หลังจากที่ทาง Renault ได้เผยโฉมตัวต้นแบบของแฮทช์แบคไฟฟ้ารุ่นใหม่ ออกมาเมื่อต้นปี 2021 ล่าสุดทาง เรโนลต์แบรนด์รถยนต์จากเมืองน้ำหอมประเทศฝรั่งเศส ก็ได้ใช้เวทีที่ในงานเจนีวามอเตอร์โชว์ 2024 เผยคันจริงของ Renault 5 E-Tech รถยนต์ไฟฟ้าในรูปแบบแฮทช์แบค 5 ประตูออกมาแล้ว ก่อนเตรียมลงโชว์รูมวางขายในช่วงเดือน ก.ย. 2024 ที่จะถึงนี้
สำหรับงานดีไซน์โดยรวมของ Renault 5 E-Tech ถูกออกแบบโดยได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Renault 5 รุ่นดั้งเดิมในอดีตที่ทำตลาดในช่วงปี 1972 – 1996 โดย Renault 5 E-Tech จะถูกพัฒนาขึ้นบนแพลทฟอร์ม CMF-B EV / AmpR Small
ในด้านงานออกแบบภายนอกของ Renault 5 E-Tech ถูกยกรายละเอียดมาจากตัวต้นแบบเกือบทั้งชุดแต่ก็ถุกปรับแต้่งบางจุดให้เหมาะสมกับการขึ้นสายการผลิตจริง โดยดีไซน์ลึก ๆ นั้นจะมีกลิ่นอายของ Renault 5 รุ่นดั้งเดิมในอดีต
ด้านหน้าจะมากับชุดไฟหน้า LED ทั้งระบบ โดยไฟส่องสว่างด้านบนจะอยู่ในกรอบรูปตัว C คว่ำ โดยทางเรโนลต์ เผยว่าจุดสีดำที่อยู่ตรงกลางของเลนส์แต่ละตัว มีลักษณะคล้ายกับรูม่านตาของมนุษย์
นอกจากนั้นยังได้รับการติดตั้งชุดไำฟตัชดหมอก LED ทรงเหลี่ยมที่วางอยู่มุมชายกันชนทั้ง 2 ฝั่ง ตรงกลางดีไซน์ให้่เป็นช่องดักลมรูแปสี่เหลี่ยมผืนผ้า
ขณะที่ไฮไลท์เด็ดของ Renault 5 E-Tech จะอยู่ที่บริเวณฝากระโปรงหน้า ที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก ช่องรับลมอันเป็นเอกลักษณ์ของ Renault 5 รุ่นดั้งเดิม โดยทาง Renault ได้ดีไซน์ให้เป็นหน้าจอ ที่จะแสดงผลสถานะการชาร์จแบตเตอรี่ ที่จะค่อยๆ แสดงผลแต่ละบาร์จนกลายเป็นตัวเลข “5” เมื่อชาร์จเต็ม 100%
ส่วนด้านข้างตัวรถ ตะได้รับการดีไซน์ด้วยเส้นสายที่เฉียบคม ซุ้มล้อถูกตีโป่งให้ดูเหมือนมีมัดกล้ามได้รับแรงบันดาลใจจาก R5 Turbo มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว เป็นชุดอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุุ่น อีกทั้งยังตกแต่งเสริมวคารมร้อนแรงให้ตัวรถด้วยเส้นสายสีแดงที่ลากยาวตั้งแต่ชายกระจกมองข้าง ยาวขึ้นไปตามเสา A เลาะขอบหลังคาด้านบนไปจรดที่สปอยเลอร์หลังคาด้านท้าย
ด้านชุดไฟท้ายมาในแบบ LED แนวตั้งที่เชื่อมต่อ 2 ฝั่งด้วยแถบวัสดุสีดำติดตราชื่อแบรนด์ R E N A U L T ไว้ตรงกลาง มาพร้อมตัวเลขหมายเลข 5 ที่อยู่ฝั่งด้านขวามือ
Renault 5 E-Tech จะมาในรูปแฮทช์แบคขนาดซัปคอมแพ็ค โดยมีความยาวตัวรถอยู่ที่ 3,920 มม. ความกว้าง 1,770 มม. ความสูง 1,500 มม. และมีระยะฐานล้อยาว 2,540 มม. ส่วนน้ำหนักตัวจะอยู่ที่ประมาณ 1,350 – 1,450 กก. ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย
ภายในห้องโดยสารของ Renault 5 E-Tech 2025 จะรองรับได้ 5 ที่นั่ง มาพร้อมเฉดสีสันที่วนให้นึกถึงรุ่นดั้งเดิม
