ในขณะที่คู่แข่งในกลุ่ม Crossover หนีไประบบ Hybrid / e:HEV / e-Power หรือ BEV กันหมดแล้ว แต่ Mazda ยืนหนึ่ง มั่นใจในขุมพลังเบนซิน Skyactiv-G ขนาด 2.0 ลิตร ที่ยังคงยกมาใส่ใน New Mazda CX-3 โฉม Minorchange 2023 พร้อมเคลมว่าเป็นเครื่องยนต์ที่ขับสนุกที่สุดในกลุ่มนี้
และนี่ก็เป็นอีกครั้งของ Mazda CX-3 ที่ได้รับการปรับโฉม Minorchange อีกรอบ ซึ่ง MY 2023 นี้ ได้มีการเพิ่มรุ่นย่อยใหม่ ที่เข้ามาเป็นท็อปไลน์อย่างรุ่น Sport Luxe (ซึ่งย่อมาจาก Sport + Luxury) โดยได้รับการตกแต่งที่สปอร์ตพรีเมียมกว่ารุ่นอื่นๆ พร้อมใส่ระบบความปลอดภัย i-Activsense เพิ่มเข้าไป ในราคาค่าตัว 970,000 บาท
Mazda CX-3 2023 รุ่นท็อปสุดมีอะไรใหม่บ้าง?
การออกแบบดีไซน์ของ New Mazda CX-3 รุ่น Sport Luxe ได้รับการยกระดับความสปอร์ตพรีเมี่ยม มีเอกลักษณ์ในสไตล์เฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็น
- กระจังหน้าสีดำ
- กระจกมองข้างสีดำ
- ซุ้มล้อสีดำเงา
- หลังคาสีดำเงา
- ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 18 นิ้ว
- สีภายนอกใหม่ สีเทา Aero Grey
ในขณะที่ภายในห้องโดยสารก็ยังคงรักษาเอกลักษณ์ด้วยความประณีต พิถีพิถันใส่ใจในทุกรายละเอียด และมาพร้อมความโดดเด่นไม่ซ้ำใคร
- คอนโซลหน้าหุ้มด้วยหนังสีฟ้าเทา
- ตกแต่งด้วยด้ายสีคอปเปอร์
- กรอบช่องแอร์สีคอปเปอร์
- เบาะหนังสีดำและผ้า Grand Luxe Suede
ไม่พลาดทุกการติดต่อกับ Mazda Connect
ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่หลากหลาย ด้วยเทคโนโลยีการเชื่อมต่อไร้ขีดจำกัดกับ Mazda Connect ที่รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย โดยแสดงข้อมูลผ่านหน้าจอสี Center Display แบบทัชสกรีน ขนาด 7 นิ้ว พร้อมมอบความสะดวกสบายด้วยอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย Wireless Charger
เติมเต็มสุนทรียภาพด้วยระบบเสียง Bose รอบทิศทาง
มอบความสะดวกสบายให้ผู้ขับขี่ ด้วยเบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกตำแหน่ง 2 ตำแหน่ง พนักพิงเบาะหลังสามารถแยกพับ 60:40 อิสระออกจากกัน พร้อมพนักวางแขนและที่วางแก้วแบบมีฝาปิด นอกจากนี้ ยังมอบความเหนือกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกันด้วยระบบเสียง Bose รอบทิศทาง พร้อมลำโพง 7 ตำแหน่ง
ระบบความปลอดภัย i-Activsense ที่ครบครันยิ่งกว่าเดิม
Mazda CX-3 ใหม่ มาพร้อมมาตรฐานด้านความปลอดภัย i-Activsense ได้แก่
- ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติแบบ Advance (Advanced SCBS)
- ระบบช่วยหยุดรถขณะถอยหลัง (SCBS-R)
- ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ (SBS)
- ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน (LDWS)
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (HBC)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ MRCC แบบ Stop & Go
ส่วนระบบความปลอดภัยพื้นฐานที่มีอยู่แล้ว ได้แก่
- ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (ABSM)
- ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อผู้ขับเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (DAA)
- กล้องรอบคัน 360 องศา
ขับสนุก ด้วยขุมพลัง Skyactiv-G 2.0 ลิตร หนึ่งเดียวในคลาส
Mazda CX-3 มอบพละกำลังที่เหลือล้น และเหนือกว่ารถในระดับเดียวกัน ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังแรงม้าสูงสุดถึง 156 แรงม้า แรงบิด 204 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด แบบ Torque Converter พร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift ที่เคลมอัตราประหยัดน้ำมันไว้ที่ 16.4 กม./ลิตร
และขับสนุกมากยิ่งขึ้น ด้วยระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ หรือ G-Vectoring Control (GVC) ที่ช่วยควบคุมสมรรถนะการขับขี่ให้แม่นยำและสมดุล ทั้งขณะเข้าโค้ง อยู่ในโค้ง และออกจากโค้ง ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่สัมผัสถึงความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกันระหว่างคนกับรถได้อย่างสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
สมรรถนะโดดเด่น ขับสนุกสุดในคลาส!!
