แอบปรับโฉมมาเงียบๆ แต่ว่าความพรีเมียมยังคงจัดเต็ม สำหรับ Isuzu Mu-X 2022 รุ่นปรับโฉมใหม่ ที่ล่าสุดทางทีมงาน Autostation.com ได้มีโอกาสไปทดลองขับในทริปสุด Exclusive กับกิจกรรม “The New MU-X Press Trip…หนาวนี้เที่ยวภาคเหนือ”
ซึ่งการเดินทางในครั้งนี้ นอกเหนือไปจากการได้ทดลองขับ Isuzu Mu-X 2022 แล้ว ยังเป็นการปลุกกระแสการท่องเที่ยวทางรถยนต์ให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง และเพื่อเป็นการตอกย้ำนิยาม “be UNCHARTED หมุดหมายใหม่ไม่สิ้นสุด” ทริปนี้จึงปักหมุดหมายการเดินทางไปที่ดินแดนล้านนา
เริ่มต้นจาก จ.เชียงใหม่ เมืองสุดชิคที่ผสมผสานบรรยากาศกลิ่นอายอดีตเมืองเหนือกับชุมชนเมืองแนวใหม่สุดเก๋ได้อย่างมีเสน่ห์ ก่อนมุ่งหน้าต่อยอดชมความงดงามของธรรมชาติและแหล่งท่องเที่ยวหลากหลายสไตล์ในจังหวัดเหนือสุดของประเทศไทยอย่าง จ.เชียงราย
แต่ก่อนจะไปสัมผัสบรรยากาศการแอ่วเหนือครั้งนี้ เรามาทำความรู้จักกับ Isuzu Mu-X 2022 รุ่นปรับโฉมใหม่ กันก่อนดีกว่า เริ่มจากการเพิ่มสีตัวถังใหม่สุดพรีเมียม อย่างสีน้ำเงิน Glacier Blue Mica มาพร้อมกระจังหน้า แบบ Black Chrome และชุดแต่งรอบคันเฉดสี Magnetite Gray
เท่านั้นยังไม่พอ ยังมาพร้อมกับล้ออัลลอย Dynamic Rotor Blade สี Magnetite Gray ปัดเงา ขนาด 20 นิ้ว และ ใหม่ อัลลอย Aeroscrew ขนาด 17 นิ้ว สำหรับรุ่น Active และ ใหม่ ไฟท้าย LED สไตล์ Winglet Signature เล่นระดับแบบ 3 มิติ โคมดำ
และไฮไลท์สำคัญของการปรับโฉมครั้งนี้ ด้วยการเสริมอ็อพชั่นประตูท้ายอัจฉริยะ Smart Tailgate เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า ทำงานร่วมกับระบบ Step Sensor เพียงแค่เดินเข้าไปใกล้ประตูท้าย และถอยออกมา ประตูท้ายก็จะเปิดให้โดยอัตโนมัติ ซึ่งถือเป็นฟีเจอร์ที่โดดเด่นที่สุดในกลุ่ม PPV
ส่วนภายในได้รับการตกแต่งให่ เพิ่มเติมความหรูหราสุดพรีเมียมด้วยภายในโทนสี Macchiato Brown สีน้ำตาลเทาสลับสีน้ำตาลเข้ม พร้อมตกแต่งวัสดุภายในด้วยสี Piano Black และ Chrome
เบาะนั่งปรับ Shape ใหม่ ให้โอบกระชับรับสรีระดียิ่งขึ้น และยังคงมาพร้อมด้วยเทคโนโลยี COOLMAX ช่วยลดการสะสมความร้อนที่ตัวเบาะเหมือนเดิม
อุปกรณ์มาตรฐานครบครัน
- ไฟหน้า Bi-Beam LED Projector พร้อมระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
- ไฟตัดหมอกหน้า LED
- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone
- เบรกมือไฟฟ้า พร้อมระบบ Auto Brake Hold
- พวงมาลัย Multifunction พร้อม Paddle Shift
- หน้าจอขนาด 9 นิ้วรองรับ Wireless Apple CarPlay และ Android Auto
- แผงประตูหุ้มหนังพร้อมไฟ Ambient Light
- ช่องเสียบต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า AC220 โวลต์
- กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ
- ระบบเบรก ABS/EBD และ BA
- ระบบ ESC/TCS/HSA/HDC/BOS
- กล้องมองภาพขณะถอยจอด พร้อม Dynamic Guideline
- เซ็นเซอร์กะระยะ 8 จุด
- ระบบควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย (TSC)
- ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)
- SRS Airbags 6 ตำแหน่ง
ระบบความปลอดภัยจัดเต็ม ADAS
- ระบบแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า (FCW)
- ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB)
- ระบบแจ้งเตือนออกนอกเลน (LDW)
- ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์เมื่อเหยียบคันเร่งผิดพลาด (PMM)
- ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (BSM)
- ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ(RCTA)
- ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อมีรถสวนทางขณะเลี้ยวขวา (TA-AEB)
- ระบบ All Speed Range Adaptive Cruise Control (ACC)
สำหรับการเดินทางในครั้งนี้ ทีมงาน Autostation.com ได้ขับ Isuzu Mu-X 2022 รุ่นปรับโฉมใหม่ เครื่องยนต์ 3.0 Ddi Blue Power ที่ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร 1,600 – 2,600 รอบ/นาที เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมโหมด Rev Tronic ซึ่งจัดเป็นเครื่องยนต์ตัวท็อปของค่าย Isuzu ที่ทุกคนต่างทราบกันเป็นอย่างดีว่าโมดิฟายต่อยอดได้หลากหลาย ประหยัดน้ำมัน และทนทาน
โดยการเดินทางในทริปนี้ มีระยะทางรวมกว่า 250 กม. ซึ่งเป็นการเดินทางท่องเที่ยวแดนล้านนา ออกสตาร์ทกันที่ร้านอาหาร “กิติพานิช” ซึ่งเป็นร้านเก่าแก่ขึ้นชื่อใน จ.เชียงใหม่ บนถนนท่าแพ ซึ่งเป็นร้านอาหารที่ผสมผสานความร่วมสมัยกับอาหารล้านนาดั้งเดิม และอาหารถิ่นไทยใหญ่ โดยมีเชพฝีมือดีจากร้าน SAWAAN (สวรรค์) ร้านอาหารไทย 1 ดาวมิชลินย่านสาทร เป็นผู้รังสรรค์อาหารในทริปนี้
ต่อด้วยการไปเยือนคาเฟ่สุดล้ำ “MARS.CNX” ที่หยิบเอาธีมอวกาศมาเปิดประสบการณ์การจิบกาแฟแนวใหม่เหมือนได้วาร์ปมานั่งชิลล์บนดาวอังคารกับเมนู Signature เอาใจทั้งคอ Coffee และสาย Non-Coffee แต่ที่พลาดไม่ได้ คือ มุมถ่ายรูปสวยๆ ทั้งมุมจำลอง Antelope Canyon และ Arizona at Mars
จากนั้นก็เป็นเวลาออกเดินทางมุ่งสู่จังหวัดเชียงราย เป้าหมายแรก คือ “หมู่บ้านดอยช้าง” ที่ตั้งอยู่บนทิวเขาดอยวาวี โดยใช้เส้นทางจากอำเภอแม่สรวยซึ่งเป็นทางโค้งขึ้นเขา มีความสูงจากระดับน้ำทะเลเฉลี่ย 1,000 -1,400 เมตร และเป็นเส้นทางที่มีถนนลอยฟ้าตัดผ่านสันเขาที่สวยงามตระการตา มองเห็นเขื่อนแม่สรวยจากมุมสูงได้กว้างสุดลูกหูลูกตา
ซึ่งเป็นเส้นทางที่ได้สัมผัสกับสมรรถนะของ The New Mu-X อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยจุดเด่นที่ชื่นชอบคงหนีไม่พ้นในเรื่องของอัตราเร่งที่เร่งแซงได้ทันอกทันใจ ทีเด็ดทีขาดแบบ 2 เลนสวนไว้ใจได้ แถมยังมีระบบความปลอดภัยที่ทำงานได้อย่างฉับไวยิ่งทำให้การขับขี่มีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น
ระบบช่วงล่างออกแนวนุ่มนวลนั่งสบาย ทำให้การเดินทางในทริปนี้ได้เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศ 2 ข้างทางอันสวยงามแบบไม่เหนื่อยล้า และที่ประทับใจสุดๆ คงเป็นเรื่องของอัตราประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง 15.8 กม./ลิตร (เฉลี่ยตอนขับ)
เพลิดเพลินกับการขับเพียงไม่กี่อึดใจ ก็เดินทางมาถึง “Akha Farmville” ฟาร์มแกะคาเฟ่สไตล์ชาวอาข่า เพื่อมาทักทายกับฝูงน้องแกะตัวอ้วนใจดีสายพันธุ์คอริเดล และสุนัขต้อนแกะแสนรู้ “โอโน่” สายพันธุ์สตรองอาย บนทุ่งหญ้าเขียวๆ แสงแดดอ่อนๆ ยามเย็น พร้อมละเลียดของว่างและเครื่องดื่มท่ามกลางวิวขุนเขาแบบพาโนราม่า 360 องศากับอากาศสดชื่นที่สูดได้เต็มปอด
ก่อนจะเดินทางต่อเพื่อมุ่งสู่ตัวเมืองเชียงราย เพื่อไปรับประทานอาหารเย็นที่สืบทอดสูตรลับกันมาจากรุ่นสู่รุ่นในลานขันโตกนั่งพื้น ต้นฉบับแบบล้านนา พร้อมชมการแสดงที่ร้าน “โตกตอง” เป็นอันว่าจบทริปสุด Exclusive ของการเดินทางมากับ The New Mu-X
สำหรับ “The New MU-X be UNCHARTED หมุดหมายใหม่ไม่สิ้นสุด” นับว่าเป็นยนตรกรรมที่พร้อมตอบรับไลฟ์สไตล์รูปแบบใหม่ ที่มีการปรับเปลี่ยนหมุดหมายใหม่ทั้งในด้านดีไซน์ ความสะดวกสบาย และเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยอันชาญฉลาด สร้างความรู้สึกในการขับขี่ที่แตกต่างและน่าประทับใจอย่างไม่มีที่สิ้นสุด