ก่อนหน้านี้ทาง Toyota ได้นำ Toyota bZ4X เข้ามาจำหน่ายในไทยเมื่อปี 2565 โดยในครั้งนั้นเป็นการจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ และมีมีจำนวนจำกัดเพียง 50 คัน โดยเปิดราคาไว้ที่ 1,836,000 บาท

ล่าสุด โดโยต้า พร้อมกลับมาลุยตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอีกครั้ง โดยตรียมเปิดตัว Toyota bZ4X รุ่นปรับโฉมใหม่ในวันที่ 21 สิงหาคม นี้ โดยจะเป็นการนำเข้มาจากประเทศญี่ปุ่นทั้งคัน ชูจุดเด่นชาร์จไฟวิ่งไกลถึง 520 กม. โดยคาดว่าจะมีราคาที่ต่ำกว่ารุ่นเดิมที่เปิดไปเมื่อราว ๆ 3 ปีที่แล้ว ลุ้นต่ำ1.8 ล้านบาท รวมทั้งจะเปิดวางจำหน่ายเต็มรูปแบบไม่จำกัดจำนวน



โดย Toyota bZ4X ตัวใหม่นี้จะเป็นโฉม Minorchange ใหม่ ในด้านงานออกแบบดีไซน์นั้นจะมีการปรับเปลี่ยนจากเดิมอยู่หลาย ๆ จุด รูปลักษณ์จะดูคมชัด และดูสะอาดสะอ้านมากขึ้น โดยด้านหน้ามากับกระจังหน้าแบบ Hammerhead มาพร้อมชุดไฟหน้า LED พร้อมไฟ DRL LED ที่เป็นรูปตัว C กันชนหน้าดีไซน์ใหม่พร้อมช่องรับลมขนาดใหญ่ อีกยังติดตั้งไฟตัดหมอกหน้า LED ที่ช่องระบายอากาศด้านข้างที่ถูกออกแบบใหม่ มาในทรงหกเหลี่ยมแนวตั้ง


ด้านข้างยังคงดีเทลเดิมหลังคาด้านท้ายที่มาในแบบลาดเท กระจกมองข้างสีดำ มือเปิดประตูเป็นแบบปกติ มาพร้อมล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 20 นิ้ว

ด้านท้ายดีไซน์เดิมทั้งไฟท้าย LED รูปตัว C เสริมความสปอร์ตด้วยสปอยเลอร์หลังคาหลังที่เป็นแบบแยก และสปอยเลอร์ที่ฝาประตูท้าย

Toyota bZ4X โฉม Minorchange ใหม่ ยังคงถูกพัฒนาบนพื้นฐาน e-TNGA โดยจะมีความยาว 4,690 มม. กว้าง 1,860 มม. สูง 1,650 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,850 มม.

ภายในห้องโดยสารก็ได้ปรับดีไซน์ใหม่ในหลาย ๆ ของส่วน โดยจะดีไซน์เหมือนกับ Toyota C-HR+ ที่มากับความเรียบง่าย รวมถึงจะเน้นให้มีความกว้างขวาง


แผงแดชบอร์ดจะมากับช่องแอร์ที่ออกแบบใหม่ให้เป็นแนวนอนแบบซ่อนที่ดูกลมกลืนไปกับแผงคอนโซลหน้า มาพร้อมมาตรวัดดิจิทัลพร้อมจอ MID 7 นิ้ว และหน้าจออินโฟนเทนเมนต์แบบสัมผัสขนาดใหญ่ 14 นิ้ว จากเดิมที่มีขนาด 12.3 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlay และ Andriod Auto



คอนโซลกลางออกแบบใหม่ มาพร้อมแท่นชาร์จสมาร์ทโฟนไร้สายที่มีมาให้ 2 ตำแหน่ง มาพร้อมสวิตช์ควบคุมเกียร์แบบ Shift-by-Wire ที่จากเดิมนั้นเป็นเป็นคันเกียร์ที่อยู่ด้านหลังพวงมาลัย อีกทั้งยังได้รับชุดเครื่องเสียง JBL Premium Audio 9 ลำโพง และไฟ Ambient Light ตามสมัยนิยม มาพร้อมหลังคา Panoramic sunroof อีกทั้งยังออกแบบภายในห้องโดยสารให้มีช่องเสียบพอร์ต USB ถึง 5 ตำแหน่ง และมีที่วางแก้วน้ำมากถึง 12 จุด รวมทั้งยังสามรถควบคุมสั่งเปิดแอร์ผ่านรีโมทคอนโทรลได้ในระยะกว่า 30 เมตร

นอกจากนี้รถยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีความปลอดภัยและช่วยขับล่าสุดจาก Toyota Safety Sense 3.0 อาทิ ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ Intelligent Parking Assist ช่วยการจอดเทียบ และเข้าช่องจอดได้ง่ายขึ้น มาพร้อมกล้อง 4 ตัว และเซ็นเซอร์ 12 จุด

ด้านพละกำลังขับเคลื่อน Toyota bZ4X โฉมไมเนอร์เชนจ์ ในสเปคที่เปิดตัวที่ญี่ปุ่นจะมีการอัปเกรดทั้งชุดมอเตอร์ และแบตเตอรี่ใหม่ โดยมีทั้งมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียว และมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ แบ่งออกเป็น 3 รุ่น
- รุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียว (FWD) ที่ให้กำลัง 123 kW / 167 แรงม้า (PS) ให้อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ในเวลา 8.6 วินาที จับคู่กับแบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาด 57.7 kWh ชาร์จไฟวิ่งไกลสุด 445 กม. (WLTP)
- รุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียว (FWD) ให้กำลังสูงสุด 165 kW / 224 แรงม้า (PS) ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 7.4 วินาที มาพร้อมแบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาดความจุ 73.1 kWh ชาร์จไฟวิ่งไกล 573 กม. (WLTP)
- รุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD มาพร้อมระบบควบคุมแรงบิด X-MODE ให้กำลังรวม 252 kW / 342 แรงม้า (PS) ให้อัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 5.1 วินาที จับคู่กับแบตเตอรี่ Lithium-ion ความจุ 73.1 kWh ชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้งให้ระยะทางวิ่งไกลสุด 523 กม. (WLTP)

โดยทุกรุ่นจะมาพร้อมระบบ Battery Pre-conditioning และรองรับการชาร์จไฟแบบ AC สูงสุด 22kW และรองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้าแบบ DC สูงสุด 150kW

ด้านระบบช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท ส่วนด้านหลังเป็นแบบอิสระปีกนกคู่ มาพร้อมระบบ Regenerative Braking Mode ที่ช่วยนำพลังงานไฟฟ้ากลับมาทุกครั้งที่ยกคันเร่ง

ส่วนในสเปคที่จะเปิดตัวในไทยนี้นั้นต้องมารอลุ้นกันวาทาง โดโยต้า ประเทศไทย จะนำรุ่นไหนเข้ามาทำตลาด โดยในด้านราคาจำหน่ายนั้นคาดอาจต่ำกว่า 1.8 ล้านบาท จากรุ่นเดิม
สำหรับการเปิดตัวนั้นจะมีขึ้นในวันที่ 21 ส.ค. 2568 นี้ โดยจำทำการเปิดตัวพร้อมกับ Toyota Yaris ATIV Hybrid
ทั้งนี้หากมีรายละเอียด และช้อมูลอื่น ๆ เพิ่มเติม ออกมาจากอย่างไร ทางทีมงาน Autostation.com จะนำรายงานให้เพื่อน ๆ ได้ทราบอีกครั้งหนึ่ง
