หลังจากที่ทาง Tesla ได้ทำตลาด Tesla Model 3 ในโฉมปัจจุบัน มานานกว่า 6 ปี โดยเมื่อไม่นานมานี้ก็ได้เปิดตัว Tesla Model 3 รุ่นไมเนอร์เชนจ์ปรับโฉมใหม่ ที่ตลาดต่างประเทศ ล่าสุดทางเทสล่า ได้นำเข้ามาวางจำหน่ายในไทย และได้นำมาจัดแสดงครั้งแรกที่ภายในงาน Motor Expo 2023 โดยมีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ได้แก่รุ่น RWD และ รุ่น Long Range AWD เคาะราคาจำหน่ายที่ 1,599,000 บาท และ 1,899,000 บาท ตามลำดับ
สำหรับการเปลี่ยนแปลงใหม่ของ Tesla Model 3 ด้านนอกที่มาพร้อมงานออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Tesla Roadster ชุดไฟหน้าจะมีความเพรียวบาง และโฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้น มาพร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน LED ขณะที่ไฟตัดหมอกจะถูกยกออกไป และแทนที่ด้วยช่องระบายอากาศตรงกลางช่องเดียวที่ช่วยให้รถดูดุดันยิ่งขึ้น
ด้านหลังมากับชุดไฟท้ายดีไซนืใหม่ที่ดูเพียวกว่าเดิม ผสานกับชุดกันชนใหม่ มาพร้อมกับโลโก้ด้านหลังที่เป็นอักษร T E S L A
ล้ออัลลอยมีให้เลือก 2 แบบ คือ ลาย Photon ขนาด 18 นิ้ว ที่เป็นชุดมาตรฐาน อีกทั้งยังมีลาย Nova ขนาด 19 นิ้ว ที่สามารถสั่งเป็นอุปกรณ์เสริมได้
ส่วนเฉดสีตัวถังจะมีให้เลือก 5 เฉดสีคือ แดงอัลตรา Ultra Red, สีเทาสเตลท์ เกรย์ Stealth Grey, สีขาวมุกมัลติโค้ท Pearl White Multi-Coat, สีดำ Solid Black และสีน้ำเงินเข้มเมทัลลิก Deep Blue Metallic
ภายในห้องโดยสาร แผงหน้าปัดได้รับการออกแบบใหม่ อีกทั้งในส่วนวัสดุตกแต่งจากเดิมที่ลายไม้ก็ปรับให้เป็นวัสดุอะลูมิเนียมที่ดูโมเดิร์นขึ้น รวมทั้งยังออกแบบหน้าจอแดชบอร์ดใหม้มีความสว่างโดยมีขนาด 15.4 นิ้ว
พวงมาลัยดีไซน์ใหม่ ไม่มีก้านไฟเลี้ยว และคันเกียร์ โดยหากต้องการเปิดไฟเลี้ยว จะต้องสั่งการจากปุ่มที่อยู่บนพวงมาลัยฝั่งซ้าย ส่วนชุดเกียร์จะต้องสั่งงานจากหน้าจอสัมผัสส่วนกลางเท่านั้น
เบาะที่นั่งคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้า มาพร้อมกับระบบเป่าลมร้อน/เย็น ที่สามารถควบคุมจากนอกตัวรถได้ผ่านแอป Tesla ส่วนเบาะหลังจะมาในแบบเจาะรูแบบเบาะหน้า แต่จะไม่มีระบบเป่าลมระบายอากาศ
ด้านชุดอุปกรณ์จะได้รับพอร์ท USB-A 1 ช่อง ในช่องเก็บของ พร้อมอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลขนาด 128 Gb, พอร์ท USB-C 4 จุด, แท่นชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สายที่ชาร์จพร้อมกันได้ 2 เครื่อง ระบบเครื่องเสียงเพื่มลำโพงจากเดิมที่มี 14 ตัวเป็น 17 ตัวรอบคัน และชุดไฟ Ambient light ที่สามารถปรับแต่งได้เอง
นอกจากนั้นยังติดตั้งหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว อยู่บริเวณช่องแอร์หลังสำหรับปรับอุณหภูมิ และควบคุมสั่งงานระบบความบันเทิง นอกจากนั้นยังเพิ่มพนักพิงศีรษะด้านหลัง ตำแหน่งกลางที่เบาะหลัง รวมถึงยังติดตั้งกระจกบานหลังเป็นแบบ Acoustic Glass ที่ป้องกันเสียงรบกวนภายนอกได้ดีกว่าเดิมถึง 20% พร้อมกับขยายพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายเพื่มขึ้นจากเดิม 561 ลิตร เป็น 594 ลิตร
ในด้านพละกำลังขับเคลื่อนรุ่น RWD จะติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียวที่คู่ล้อหลัง ให้กำลัง 347 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 6.1 วินาที ด้านความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 225 กม./ชม.
มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 57.5 kWh ชาร์จไฟวิ่งได้ระยะทาง 513 กม. ตามมาตรฐาน WLTP รองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ AC สูงสุด 7.6 kW และรองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC สูงสุด 250 kW
ส่วนในรุ่น Long Range AWD จะมากับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ให้กำลัง 441 แรงม้า (PS) มาพร้อมแรงบิด 493 นิวตันเมตร เร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 4.4 วินาที ขณะที่ความเร็วสูงุสดจะอยู่ที่ 233 กม./ชม.
ขณะที่ชุดแบตเตอรี่มีขนาดความจุ 75.0 kWh ชาร์จไฟวิ่งได้ระยะไกลสุด 629 กม. ตามมาตรฐาน WLTP รองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ AC สูงสุด 11.5 kW และรองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC สูงสุด 250 kW
สำหรับราคาจำหน่ายของ Tesla Model 3 รุ่นไมเนอร์เชนจ์ เวอร์ชันในเมืองไทยจะมีราคาดังนี้
- รุ่น RWD ราคาจำหน่ายเริ่ม 1,599,000 บาท
- รุ่น Long Range AWD ราคาจำหน่ายเริ่ม 1,899,000 บาท
โดยผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปชม และสัมผัสยนตกรรมสุดหรูของทาง เทสล่าได้ที่ภายในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 40 หรืองาน Motor Expo 2023 ณ อาคาร IMPACT Challenger 1-3 เมืองทองธานี ตั้งแต่วันนี้ – 11 ธันวาคม พ.ศ. 2566