ขณะที่เบาะที่นั่ง และจุดอื่น ๆ ภายในห้องโดยสารจะถูถหุ้มด้วยวัสดุผ้า และตกแต่งด้วยวัสดรีไซเคิล และมาจากแหล่งชีวภาพ
แผงแดชบอร์ดติดตั้งหน้าจอขนาดใหญ่ที่ รวมทั้งหน้าจออินโฟนเทนเมนต์แบบสัมผัส และหน้าปัดดิจิตอล Infotainment OpenR Link ไว้เป็นจอเดียวกัน โดยมีขนาด 10.1 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Android Auto หรือ Apple CarPlay
รวมทั้งยังมาพร้อมระบบปฏิบัติการ openR link: Multimedia System ซึ่งเรโนลท์พัฒนาร่วมกับ Google เพื่อเพิ่มศักยภาพในการเชื่อมต่อรถกับบริการออนไลน์ โดยจะมีแอพพลิเคชั่นฝังมาให้จากโรงงานมากกว่า 50 แอพฯ ปิดท้ายด้วยผู้ช่วยเสมือน “Reno” ซึ่งใช้ AI เป็นพื้นฐานในการพัฒนา
ด้านชุดอุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆ จะได้รับวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น, ปุ่ม Push Start, ระบบปรับอากาศดิจิทัล, และถาดชาร์จสมาร์ตโฟนแบบไร้สาย ด้านพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายจะมีขนาดความจุอยู่ที่ 326 ลิตร ในด้านระบบควาามปลอดภัยจะมากับระบบ ADAS ระดับ 2
ในด้านพละกำลังจะได้รับการติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดี่ยวไว้ที่คู่ล้อหน้า โดยจะมีกำลังสูงสุดเลือกได้ 3 ความแรง ได้แก่ 94 แรงม้า , 121 แรงม้า และ 148 แรงม้า โดยตัวรถจะมีพละกำลังในการลากจูงได้ถึง 500 กก.
มาพร้อมชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ที่มีมีความจุให้เลือก 2 ขนาด คือ 40 kWh ชาร์ไฟวิ่งไกลสุด 300 กม. และขนาด 52 kWh ที่จะมีระยะทางวิ่งได้ไกลถึง 400 กม. (WLTP) พร้อมรองรับการชาร์จเร็ว DC ในอัตรา 80 kW และ 100 kW ที่ให้กำลังไฟจาก 15-80% ในเวลาประมาณครึ่งชั่วโมง
นอกจากนี้ Renault 5 E-Tech ยังรองรับการใช้งานฟังก์ชั่น V2G (vehicle-to-grid) ต่อพ่วงรถเข้ากับกับกริดไฟฟ้าเพื่อจ่ายไฟคืนสู่ระบบ และ V2L (vehicle-to-load) สำหรับจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ต่อพ่วงหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าด้วย
Renault 5 E-Tech จะออกมาเป็นคู่แข่งโดยตรงกับทาง MINI Cooper SE หรือ Volkswagen ID.2 ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าในกลุ่ม B-segment เช่นเดียวกัน โดยทางเรโนลต์ เปิดราคาจำหน่ายเริ่มต้นไว้ที่ 25,000 ยูโร หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 9.67 แสนบาท ซึ่งนับว่าเป็น 1 ในรถยนต์ไฟฟ้าที่มีราคาไม่แพงในตลาดยุโรป
สำหรับ Renault 5 E-Tech 2025 จะถูกผลิตขึ้นที่ในโรงงานในเมือง Douai ประเทศฝรั่งเศส โดยจะเริ่มลงโชว์รูมวางจำหน่ายในตลาดยุโรปช่วงเดือน ก.ย. นี้
