ต้องยอมรับว่าความนิยมในรถยนต์ไฟฟ้า 100% ในบ้านเรากำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด ซึ่งค่ายรถจากสัญชาติจีนต่างก็ต้องยกทัพ ย้ายถิ่นฐานการผลิตมาปักหลักตั้งไทยเป็นศูนย์กลางกันให้ว้าวุ่นหลากหลายแบรนด์ พร้อมกับนำเสนอเทคโนโลยี ทั้งระบบขับเคลื่อน ระบบความปลอดภัย ฟีเจอร์ความสะดวกสบายภายใน แถมดั้มราคาจำหน่าย และกระหน่ำเปิดตัว ชนิดที่ว่าค่ายรถญี่ปุ่นเองถึงกับเซจนไปไม่เป็นอยู่ในช่วงนี้
ซึ่งในทุกๆ แบรนด์ที่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย ต่างก็ชูจุดเด่น โชว์ความยิ่งใหญ่ และประวัติศาสตร์ของแบรนด์ที่มีมาอย่างยาวนาน และขายดิบขายดีในประเทศแม่ด้วยกันทั้งสิ้น แต่มีอยู่หนึ่งแบรนด์ที่ซุ่มมาเงียบๆ แต่กวาดยอดขายไปกว่า 5,000 คัน (หลังเปิดตัวไม่ถึง 2 เดือน) แถมราคาจำหน่ายก็ไม่ได้ถูกกว่าใครเขาอย่าง DEEPAL ซึ่งเป็นหนึ่งในแบรนด์ย่อยจาก CHANGAN
ทริปนี้ Autostation.com จึงอาสาพาไปพิสูจน์ พร้อมทดลองขับเดินทางไกล เส้นทางกรุงเทพฯ – ระยอง ด้วยโมเดลท็อปสุดอย่าง DEEPAL S07 ให้รู้กันไปเลยว่าทำไมถึงขายดีจนส่งรถไม่ทัน
สำหรับ DEEPAL S07 จัดเป็นรถ SUV พลังงานไฟฟ้า 100% ขนาด C-SUV ซึ่งตัวรถจะมีขนาดที่ใหญ่กว่า TESLA Model Y, BMW iX3 และ Honda CR-V หรือพูดง่ายๆ ก็คือตัวถังใหญ่ที่สุดในบรรดา SUV ไฟฟ้าระดับเดียวกัน
มิติตัวถัง DEEPAL S07
- ความยาว : 4,750 มม.
- ความกว้าง 1,930 มม.
- ความสูง : 1,625 มม.
- ระยะฐานล้อ : 2,900 มม.
- ความสูงใต้ท้อง : 165 มม.
- น้ำหนักตัวถัง : 1,940 กก.
