บริษัท อินช์เคป (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้า และตัวแทนจำหน่ายรถยนต์จากัวร์ และแลนด์โรเวอร์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เปิดตัว The New Range Rover Sport รถเอสยูวีอเนกประสงค์ที่มาพร้อมความสปอร์ต และโฉบเฉี่ยว พ่วงขุมพลัง Plug-In Hybrid ที่ให้กำลังมากถึง 510 แรงม้า (PS) วิ่งด้วยโหมดไฟฟ้าล้วนได้ไกลถึง 113 กม. เคาะราคาจำหน่าย 8.599 ล้านบาท
สำหรับ The New Range Rover Sport ที่วางจำหน่ายในบ้านเราจะมีให้เลือกเพียงรุ่นเดียว Dynamic SE Plug-in Hybrid มาพร้อมกับโฉมใหม่ ที่ดูสปอร์ต และหรูหรา ด้านรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูโดดเด่น มีคุณสมบัติเฉพาะตัว ด้วยระยะยื่นจากล้อที่สั้น กระจกที่มีระดับความลาดเอียงเหมาะสมของทั้งบริเวณด้านหน้าและด้านหลังของรถ
กระจังหน้า และชุดไฟ Digital LED ดีไซน์ใหม่ มาพร้อมชุดไฟ DRL องค์ประกอบสีตัวถังแบบแบ่งครึ่งตามแนวนอนที่ทำให้ตัวรถดูกว้างยิ่งขึ้น เสริมด้วยการใช้สีดำในการเพิ่มรายละเอียด
ด้านหลังของรถสลักลายที่ประตูท้ายช่วยเติมเต็มความสมบูรณ์ กราฟิกไฟ LED ที่ไม่ขาดตอนสะท้อนให้เห็นถึงการนำเทคโนโลยี LED เผยให้เห็นถึงรูปลักษณ์ที่มีความร่วมสมัยได้อย่างชัดเจนแม้ในเวลากลางคืน นอกจากนั้นภายนอกตัวรถยังได้รับการเคลือบเงาเพื่อความสง่างาม มือจับประตูได้รับการออกแบบให้ราบเรียบไปกับตัวรถ
มาพร้อมกับหลังคาที่เชื่อมด้วยเลเซอร์ที่เผยให้เห็นถึงรูปลักษณ์ที่แม่นยำทางด้านเทคนิค และการผสมผสานรายละเอียดที่ซับซ้อนได้อย่างลงตัว เทคโนโลยีที่เอื้อต่อการออกแบบเหล่านี้มีส่วนช่วยให้ประสิทธิภาพของระบบแอโรไดนามิกมีความยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น โดย Range Rover Sport โฉมใหม่นี้มีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอยู่ที่ระดับ 0.29 เท่านั้น
ภายในห้องโดยสาร ออกแบบด้วยเทคโนโลยี Range Rover Command Driving Position ให้เหมือนกับห้องนักบิน คอนโซลกลางออกแบบให้ลาดเอียงในแนวสูง มากับเทคโนโลยีที่ทำให้ทุกการขับขี่ง่าย และสะดวกยิ่งขึ้น
เสริมความล้ำสมัยด้วยระบบอินโฟเทนเมนท์ Pivi Pro และหน้าจอสัมผัสแบบโค้ง และมีความละเอียดสูงขนาด 13.1 นิ้ว สามารถควบคุมทุกการใช้งาน ตั้งแต่การนำทางไปจนถึงการตั้งค่าสื่อและยานพาหนะ ระบบจะเรียนรู้พฤติกรรมของผู้ขับขี่และมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ดีเยี่ยม เป็นเสมือนผู้ช่วยส่วนตัวที่รอบรู้และใช้งานได้ง่าย ช่วยลดความจำเป็นที่ผู้ขับขี่จะต้องละสายตาจากถนน
นอกจากนั้นยังได้รับการติดตั้งระบบ Cabin Air Purification Pro รุ่นล่าสุด ที่จะช่วยกรองฝุ่น PM2.5 มาพร้อมเทคโนโลยี nanoeTM X ที่ช่วยลดกลิ่นอับ แบคทีเรีย และสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ รวมไปถึงไวรัส
ในด้านสมรรถนะมากับขุมพลัง Plug-In Hybrid ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน Ingenium 6 สูบ 3.0 ลิตร ทำงานผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังแรง 105kW ให้ได้กำลังขับทั้งระบบอยู่ที่ 510 แรงม้า พร้อมมอบอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 5.4 วินาที
มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 38.2kWh ที่ให้ระยะการขับขี่ด้วยไฟฟ้าสูงสุด 113 กม. โดยมีระยะทางขับขี่จริงอยู่ที่ประมาณ 88 กิโลเมตร ครอบคลุมระยะทางขับขี่โดยเฉลี่ยกว่า 75% และเมื่อทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน และมอเตอร์ไฟฟ้าจะให้ระยะทางขับขี่ประมาณ 740 กม.