แม้คู่แข่งจะพัฒนาระบบ Hybrid ใส่มอเตอร์ไฟฟ้า มาช่วยบูสพลัง หรือแม้แต่ช่วยเติมความประหยัดพลังงานยังไงก็ตาม แต่ก็ต้องยอมรับตามตรงว่า ขุมพลัง Skyactiv-G 2.0 ลิตร ของ Mazda CX-3 นั้น ยังคงเป็นเครื่องยนต์ที่ขับสนุก อัตราเร่งจี๊ดจ๊าดทันใจ ไม่เป็นสองรองใครอย่างแน่นอน
ด้วยบอดี้ของตัวรถที่ไม่ใหญ่ และน้ำหนักตัวถังเพียง 1,303 กก. การได้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร มาใช้งาน มันจึงกลมกล่อมลงตัว ขับสบาย ใช้งานง่าย มีกำลังมารอให้ใช้งานในทุกย่านกำลัง ไม่ต้องเผื่อเหลือเผื่อขาดอะไรให้มากความ อีกทั้งการได้เครื่องยนต์ที่ใหญ่เกินขนาดตัวรถ ยังส่งผลดีในด้านความประหยัดอีกด้วย เพราะไม่จำเป็นต้องเค้นรอบสูงต่อเนื่อง ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานในเมือง และเดินทางไกล แต่ก็ต้องยอมรับความจริงว่ามันคงประหยัดสู้รถที่มีมอเตอร์ และแบตเตอรี่ไม่ได้ แต่ 16.4 กม./ลิตร ที่เคลมเอาไว้ก็ถือว่าไม่น่าเกลียด ขับใช้งานจริงเฉลี่ยอยู่ที่ 13.5 – 14.5 กม./ลิตร แต่ก็ได้มาซึ่งความสนุก เร้าใจในทุกการขับขี่
เครื่องใหญ่กว่ารถ นอกเหนือไปจากพละกำลังที่ล้นเหลือแล้ว ในเรื่องของความคล่องตัวในการขับขี่ Mazda CX-3 ก็ถือว่าเป็น Crossover เบอร์ต้นๆ ที่ยังไม่มีค่ายไหนสู้ได้ เพราะระบบช่วงล่างตามแบบฉบับ DNA ของ Mazda นั้น ถูกเซ็ตขึ้นมาเพื่อรองรับกับการขับขี่ที่สปอร์ตกว่าทุกรุ่นในตลาด ช่วงล่างมีความแน่น เฟิร์ม ขับขี่ความเร็วสูงมั่นใจได้เลย และด้วยบอดี้ที่สั้นกระชับ ทำให้มีความคล่องตัวสูง มุดสนุก ไม่แปลกใจทำไมขายดิบขายดี ไม่ต้องรีบเปลี่ยนโฉม All-New ก็ยังขายได้
และสิ่งที่ New Mazda CX-3 โดดเด่นมากยิ่งขึ้น ก็คงจะหนีไม่พ้นในเรื่องของระบบความปลอดภัย i-Activsense ที่ครั้งนี้ Mazda ใส่เพิ่มเติมเข้ามาให้ เพื่อเพิ่มความคุ้มค่า และพอที่จะต่อกรกับคู่แข่งรุ่นอื่นๆ ในตลาดได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าระบบความปลอดภัยที่ใส่เพิ่มเข้ามานั้น ก็ล้วนแต่เป็นระบบความปลอดภัยที่คู่แข่งมีกันมาตั้งนานแล้ว อาจจะไม่ได้หวือหวาอะไรมากมาย แต่ก็ดีกว่าไม่มีอะไรเพิ่มมาให้ จริงไหม?
บทสรุป
โดยภาพรวมก็ต้องบอกว่า Mazda นั้นเจ๋งจริง ยืนหยัดด้วยจุดขายตามแบบฉบับ DNA ของ Mazda เอาไว้ได้อยู่หมัด กลายเป็นว่ายุคนี้หากอยากได้รถที่ขับสนุก เครื่องใหญ่ ช่วงล่างแน่น ดีไซน์สวย ต้องยกให้ Mazda มาเป็นเบอร์หนึ่ง แต่ก็ต้องแลกมาด้วยห้องโดยสารตอนหลังที่เล็กกว่าใครเพื่อน และความประหยัดที่ไม่เคยเคลมเกิน 20 กม./ลิตร (ถ้าไม่ใช่เครื่องยนต์ดีเซล Skyactiv-D) แต่ยังไงซะกลุ่มเป้าหมายของ Mazda CX-3 ก็ยังคงเป็นคนหนุ่ม-สาว ที่ต้องการความสนุก และสมรรถนะการขับขี่ที่เร้าใจอยู่ดี ซึ่ง CX-3 ตอบโจทย์ตรงนี้ได้ดีที่สุดแล้วจริงๆ
สำหรับลูกค้าที่สนใจ New Mazda CX-3 มีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่นย่อย ได้แก่
- รุ่น 2.0 Base ราคา 770,000 บาท
- รุ่น 2.0 Base Plus ราคา 830,000 บาท
- รุ่น 2.0 Comfort ราคา 900,000 บาท
- รุ่น 2.0 Sport Luxe ราคา 970,000 บาท
นอกจากนี้ มาสด้ายังพร้อมมอบข้อเสนอพิเศษเมื่อออกรถใหม่ มีให้เลือกถึง 2 ทางเลือก ระหว่าง
- ดอกเบี้ย 2.39%, ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี และ ฟรีแพ็กเกจบำรุงรักษาตามระยะ Mazda Care 5 ปี (รวมค่าแรง ค่าอะไหล่ ของเหลว) รวมมูลค่าสูงสุด 55,344 บาท
- ดอกเบี้ย 1.19% และ ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี
ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนถึงธันวาคม 2566