แพลตฟอร์มที่สร้างขึ้นเพื่อรถยนต์ไฟฟ้าที่ขับสนุก และอัจฉริยะ
นอกเหนือไปจากขนาดตัวถังที่ใหญ่แล้ว อีกหนึ่งจุดเด่นของ DEEPAL S07 ก็คือ แพลตฟอร์ม EPA1 ที่ถูกออกแบบ และพัฒนาขึ้นมาสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ ซึ่งแพลตฟอร์มนี้มีจุดเด่นในเรื่องของการส่งกำลังขับเคลื่อนที่ล้อหลัง RWD ให้ฟิลลิ่งที่ขับสนุก แถมยังกระจายน้ำหนักที่สมดุลแบบ 50:50 ให้การทรงตัว และการยึดเกาะถนนที่ดี
อีกทั้งแพลตฟอร์ม EPA1 ยังมาพร้อมกับระบบการจัดการแบตเตอรี่ดิจิทัลแบบ iBC (intelligent Battery Control) ซึ่งผสานการทำงานจากการวิเคราะห์จาก Processor ภายในตัวรถ และบนระบบคลาวด์ของ CHANGAN ทำให้มีความแม่นยำทั้งในด้านการติดตามสถานะแบตเตอรี่ การเตือนภัยความเสี่ยง และระบบชาร์จแบตเตอรี่
ขุมพลัง และความจุแบตเตอรี่
DEEPAL S07 ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัว กำลังสูงสุด 258 แรงม้า แรงบิด 320 นิวตัน-เมตร แบตเตอรี่แบบ Ternary Lithium ขนาด 66.8kWh สามารถขับได้ไกล 485 กม./การชาร์จ (มาตรฐาน NEDC) มอบอัตราเร่ง 0-100 ใน 6.7 วินาที
มาพร้อมกับระบบชาร์จไว DC ที่ 30% – 80% ในเวลา 35 นาที และมีระบบจ่ายกระแสไฟจากตัวรถไปยังเครื่องใข้ไฟฟ้า (V2L) รวมถึงระบบ Regenerative Braking ดึงพลังงานจากเบรกไปเก็บที่แบตเตอรี่
ระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ กึ่งขับขี่อัตโนมัติ Lv.2
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน IACC พร้อมฟังก์ชั่น Stop & Go
- ระบบช่วยเตือนหากเสี่ยงต่อการชนด้านหน้า FCW
- ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB
- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA
- ระบบช่วยแจ้งเตือนมุมอับสายตา BSD
- ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA
- ระบบช่วยเตือนหากเสี่ยงต่อการโดนชนด้านหลัง RCW
- ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA
- ระบบช่วยเบรกขณะถอยหลัง RCTB
- ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนขณะเปิดประตู DOW
- ระบบไฟสูงอัตโนมัติ FAB
- กล้องรอบคัน 360 องศา
- ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง
สรรถนะการขับขี่ไม่หวือหวา แต่กลมกล่อม
สำหรับสมรรถนะการขับขี่ ทริปนี้เราขับแบบใช้งานจริง เดินทางไกลเส้นทางกรุงเทพฯ – ระยอง ระยะทางรวมกว่า 220 กม. ในเรื่องของอัตราเร่ง DEEPAL S07 ให้การตอบสนองที่จัดจ้านตามสไตล์รถยนต์ไฟฟ้า 100% จังหวะเร่งแซง หรือต้องการเค้นพลังทำได้เฉียบคม แม้ตัวรถจะมีขนาดใหญ่แต่ไม่ได้เป็นปัญหา โดยมีโหมดการขับขี่ให้เลือกใช้งาน 4 โหมด ได้แก่ ECO / Comfort / Sport / Customize ซึ่งแต่ละโหมดจะมีการปรับจูนคันเร่งไฟฟ้าที่ให้การตอบสนองที่แตกต่างกัน รวมถึงน้ำหนักพวงมาลัย และแรงดันเบรกพร้อมระบบ Regenerative Braking แต่ตัวรถจะทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 180 กม./ชม. เท่านั้น เพราะถูกล็อคเอาไว้เพื่อความปลอดภัย
