นับตั้งแต่ที่ทางปอร์เช่เปิดตัว Porsche Taycan มาตั้งแต่ปี 2019 ยังไม่เคยได้รับการปรับเปลี่ยน หรือปรับแต่งเพิ่มเติมแต่อย่างใด แต่ล้่าสุดในปี 2024 ทาง Porsche ได้ทำการอัปเกรด Porsche Taycan ทั้งในการปรับโฉมใหม่ รวมทั้งยังเสริมประสิทธิภาพ ทั้งในด้านพละกำลัง ระยะทาง และการชาร์จที่ดีขึ้น โดย Porsche Taycan 2025 ใหม่นี้จะสามารถรีดกำลังแรงม้าออกมาได้มากถึง 939 แรงม้า พร้อมให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 2.3 วินาทีเทานั้น ซึ่งถือว่าเป็นรถรุ่นที่เร็วที่สุดเท่าที่ทาง Porsche เคยมีมา
Taycan 2025 ใหม่นี้จะมีวางจำหน่ายเฉพาะในรุ่นซีดาน และ Cross Turismo ในอเมริกาเหนือ เนื่องจากปอร์เช่เลิกผลิตรุ่น Sport Turismo ไปแล้ว
สำหรับ Porsche Taycan 2025 ใหม่ ยังคงสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม MEB-EVO เดิมที่ใช้กับรุ่นที่เปิดตัวในปี 2019 แต่ Taycan ใหม่นั้นจะได้รับการอัปเกรดใหม่ในหลาย ๆ ส่วน เริ่มจากในด้านพละกำลัง โดยในรุ่นพื้นฐานแบบขับเคลื่อนล้อหลัง นั้นจะมีอัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.5 วินาที หรือเร็วกว่ารุ่นเดิม 0.6 วินาที
ขณะที่ในรุ่น Taycan Turbo S นั้นจะร้อนแรง และเร็วยิ่งขึ้นโดยจะรีัดกำลังแรงม้ารวมได้มากถึง 939 แรงม้า และมีอัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. เพียง 2.3 วินาที เท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นรถที่เร็วที่สุด ตั้งแต่ที่ทางปอร์เช่เคยผลิตมาก
โดยผลพวงของพละกำลังที่เพิ่มมากขึ้นของ Porsche Taycan 2025 นั้น มาจากการปรับปรุงมอเตอร์คู่หลังใน Taycan ทุกรุ่น โดยเพิ่มกำลังขับเพิ่มถึง 107 แรงม้า นอกจากนี้ยังได้ติดตั้งแพ็คเกจ Sport Chrono โดยจะได้รับปุ่ม ‘push to pass‘ ที่ให้ผู้ขับขี่เพิ่มกำลังสูงสุด 94 แรงม้า ชั่วคราวได้สูงสุด 10 วินาทีในแต่ละครั้ง
ซึ่งนอกจากที่จะปรับปรุ่งในเรื่องพละกำลังแล้วทางปอร์เช่ยังได้อัปเดตระบบกันสะเทือนใหม่ มาเป็นแบบถุงลมอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังมาออปชั่นเสริมเป็นะระบบกันสะเทือน Porsche Active Ride ที่สามารถสั่งซื้อเป็นอุปกรณ์เสริมสำหรับรุ่น AWD ได้ โดยระบบ Porsche Active Ride จะช่วยให้ตัวถังของ Taycan อยู่ในระดับเดียวเสมอ กระจายน้ำหนักที่ล้ออย่างสมดุล แม้แต่ในระหว่างที่เบรกแบบไดนามิก การบังคับเลี้ยว และการเร่งความเร็ว ระบบจะดูดซับแรงกระแทกได้เกือบทั้งหมด ชดเชยการเอียง เพื่อลดแรงที่กระทำต่อผู้โดยสาร ทำให้การขับขี่นุ่มนวล
นอกจากนี้ในทุกรุ่นยังจะมาพร้อมล้อใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อปรับปรุงหลักอากาศพลศาสตร์ และยางที่ออกแบบมาเพื่อลดแรงต้านทานการหมุน เมื่อชะลอความเร็วเข้าโค้ง โดย Taycan จะสามารถฟื้นพลังงานได้ที่ความเร็วสูงสุด 400 kW ซึ่งเร็วกว่ารุ่นปัจจุบันถึง 30%
สำหรับในด้านชุดแบตเตอรี่ Taycan 2025 จะมีให้เลือก 2 ขนาด คือ แบตเตอรี่ Performance Plus ที่มีขนาดความจุ 105 kWh ปรับใหญ่ขึ้นจากเดิมที่มีขนาด 93 kWh โดยเพิ่มขึ้น 12% ซึ่งจะช่วยให้สามารถวิ่งได้ระยะทางไกลถึง 587 กม. ต่อการชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง ซึ่งมากกว่ารุ่นเดิมถึง 191 กม.
