ตรงตามตามหลักอากาศพลศาสตร์ มือเปิดประตูเป็นแบบราบเรียบไปกับตัวรถ เสริมลุคหรูด้วยล้ออัลลอนทูโทนขนาด 20-22 นิ้ว แล้วแต่รุ่นย่อย
และสิ่งที่โดดเด่นของทาง Polestar 4 จะอยู่ที่ด้านท้ายโดยจะดีไซน์แบบไร้กระจกบานหลัง โดยจะใช้กล้องมองหลังแบบดิจิทัล โดยจะแสดงภาพภายในห้องโดยสาร ขณะที่ชุดไฟท้าย LED ดีไซน์ให้เป็นรูปตัว C ที่มีแถบ LED พาดเชื่อมยาวต่อชุดไฟทั้งสองฝั่ง
ในด้านมิติขนาดตัวถังจะมีความยาว 4,839 มม. กว้าง 2,139 มม.สูง 1,544 มม. และมีระยะฐานล้ออยู่ที่ 2,999 มม.
ภายในห้องโดยสารของ Polestar 4 จะใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งซึ่งรวมถึง วัสดุรีไซเคิล 100% อย่าง PET (Polyethylene Terephthalate), ผ้าสังเคราะห์ MicroTech ที่ผลิตขึ้นมาให้ความใกล้เคียงกับผ้าคอทตอน, หนัง Nappa ที่ปลอดภัยต่อสวัสดิภาพสัตว์ พรมปูพื้นที่ใช้ ECONYL ซึ่งเป็นไนลอนแบบใหม่ที่ผลิตจากขยะพลาสติกในทะเล เป็นต้น
ขณะที่รายละเอียดภายในห้องโดยสารของ Polestar 4 จะเป็นรองรับได้ 5 ที่นั่ง ด้านชุดอุปกรณ์ภายในจะมากับ หน้าจอ HUD ขนาด 14.7 นิ้ว, หน้าจอมาตรวัดฟูลดิจิทัลขนาด 10.2 นิ้ว, จอแสดงอินโฟเทนเมนท์แบบสัมผัสขนาด 15.4 นิ้ว รองรับระบบปฏิบัติการ Android Automotive OS
มาพร้อมระบบเครื่องเสียงพรีเมียมของ Harman Kardon พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง นอกจากนั้นยังมีชุดอุปกรณ์เสริม โดยจะมีลำโพงเพิ่มเติมอีก 1 คู่ที่พนักพิงศีรษะของที่นั่งด้านหน้าแต่ละที่นั่ง
ด้านพละกำลังของ Polestar 4 จะมีให้เลือกทั้งรุ่นมอเอตร์ไฟฟ้าเดี่ยว และมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ โดยในรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดี่ยว จะถูกวางไว้ที่เพลาคู่ล้อหลังให้กำลัง 272 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 343 นิวตันเมตร มาพร้อมชุดแบตเตอรี่แพคความจุ 102kWh ชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง วิ่งได้ระยะทางไกลถึง 600 กม. ตามมาตรฐาน WLTP
ส่วนในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ จะได้รับการติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้กำลังรวม 544 แรงม้า และแรงบิด 686 นิวตันเมตร ด้านแบตเตอรี่จะมีขนาดเท่ากับรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียวที่มีความจุ 102kWh แต่ระยะทางการวิ่งจะน้อยลง โดยเมื่อชาร์จไฟเต็มจะวิ่งได้ระยะทางที่ 560 กม.
ด้านการชาร์จไฟ ทั้ง 2 รุ่นจะรองรับการชาร์จแบบกระแสตรงหรือชาร์จเร็ว DC รองรับการชาร์จสูงสุด 200 kW และชาร์จแบบกระแสสลับหรือขาร์จช้า AC รองรับการชาร์จสูงสุด 22 kW
นอกจากนี้ ทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมระบบ SuperVision Advanced Driver Assistance System ของ Mobileye ที่ประกอบด้วยเรดาห์ 1 ตัว, กล้องรอบคัน 12 ตัว และเซ็นเซอร์ อัลตร้าโซนิค อีก 12 ตัวเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน และมีออปชั่นระบบช่วยขับ Pilot Pack ให้ติดตั้งเพิ่มเติม อาทิ ระบบเปลี่ยนเลนอัตโนมัติเมื่อผู้ขับตบไฟเลี้ยว เป็นต้น
สำหรับ Polestar 4 เอสยูวีใหม่จะถูกประกอบขึ้นที่ในโรงงาน Geely เมืองหางโจว ประเทศจีน ซึ่งจะมีวางจำหน่ายทั้งในประเทศจีน รวมถึงยุโรป, อเมริกาเหนือ และเอเชียแปซิฟิก โดยจะเริ่มลงโชว์รูมในจีนช่วงเดือนพฤศจิกายน 2023 นี้ สำหรับราคาจำหน่ายทาง Polestar เปิดราคาจำหน่ายอยู่ที่ 60,000 ยูโร หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 2.3 ล้านบาท (ราคายังไม่รวมภาษีนำเข้าจากไทย)