ในส่วนของระบบช่วงล่าง และ Handling ถูกเซ็ทเอาไว้ให้มีความนุ่มนวล นั่งสบาย ตามสไตล์รถครอบครัวแบบ SUV หากขับที่ความเร็วไม่เกิน 120 กม./ชม. ถือว่ามีความเฟิร์ม แน่น ไม่กระด้าง แต่ถ้าเร็วกว่านั้นจะรู้สึกถึงอาการโคลงเคลง ยวบยาบ เนื่องจากตัวรถมีน้ำหนักเกือบ 2 ตัน ผสานกับระบบขับเคลื่อนที่ส่งกำลัง 258 แรงม้า ที่ล้อคู่หลัง ทำให้การขับเร็วๆ หรือกดคันเร่งออกจากโค้งหนักเกินไป จะมีอาการโคลงเคลง หรือโยนๆ ให้ได้รู้สึกอยู่พอสมควร
ในส่วนของ Handling ถ้าใช้โหมด Sport น้ำหนักพวงมาลัยจะอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม (ไม่หนักหรือเบาเกินไป) แต่ถ้าขับด้วยโหมดอื่นๆ จะรู้สึกว่าเบาไปหน่อย ซึ่งจุดนี้คุณผู้หญิง หรือมือใหม่อาจจะรู้สึกว่าขับง่าย แต่ถ้าขับเร็วๆ ต้องระมัดระวัง เพราะหน้ารถมันจะไวมาก
ระบบความปลอดภัย และระบบเบรกไว้ใจได้ ทริปนี้เราได้ทดลองใช้ระบบช่วยเหลือการขับขี่ และระบบความปลอดภัยแบบจัดเต็ม ชนิดที่ว่าเปิดมันทุกระบบให้ตัวรถมันขับเคลื่อนด้วยตัวเอง ผู้เขียนมีหน้าที่แค่จับพวงมาลัยไว้เท่านั้น ผลสรุปคือระบบต่างๆ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไว้ใจได้ ไม่มีจังหวะเอ๋อ หรือทำให้รู้สึกเสียวแต่อย่างใด เพียงแต่ระบบความปลอดภัยที่มีมาให้เยอะจัด อาจจะสร้างความรำคาญบ้างบางครั้ง หากเปิดใช้ในจังหวะรถติด
สุดท้ายในเรื่องของการกินไฟ และระยะทางการขับขี่ โดย DEEPAL S07 นั้น เคลมระยะทางการวิ่งเอาไว้ที่ 485 กม./การชาร์จ (มาตรฐาน NEDC) ซึ่งทุกคนต่างก็รู้กันดีอยู่แล้วว่ามาตรฐานนี้มันโอเวอร์กับที่ขับได้จริงๆ อยู่มากพอสมควร
โดยทริปนี้เราเดินทางไปทั้งหมด 222 กม. ใช้แบตเตอรี่ไปทั้งหมด 63% อัตราการกินไฟของทริปนี้อยู่ที่ 17.5kWh / 100กม. ซึ่งขับจนถึงจุดหมายปลายทางที่จังหวัดระยองแล้วแบตเตอรี่เหลืออยู่ 37% สามารถขับต่อไปได้อีก 175 กม.
คิดแบบคร่าวๆ คือนำระยะทางที่ขับมาทั้งหมด 222 กม. มาบวกกับระยะทางที่จะขับต่อไปได้อีก 175 กม. ก็จะได้ระยะทางที่จะขับได้จริงๆ ต่อการชาร์จไฟเต็มที่ 397 กม. (+/- ประมาณ 10-20 กม.) เท่ากับว่า DEEPAL S07 ชาร์จไฟเต็มจะขับได้ประมาณ 380 – 400 กม./การชาร์จ อาจจะฟังดูน้อย แต่ก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน
บทสรุป
โดยภาพรวมแล้วต้องบอกว่า DEEPAL S07 ถือเป็น SUV พลังงานไฟฟ้า 100% อีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจมากๆ ได้เปรียบในเรื่องของตัวถังที่ใหญ่ ระบบช่วยเหลือการขับขี่จัดเต็ม ฟีเจอร์และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน สมรรถนะการขับขี่ก็ไม่ได้น้อยหน้าใคร เพียงแต่ระยะทางการขับขี่ที่ทำได้อาจจะยังทำได้ไม่มากพอ ถ้าขับจริงได้สัก 500 กม. และขายแพงกว่านี้นิดหน่อย เชื่อว่าจะเป็น SUV ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดแน่นอน
สำหรับ DEEPAL S07 มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 1,399,000 บาท ซึ่งหากคุณอยากได้ Tesla Model Y แต่งบเอื้อมไม่ถึง เจ้า SUV ไซส์ยักษ์คันนี้คือคำตอบ!!