TESLA ประเทศไทยประกาศเปิดรับจองTesla Model Y โฉมปี 2025 หรือเรียกอีกชื่อว่า Tesla Model Y Launch Series ที่มาพร้อมกับดีไซน์ใหม่หมดทั้งภายนอก และภายในที่ปรับปรุงให้มีความที่เงียบมากขึ้น อีกทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพและระยะทางในการขับขี่ ชาร์จไฟวิ่งไกลสุด 551 กิโลเมตร (WLTP)
สำหรับ Tesla Model Y Launch Series 2025 จะมีให้เลือก 2 รุ่น เปิดราคาจำหน่ายดังนี้
- Model Y Rear-wheel Drive Launch Series ราคาเริ่ม 1,769,000 บาท
- Model Y Long Range AWD Launch Series ราคาเริ่ม 2,069,000 บาท
มาพร้อมการรับประกัน ดังนี้
- รับประกันคุณภาพตัวรถ Warranty 4 ปี หรือ 80,000 กิโลเมตร
- รับประกันแบตเตอรี่และชุดขับเคลื่อน 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (สำหรับรุ่น RWD)
- รับประกันแบตเตอรี่และชุดขับเคลื่อน 8 ปี หรือ 192,000 กิโลเมตร (สำหรับรุ่น Long Range AWD)
โดยตัวรถจะพร้อมส่งมอบได้ประมาณเดือนพฤษภาคม 2025 นี้
ในด้านงานออกแบบดีไซน์ของ Tesla Model Y Launch Series จะมากับดีไซน์ใหม่ตั้งหน้าจรดด้านท้าย โดยในส่วนด้านหน้าของตัวรถจะมากับชุดไฟหน้าใหม่ โดยจะมาในแบบแยกส่วน ด้านบนจะเป็นแถบมาไฟ LED DRL แบบเรียวยาวที่วางพาดเต็มพื้นที่ส่วนหน้า พร้อมกับถอดตราโลโก้ของทางแบรนด์ออก
ส่วนชุดไฟส่องสว่างจะเป็นแบบ Full LED ที่วางอยู่ด้านล่างถัดลงมา โดยจะวางอยู่ในแถบทรงเรียวแหลม ที่ดีไซน์คล้ายตัวเลข 7 มาพร้อมช่องระบายอากาศทรงสี่เหลี่ยมคางหมูขนาดใหญ่ ที่อยู่ตรงกลางกันชนหน้า
เส้นสายด้านข้างตัวถังยังคงเหมือนเดิมที่ดูราบเรียบหรู มือเปิดประตูเป็นแบบรูปตัว L ที่ราบเรียบไปกับตัวรถ ด้านล้ออัลลอยมากับลายใหม่ Crossflow ที่มีให้เลือกทั้งขนาด 19 นิ้ว และขนาด 20 นิ้ว นอกจากนั้นยังติดสัญลักษณ์ Launch Series ไว้ที่บริเวณช่องชาร์จ Wireless Charger
มาพร้อมหลังคาแก้วที่ออกแบบให้เป็นผื่นเดียวยาวตลอดแนวหลังคา ขณะที่แนวหลังคาด้านท้ายก็ยังคงเดิมที่มาในสไตล์ลาดเทแบบรถ Fastback
ส่วนด้านท้ายก็ได้รับการออกแบบใหม่ มากับชุดไฟท้าย LED ที่วางคาดยาวตลอดแบบ Halo Taillight เสริมความด้วยสปอยเลอร์หลังที่อออกแบบให้เป็นชิ้นเดียวกับฝาประตูท้าย เสริมความโดดเด่นด้วยสัญลักษณ์ Launch Series บริเวณฝาท้าย
ในด้านขนาดมิติตัวรถของ Tesla Model Y Launch Series โฉมปี 2025 จะมีความยาว 4,790 มม. กว้าง 1,982 มม. สูง 1,624 มม. มีระยะตำ่สุดใต้ท้องรถ Gorund Clearance 167 มม. ขณะที่น้ำหนักตัวรถในรุ่น RWD จะอยู่ที่ 1,921 กก. ส่วนในรุ่น Long Range AWD จะมีน้ำหนักอยู่ที่ 1,992 กก.
