Proton แบรนด์รถสัญชาติมาเลเซีย ได้เผยโฉม Proton e.MAS 7 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกจากค่าย ที่มาในรูปแบบเอสยูวี โดยมีให่้เลือก 2 รุ่นย่อย คือ Prime และ Premium ชาร์จไฟวิ่งไกล 345 กม. และ 410 กม. ตามลำดับ มีกำหนดวางจำหน่ายในช่วงต้นปี 2025 ที่จะถึงนี้ เคาะราคาเริ่มต้นไว้ที่ 109,800 ริงกิต หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ราว ๆ 8.05 แสนบาท
สำหรับ Proton e.MAS 7 นั้นถูกพัฒนาขึ้นมาจาก Geely Galaxy E5 หรือในบ้านเราจะรู้จักกันในชื่อ GEELY EX5 ที่เพื่งเปิดตัวแบบสด ๆ ร้อน ๆ ไปในงาน Motor Expo 2024 เมื่อปลานเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา
โครงสร้างตัวรถโดยรวมนั้นจะเหมือนกันกับ GEELY EX5 โดยจะมีการเปรับเปลี่ยนเพียงนส่วนของโลโก้ที่ด้านหน้า จากโลโก้ของทาง GEELY มาเป็นโลโก้ของทาง Proton ส่วนด้านหลังจากชื่อ G E E L Y ที่อยู่ใต้ชุดไฟท้าย ก็เปลี่ยนมาเป็นชื่อแบรนด์ P R O T O N แทน
ขณะที่ในส่วนอื่น ๆ นั้นยังคงเดิม ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้าแบบเมทริกซ์ไลท์ ที่มาพร้อมชุดไฟหน้า และไฟ DRL ทรงเรียวยาวที่อยู่ในโคมเดียวกันใต้ฝากระโปรงหน้า อีกทั้งยังมากับเส้นไฟ LED ที่รูปตัว J ที่อยู่บริเวณช่องดักอากาศตรงกันชนหน้า
เส้นสายด้านข้างดีไซน์ให้สอดรับกับระบบแอร์โรไดนามิค มาพร้อมมือเปิดประตูที่ราบเรียบไปกับตัวรถ ล้ออัลลอยมาในรํูปแบบ Aero Wheel ที่จะช่วยลดแรงต้านอากาศที่มีขนาด 18 – 19 นิ้ว (ขึ้นอยุ่แต่ละรุ่นย่อย) เสริมความหรูหราเส้นโครเมียมที่กรอบหน้าต่างบา่นข้าง
ขณะที่ด้านท้ายจะมากับชุดไฟท้าย LED แบบ 3D ที่วางพาดเต็มพื้นที่ด้านหลัง มาพร้อมที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ โดยตัวรถของ GEELY EX5 จะมีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน 0.269 Cd
ในด้านมิติตัวรถของจะมีความยาว 4,615 มม. ความกว้าง 1,901 มม. ความสูง 1,670 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,750 มม.
ภายในห้องโดยสารจะมาในแบบมินิมอลที่เรียบหรู โดยจะมีให้เลือเพียงสีเดียวได้แก่โทนสีน้ำเงิน Indigo Biue แผงแดชบอร์ดจะได้รับการติดตั้งหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ LCD ขนาด 10.2 นิ้ว ที่วางอยู่ด้านหลังพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นทรงหัวตัดท้ายตัดที่ปรับได้ 4 ทิศทาง มาพร้อมหน้าจอควบคุมกลางแบบลอยขนาดใหญ่ 15.4 นิ้ว ที่มีความละเอียดถึง 2.5K มาพร้อมระบบระบบอินโฟเทนเม้นท์ Flyme Auto และระบบเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน PROTON e.MAS App รวมทั้งยังรองรับการอัปเดต OTA และระบบสั่งงานด้วยเสียง
นอกจากนั้นในรุุ่น Premium จะได้รับระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้ารถ (HUD) รวมทั้งยนังได้รับ เบาะนั่งด้านหน้าระบายอากาศ พร้อมปรับด้วยไฟฟ้า 4 ทิศทาง, ชุดไฟ Ambient Light 256 สี มาพร้อมระบบเสียง Flyme กับลำโพง 16 ตำแหน่ง และลำโพงบริเวณพนักพิงศีรษะ
ด้านชุดอุปกรญ์ทั้ง 2 รุ่นย่อยจะได้รับ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมกรองฝุ่น N95 และช่องจ่ายไฟ USB-A / USB-C รวม 4 จุด และแท่นชาร์จสมาร์ตโฟนแบบไร้สายและซันรูฟแบบพาโนรามาขนาด 1.18 ตร.ม. พร้อมม่านบังแดด เป็นต้น
ในด้านพละกำลังของ Proton e.MAS 7 ของทั้ง 2 รุ่นย่อย จะมากับมอเตอร์ไฟฟ้า 12-in-1 Integrated Motor กำลังสูงสุด 160 kW (218 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 320 นิวตัน-เมตร ด้านอัตราเร่งในรุ่น Prime จะมีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 6.9 วินาที ส่วนในรุ่น Premium ใช้เวลา 7.1 วินาที ขณะที่ความเเร็วสูงสุดทั้ง 2 รุ่นจะถูกจำกัดไว้ที่ 175 กม./ชม.
ด้านชุดแบตเตอรี่ในรุ่น Prime ติดตั้งแบตเตอรี่ AEGIS Short Blade ขนาดความจุ 49.52 kWh ชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้งวิ่งได้ระยะทางสูงุสาด 410 กม. (มาตรฐาน NEDC) ส่วนรุ่น Premium จะมากับแบตเตอรี่ AEGIS Short Blade เช่นกันแต่จะมีความจุที่ใหญ่กว่าอยู่ที่ 60.22 kWh ชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้งจะให้ระยะทางวิ่งไกล 470 กม.
โดยทั้ง 2 รุ่นจะรองรับการชาร์จไฟแบบ DC กำลังสูงสุด 80 kW และ 100 kW ชาร์จไฟจาก 30 – 80% ในเวลา 20 นาที
ในด้ายระบบความปลอดภัย และระบบช่วยเลือกการขับขี่ จะมากับระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงระดับ 2 (ADAS) อาทิ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ (ICC), ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB), ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนฉุกเฉิน (ELKA), ระบบเตือนการเปลี่ยนเลนเพื่อความปลอดภัย (LCW), ระบบจดจำป้ายจราจร (TSR) และระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันอื่นๆ
Proton e.MAS 7 ที่เปิดตัวมาเลเซียจะมีเฉดสีตัวรถให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีขาวลิเธียมไวท์ Lithium white, สีเขียวเทอร์ควอยซ์ Turquoise green, สีเทาสเลท Slate Gray, สีเงินแพลตตินัมซิลเวอร์ Platinum Silver และสีชมพูควอตซ์โรส Rose Quartz
สำหรับราคาจำหน่าย Proton e.MAS 7 ในตลาดมาเลเซีย จะมีราคาจำหน่ายอยู่ระหว่าง 105,800 – 119,800 ริงกิต หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาร 8.05 – 9.12 แสนบาท