หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทาง GAC–Toyota ได้เปิดราคา Pre-Sales พร้อมเปิดช่องทางให้ลูกค้าที่สนใจสั่งซื้อแบบช่องทางออนไลน์ของ Toyota bZ3X ล่วงหน้ากันไปแล้ว
ล่าสุดทางโตโยต้า ในประเทศจีนได้เปิดตัวประกาศราคาจำหน่าย Toyota bZ3X อย่างเป็นทางการแล้ว โดยมีให้เลือกมากถึง 7 รุ่นย่อย มาพร้อมกับพละกำลังมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียวที่ให้กำลัง 201 แรงม้า และมีแบตเตอรี่ให้เลือก 3 ขนาดความจุ 50 / 58.4 /67.9 kWh ชาร์จไฟให้ระยะทางวิ่ง 430 กม./520 กม. และ 610 กม. (ตามามาตรฐาน CLTC) เปิดขายไว้ระหว่าง 109,800 – 159,800 หยวน หรือประมาณ 5.12 – 7.45 แสนบาท
ราคาจำหน่าย Toyota bZ3X ในจีน
- 430 Air ราคา 109,800 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 5.12 แสนบาท
- 430 Air+ ราคา 119,800 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 5.59 แสนบาท
- 520 Pro ราคา 129,800 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 6.05 แสนบาท
- 520 Pro+ ราคา 139,800 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 6.52 แสนบาท
- 520 Pro Smart ราคา 149,800 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 6.99 แสนบาท
- 520 Pro+ Smart ราคา 159,800 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 7.45 แสนบาท
- 610 Max ราคา 159,800 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 7.45 แสนบาท
สำหรับ Toyota bZ3X ถือเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่นที่ 3 ภายใต้แบรนด์ bZ ในจีน และเป็นรถในรูปแบบเอสยูวีที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% คันแรกของทาง GAC-Toyota โดยหลังจากเปิดตัวประกาศราคาไปเพียง 1 ชั่วโมง ก็สามารถทำยอดจองก็ทะลุ 10,000 คัน
โดย Toyota bZ3X เอสยูวีไฟฟ้า 100% ใหม่รุ่นนี้เป็นรถยนต์ที่เกิดจากความร่วมมือกันระหว่างทาง Toyota กับ GAC ได้เคยเผยโฉมครั้งแรกที่ในงาน Beijing Auto Show เมื่อช่วงต้นปี 2024
ในด้านงานออกแบบดีไซน์ มาพร้อมภาษาการออกแบบที่เรียกว่า “สุนทรียศาสตร์ไฟฟ้าล้วน” ตัวรถจะมากับชุดไฟหน้าแบบแยกส่วน ด้านบนเป็นแถบไฟ LED DLR ที่าวงพาดเรียวยาวเต็มพื้นที่ส่วนหน้า ที่ด้านในประกอบด้วยหลิด LED 112 ดวง มาพร้อมการโต้ตอบ ด้วยลักษณะแสง อาทิ การสตาร์ท /การปิดเครื่อง /การชาร์จไฟ และการระบุตำแหน่งรถ โดยมีตราโลโก้ สามห่วงของโตโยต้าอยู่ข้างบน
มาพร้อมกระจังหน้าแบบปิดทึบ โดยมีชุดไฟส่องสว่าง ขนาบอยู่ด้านข้าง ที่มาในทรงเรียวปลายแหลม พร้อมทั้งลากหางวางแบบตั้งฉาก ส่วนตัวกันชนหน้าจะเป็นช่องดักอากาศเทียมที่มาในแบบตะแกรงสีดำ
เส้นสายด้านข้างจะออกแบบให้มีเหลี่ยมมุมที่บังโคลนหน้า และท้าย มือเปิดประตูเป็นแบบราบเรียบไปกับตัวรถ, เสริมความสปอร์ตด้วยสเกิร์ตข้าง, ฝาครอบกระจกมองข้าง และซุ้มล้อสีดำ มาพร้อมล้อออัลลอยทูโทนที่มีขนาด 18 และ 19 นิ้ว (ขึ้นอยุ่แต่ละรุ่นย่อย)
ขณะที่ด้านท้ายก็จะมากับไฟท้าย LED ที่วางเต็มพื้นที่ ตามแบบฉบับรถบนต์ยุคใหม่ พร้อติดตราโลโก้ BEV ที่มุมล่างขวาของประตูท้าย ส่วนบนหลังคาจะติดตั้งสปอยเลอร์หลังคาสีดำ มาพร้อมหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามิกที่มีขนาดขนาดใหญ่ถึง 1.14 ตร.ม.
สำหรับมิติขนาดตัวรถของ bZ3X จะมีความยาว 4,600 มม. กว้าง 1,875 มม. สูง 1,645 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,765 มม. โดยมีน้ำหนักบรรทุกของรถอยู่ที่ 1,690 กก.