Range Rover Sport โฉมใหม่ยังมาพร้อมระบบ Dynamic Response Pro ทำงานคู่กับช่วงล่างถุงลม Dynamic Air Suspension เจเนอเรชันล่าสุด ที่มาพร้อมสปริงลมแบบปรับระดับได้เป็นครั้งแรก ทำงานผ่านระบบควบคุมการหมุนแบบอิเล็กทรอนิกส์ 48 โวลต์ สร้างแรงบิดได้สูงสุด 1,400 นิวตันเมตร ในแต่ละเพลา เพื่อใช้ในการควบคุมตัวถังและเพิ่มความนุ่มนวลสูงสุดในการเข้าโค้ง
ขณะที่ระบบช่วงล่างของ Range Rover Spot จะได้รับการติดตั้งระบบ Dynamic Air Suspension ที่จะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับระบบกันสะเทือน ระบบนี้ทำงานโดยการปรับแรงดันของกระบอกโช้คให้สอดคล้องกับพื้นผิวถนน และความลาดชัน นอกจากนั้นรถรุ่นนี้ยังมาพร้อมกับระบบตรวจสอบทิศทางของถนนข้างหน้า โดยใช้ระบบข้อมูลการนำทางที่เรียกว่า eHorizon เพื่อทำงานให้สอดคล้องกับระบบช่วงล่าง ที่ต้องปรับสภาพให้เป็นไปตามข้อมูลล่วงหน้าที่ได้รับจากระบบ ซึ่งเทคโนโลยี Adaptive Dynamics ช่วยเพิ่มความสามารถแบบไดนามิกด้วยการควบคุมอย่างต่อเนื่องของระบบ Active Twin Valve Dampers เพื่อช่วยลดการเคลื่อนไหวที่ไม่จำเป็นของร่างกายผู้ขับขี่ ระบบนี้ยังสามารถตรวจสอบปัจจัยภายนอกได้สูงถึง 500 ครั้งต่อวินาที
รวมถึงยังได้รับการติดตั้งระบบ All-Wheel Steering ระบบ Torque Vectoring by Braking และระบบ Electronic Active Differential ที่จะช่วยให้การบังคับเลี้ยวของล้อหลังทำมุมตรงกันข้ามกับล้อหน้า ได้สูงสุดถึง 7.3 องศา เพื่อลดวงเลี้ยวให้แคบลงในความเร็วต่ำและทำมุมขนานกับล้อหน้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าโค้งในช่วงเวลาที่ขับขี่ด้วยความเร็วสูง รวมถึงระบบ Terrain Response 2® ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่แบบออฟโรด
และเป็นครั้งแรกที่ Range Rover Sport จะได้รับการติดตั้งระบบ New Adaptive Off-Road Cruise Control ที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่ท่องไปในสภาพภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยความยากลำบากได้อย่างราบรื่น และยังคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพในการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบแม้สภาพพื้นผิวถนนจะมีความแตกต่าง
ด้านระบบความปลอดภัย และระบบช่วยเหลือการขับขี่ ติดตั้งระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง ADAS อาทิระบบเบรกฉุกเฉิน, กล้อง 3D รอบทิศทาง, เซ็นเซอร์จอดรถด้านหน้าและด้านหลัง, ระบบ Wade Sensing ระบบ ClearSight Ground View และไฟเลี้ยวที่มีระบบควบคุมการขับขี่อัตโนมัติ ระบบตรวจสอบสภาพคนขับ ระบบช่วยเหลือการขับขี่ในเลน และระบบจดจำป้ายจราจร
สำหรับราคาจำหน่ายของ All-new Range Rover Sport Dynamic SE P510e Plug-in Hybrid เปิดราคาจำหน่ายในไทยที่ 8,599,000 บาท (ราคารวมแพ็กเกจ Range Rover Care 5 ปี ประกอบด้วย การรับประกันคุณภาพ การบำรุงรักษาตามระยะ และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน 24 ชั่วโมง