รวมถึงแบตเตอรี่ขนาดเล็ก Performance Battery ที่ได้รับการอัปเกรดด้วยเช่นกันโดยจะมีขนาดความจุอยู่ที่ 89 kWh (จากรุ่นเดิม 79 kWh)
สำหรับในด้านการชาร์จไฟนั้น Taycan 2025 มาพร้อมสถาปัตยกรรม 800V รองรับการชาร์จ DC แบบเร็วได้สูงสุดที่ 320 kW โดยสามารถชาร์จจาก 10% – 80% ได้ในเวลาเพียง 18 นาที นอกจากนี้ Porsche ยังให้อะแดปเตอร์แปลงไฟ DC/DC ขนาด 150 kWh สำหรับชาร์จกับเครื่องชาร์จ 400V ติดตั้งมาให้ด้วย
ส่วนด้านการออกแบบภายนอกของ Porsche Taycan 2025 ยังคงดีเทลเหมือนกับในรุ่นที่ผ่านมา แต่จะได้รับการปรับปรุงชุดไฟท้าย และไฟหน้าใหม่ให้เพรียวบางกว่าเดิม โดยด้านหน้าจะมาพร้อมระบบไฟ HD-Matrix ด้านหลังติดตั้งโลโก้ปอร์เช่ แบบเรืองแสงสีฟ้า ในลักษณะแบบ 3 มิติ นอกจากนั้นยังมีเฉดสีใหม่ให้เลือกอีกด้วย
ภายในก็ได้รับการปรับแต่งเพิ่มเติมเล็กน้อย โดยเบาะที่นั่งจะมีให้เลือก 2 แบบ หุ้มด้วยหนังผสมกับวัสดุลายผ้า ที่ถักทอเป็นลวดลาย Pepita (Houndstooth) มาพร้อม Switch Mode บนพวงมาลัย, มีปุ่ม Pursh to pass สำหรับเพิ่มความเร็ว
ในด้านชุดอุปกรณือื่น ๆ ของ Taycan 2025 จะมาพร้อมกับระบบช่วยเปลี่ยนเลน, พวงมาลัยปรับอุณหภูมิได้, ไฟ Ambient Light, กระจกมองข้างพับไฟฟ้าพร้อมไฟส่องสว่างรอบกระจก, ระบบระบายความร้อนใหม่, การจัดการระยะอัจฉริยะ, แท่นชาร์จสมาร์ทโฟน และอื่นๆ อีกมากมาย
สำหรับราคาจำหน่ายของ Porsche Taycan 2025 จะมีราคาจำหน่ายระหว่าง 99,400 – 211,700 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว ๆ 3.55 – 7.57 ล้านบาท โดยเริ่มลงโชว์รูมในสหรัฐช่วงฤดูร้อนที่จะถึงนี้ ส่วนในบ้านเรานั้นต้องรอกันอีกสัดนิด แต่คาดว่าได้ยลโฉมตัวจริงกันอย่างแน่นอน