ภายในห้องโดยสารจะเน้นความเรียบหรู แผลคอนโซลหน้าจะมากับพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบสองก้าน โดยมีปุ่มควบคุมสั่งงานที่เป้นแบบลูกกลิ้ง มาพร้อมแผงหน้าปัด LCD ขนาด 8.8 นิ้ว และหน้าจอควบคุมกลางที่วางแบบลอยขนาด 14.6 นิ้ว ขับเคลื่อนด้วยชิป Qualcomm Snapdragon 8155 พร้อมรองรับฟังก์ชันการสั่งงานด้วยเสียง
คอนโซลกลางออกแบบให้เชื่อมต่อกับแผงแบอร์ฺด โดยมีเพียงแท่นชาร์จสมาร์ตโฟนที่มีมาให้ 2 ตำแหน่ง มาพร้อมช่องวางของ และช่องวางขวดหรือแก้วน้ำ 2 ช่อง
เบาะที่นั่งแถวหลังจะได้รับช่องแอร์ และที่วางแขนพับได้ นอกจากนี้เบาะนั่งด้านหน้ายังสามารถพับราบเรียบต่อกับเบาะที่นั่งด้านหลัง ให้กลายเป้นที่นอนขนาดใหญ่ โดยจะถูดสั่งงานด้วยการไกดปุ่มเพียงปุ่มเดียว
นอกจากนั้นยังได้รับชุด Ambient Lighting รอบห้องโดยสาร 32 สี, ถุงลมนิรภัย SRS (Supplemental Restraint System) 7 ใบ และระบบเครื่องเสียงของทาง Yamaha พร้อมลำโพง 11 ตำแหน่ง
ในด้านพละกำลังขับเคลื่อนของ bZ3X จะคล้ายกับตัว GAC Aion V ไม่ว่าจะเป็นขนาด มอเตอร์ และระบบส่งกำลัง แต่จะแตกต่างในส่วนของขนาดแบตเตอรี่ โดยในทุกรุ่นย่อยจะได้รับการติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้ารุ่น TZ175XSAY501 ที่ผลิตโดย Guangzhou Nidec Auto Drive System Co., Ltd. ไว้ที่คุ่ล้อหน้าให้กำลัง 150 kW (201 แรงม้า) ตัวรถจะทำความเร็วสุงุสดอยู่ที่ 160 กม./ชม.
โดยจะมากับชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไออนฟอสเฟต (LFP) ที่มีให้เลือก 3 ขนาดความจุ ได้แก่ 50.0 / 58.4 และ 67.9 kWh ชาร์จไฟเต็มจะให้ระยะทางวิ่งไกล 430 กม. / 520 กม. และ 610 กม. (ตามมาตรฐาน CLTC) พร้อมรองรับกาาร์จไฟแบบ DC ที่ให้กำลังไฟ 30% – 80% ในเวลาเพียง 24 นาที
นอกจากนั้น Toyota bZ3X ในทุกรุ่นย่อยจะได้รับระบบ Toyota Pilot เป็นชุดอุปกรณ์มาตรฐาน รวมถึงในทุกรุ่น (ยกเว้นรุ่น 430 Air ที่เป็นรุ่นเริ่มต้น) จะมากับระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง (ADAS) Momenta 5.0 ซึ่งขับเคลื่อนโดยชิป Nvidia DRIVE AGX Orin X และการรับรู้ผ่านเซ็นเซอร์ 27 ตัว รวมถึงกล้องความละเอียดสูง 11 ตัว เรดาร์อัลตราโซนิก 12 ตัว เรดาร์คลื่นมิลลิเมตร 3 ตัว และเซ็นเซอร์ LiDAR ที่ติดตั้งอยู่บนหลังคาด้านหน้า โดยไม่ต้องอาศัยแผนที่ความละเอียดสูง
ขณะที่ในรุ่น 610 Max ซึ่งเป็นรุ่นท๊อปสุดจะได้รับเพิ่มระบบ ADAS เข้ามา ที่มีมากถึง 25 ระบบ อาทิ ระบบช่วยจำกัดความเร็ว, ระบบช่วยสัญญาณไฟจราจร, ที่จอดรถระยะไกล และการตรวจสอบจุดบอด และอื่นๆ อีกมากมาย
Toyota bZ3X ที่เปิดวางจำหน่ายในประเทศจีน จะมีเฉดสีตัวถังให้เลือกมากถึง 7 สี ได้แก่ สีขาว Sky White, สีขาว Pure Snow White, สีเทา Distant Mountain Gray, สีบรอนซ์เงิน Bright Moon Silver, สีดำ Vast Black, สีชมพู Sky Pink และสีเหลืองทอง Cyber Gold
Toyota bZ3X เปิดตัวในจีนนั้นจัดรถยนต์ไฟฟ้าอีกหนึ่งรุ่นที่มีราคาเข้าถึงได้ง่าย ส่วนจะมีการนำเข้ามาขายในไทยหรือไม่นั้นต้องติดตามกันต่อไปทั้งนี้หากมีความคืบหน้าอย่างไรทางทีมงาน Autostation.com จะนำรายงานให้เพื่อน ๆ ได้ทราบอีกครั้งหนึ่ง