เมื่อเข้าไปภายในห้องโดยสารของ Tesla Model Y Launch Series จะถูกต้อนรับด้วยสัญลักษณ์ Launch Series ที่บริเวณขอบประตู มาพร้อมไฟสัญลักษณ์ส่องพื้นแบบ Launch Series
ด้านภายในห้องโดยสารของ Model Y Launch Series ก็จะได้รับออกแบบให้มีความเงียบมากขึ้น โดยจะได้รับการติดตั้งกระจกอะคูสติกที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ อีกทั้งยังในส่วนของตัวถังยังถูกออกแบบ ให้ลดจำนวนชิ้นส่วนจาก 70 ชิ้น เหลือ 1 ชิ้น ทำให้ช่องว่างน้อยลง ส่งผลทำใหการขับขี่นั้นเงียบสนิท
ห้องโดยสารยังคงรองรับได้ 5 คน มาพร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระของผู้โดยสาร เบาะหลังแต่ละที่นั่งพับราบแยกกันได้อย่างอิสระ ทำให้ได้พื้นที่เก็บของที่ยืดหยุ่นสำหรับสกี เฟอร์นิเจอร์ กระเป๋าเดินทาง และอื่นๆ โดยมีพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายที่มากถึง 2,138 ลิตร เมื่อพับเบาะที่นั่งหลังลง
ในส่วนของแผงแดชบอร์ดยังคงมาในแบบมินิมอลสไตล์ มากับหน้าจอควบคุมส่วนกลางแบบสัมผัสขนาดใหญ่ขึ้นจากเดิมที่มีขนาด 15 นิ้ว ขยายไซซ์เป็น 15.4 นิ้ว พร้อมรองรับการอัปเดตซอฟต์แวร์อัตโนมัติ Over-the-air ผ่านทางดาวเทียมจะคอยอัปเกรดฟังก์ชันคุณสมบัติ นอกจากนี้ยังเพิ่มจอหลังขนาด 8 นิ้วเหมือนกับในรุ่น Model 3 Refreshed นอกจากนี้ยังมากับพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านใหม่ ที่ติดตราโลโก้ตัวอักษร TESLA แทนโลโก้ตัวทีมาพร้อมตัวควบคุมที่เป็นแบบ Joy Stick 2 ปุ่ม
ด้านเบาะนั่งใหม่มาในแบบ Anti-Gravity ปรับเอนด้วยไฟฟ้าทุกที่นั่ง ให้ความสัมผัสที่นุ่มสบายด้วยการหุ้มตัวเบาะนั่งด้วยหนังแท้แบบเจาะรู มาพร้อมระบบเป่าอุ่นเบาะ และเย็นในตัว
ด้านชุดอุปกรณ์ยังคงครนครัน อาทิ ชุดไฟ Ambient Light, กระจกเป็นแบบลดเสียงรบกวน Acoustic Glass หนา 2 ชั้น, ระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง 19 ตำแหน่ง มาพร้อมซับวูฟเฟอร์ 2 จุด และแอมพลิฟายเออร์คู่, แป้นเหยียบแบบอะลูมิเนียม เป็นต้น
ในด้านพละกำลังขับเคลื่อน ในรุ่น Rear-wheel Drive จะมากับมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัวที่อยู่คู่ล้อหลัง ให้กำลังสูงสุด 347 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 5.9 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดจะอยู่ที่ 201 กม./ชม.
จับคู่กับแบตเตอรี่ Lithium-ion (LFP/Graphite) ที่มีขนาดความจุ 57.5 kWh ชาร์จไฟเต็มวิ่างได้ระยะทาง 466 กม. (ตามมาตราฐาน WLTP) พร้อมรองรับการชาร์จไฟฟ้ากระแสสลับ AC สูงสุด 7.6 kW และรองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC Fast Charge สูงสุด 175 kW
ส่วนในรุ่น Long Range AWD จะมากับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ ให้กำลัง 441 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 493 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 4.3 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดจะเท่ากันกับในรุ่น Rear-wheel Drive
มาพร้อมแบตเตอรี่ Lithium-ion (NMC/Graphite) ขนาดความจุ 75.0 kWh ชาร์ไฟเต็มวิ่งไกล 551 กม. (ตามมาตราฐาน WLTP) รองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ AC สูงสุด 11.5 kW และรองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC Fast Charge สูงสุด 250 kW
Tesla Model Y Launch Series จะมีเฉดสีตัวถังภายนอกมีให้เลือก 5 สี ได้แก่สีฟ้า Glacier Blue (สีใหม่), สีขาว Pearl White Multi-Coat, สีเทา Stealth Grey, สีเงิน Quicksilver, สีแดง Ultra Red (โดยทุกสีไม่ต้องมีการจ่ายเงินเพิ่ม)