โตโยต้าในประเทศญี่ปุ่น เปิดตัว Toyota Sienta 2024 รถเอ็มพีวีขนาดเล็กแบบ 5 – 7 ที่นั่ง ที่มาพร้อมกับการปรับปรุงใหม่โดยเฉพาะภายในห้องโดยสาร ที่มากับชุดอุปกรณ์ออปชั่นแบบจัดเต็ม เปิดราคาเริ่มที่ 4.66 แสนบาท
ในด้านรูปลักษณ์ดีไซน์ภายนอกนั้นยังคงเดิมเมื่อครั้งถูกปปรับโฉมไปเมื่อปี 2023 ที่ผ่านมา ด้วยสไตล์ที่โค้งมน ด้านหน้ายังคงมากับชุดไฟ Bi-Beam LED มาพร้อมไฟ DRL แบบ LED ที่อยู่ในโคมเดียวกัน ชุดไฟหน้าทั้ง 2 ฝั่งถูกเชื่อมต่อกันด้วยแถบเส้นสีดำ พร้อมติดตราโลโก้ Toyota ไว้ตรงกลาง
มาพร้อมช่องรับอากาศขนาดใหญ่ ในรูปแบบทรงเหลี่ยม พร้อมคาดด้วยแถบสีดำไว้ตรงกลาง เพิ่มความหรูหราด้วยการล้อมกรอบด้วยโครเมียม
ด้านข้างตัวรถมากับกระจกหน้าต่างขนาดใหญ่ ที่เพื่อเพิ่มความโปร่งภายในห้องโดยสาร และให้ทัศนวิสัยการมองได้อย่างชัดเจน ประตูแบบบานสไลด์ทั้ง 2 ฝั่งพร้อมสวิตช์สัมผัสเดียวอีกทั้งยังมากับฟังก์ชันป้องกันการหนีบ รวมทั้งยังมากับระบบเปิดอัตโนมัติ เพียงขยับเท้าเข้าและออกจากเซ็นเซอร์ที่อยู่ใต้พื้นใต้ มาพร้อมล้ออัลลอยทูโทนขนาด 15 นิ้ว
ชุดไฟท้ายเป็นแบบ LED Light Guiding รูปทรงตัว C ขนาดใหญ่ วางในแบบแนวตั้ง ตกแต่งประตูด้านท้ายด้วยแถบสีดำขนาดใหญ่
ในด้านขนาดตัวรถยาวตัวรถอยู่ที่ 4,300 มม., กว้าง 1,695 มม., สูง 1,670 มม. ระยะฐานล้อ 2,750 มม. มาพร้อมระยะสูงจากพื้น 330 มม.
สำหรับภายในห้องโดยสารเมื่อเปิดประตูแบบบานสไลด์ออก ด้านในจะด้ามจับช่วยในการขึ้นลง ขณะที่ภายในจะมาพร้อมเบาะแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง และเบาะ 2 แถว 5 ที่นั่ง
แผงคอนโซลหน้าจะมาพร้อมหน้าจอมาตรวัดขนาด 4.2 – 7 นิ้ว (ขึ้นอยู่แต่ละรุ่นย่อย) พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันขนาดใหญ่ทรงสามก้าน ตรงกลางติดตั้งหน้าจออินโฟรเทนเมนต์แบบสัมผัสขนาด 8 – 10.5 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Apple Car Play และ Android Auto
เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวา มาพร้อมกับช่องแอร์เหนือเพดาน เบรกมือไฟฟ้าและ Auto Hold เบาะตอนสองพับได้แบบ 50:50 และปรับเอนนอนได้ และเบาะตอนสามปรับเอนและพับได้แบบขึ้นไปแขวนบนเสา C กับ D ช่องเสียบ USB นอกจากนั้นยังมี Power Outlet 100V 1500W 2 ตำแหน่ง
สำหรับในรุ่นโมเดลปี 2024 จะมีการปรับเพิ่มออปชันเพื่อความสะดวกสบายให้มากขึ้นกว่าเดิม โดยจะได้รับกุญแจแบบ Digital Key ทำงานผ่านทางแอปพลิเคชัน T-Connect และ Toyota Account ใช้สมาร์ตโฟนเป็นกุญแจรถในการล็อกและปลดล็อกได้ โดยต้องสมัครและทำสัญญาผ่านทางแอปเป็นออปชัน
นอกจากนั้นในรุ่น Z และ G มีอุปกรณ์จ่ายไฟภายนอกสำหรับกิจกรรมกลางแจ้งเมื่อเลือกเต้ารับตามที่กำหนดสำหรับออปชันประจำรุ่นไฮบริด Z, G และ X
ขณะที่ในรุ่น Z ติดตั้งหน้าจอสัมผัสขนาดใหม่ 10.5 นิ้ว พร้อมระบบนำทางในตัวจอ ในรุ่น Z และ G ติดตั้งระบบกล้องมองภาพรอบคัน รวมทั้งยังมีออปชั่นเสริมที่เป็นชุุดโคมไฟติดเพดาน ที่มาพร้อมระบบฟอกอากาศ Nanoe X ช่วยกำจัดฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอนได้ถึง 99% ส่วนรุ่น X ที่เป็นแบบเบนซินล้วน เปลี่ยนมาใช้ ปุ่ม Push Start และมาพร้อมกุญแจแบบ Smart Entry
ในด้านระบบความปลอดภัยยีคงมากับระบบ Toyota Safety Sense เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อย โดยมีการปรับปรุงระบบป้องกันการชน Pre-Collision Safety System ให้สามารถตรวจจับผู้ใช้รถจักรยานยนต์ ในเวลากลางวัน, คนเดินถนน และผู้ใช้จักรยานยนต์ได้ดียิ่งขึ้น และระบบ Proactive Driving Assist ช่วยป้องกันการเข้าใกล้คนเดินถนน, กล้องมองรอบคัน 360 องศา และกล้องบันทึกภาพหน้า-หลัง เป็นต้น
ขณะที่ขุมพลังขับเคลื่อนจะมีให้เลือก 2 รูปแบบ ได้แก่เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลัง 120 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 145 นิวตันเมตร ส่งกำลังไปยังคู่ล้อหน้าด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ
ขุมพลังเบนซิน 1.5 Hybrid ที่มากับเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลัง 91 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 120 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว มอเตอร์ไฟฟ้าตัวหน้าให้กำลังสูงสุด 80 แรงม้า แรงบิด 141 นิวตันเมตร ส่วนมอเตอร์หลังให้กำลัง 3.0 แรงม้า แรงบิด44 นิวตันเมตร มาพร้อมแบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาด 6.5 Ah ส่งกำลังด้วยชุดเกยร์ E-CVT ระบบขับเคลื่อนจะมีให้เลือกทั้งเคลื่อนล้อหน้า และขับเคลื่อน 4 ล้อ E-Four
Toyota Sienta 2024 จะมีทั้งหมด 3 เกรดตั้งแต่รุ่น X, G และรุ่น Z และ 18 รุ่นย่อย พร้อมเพิ่มเฉดสีใหม่ 2 สีได้แก่ สีขาวมุก Platinum White Pearl Mica และสีเทา Dark Grey x Urban Khaki
สำหรับราคาจำหน่ายจะอยู่ระหว่าง 1,995,200 เยน – 3,234,600 เยน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 4.66 – 7.56 แสนบาท แต่น่าเสียดายที่ทางโตโยต้าประเทศไทยไม่มีการนำเข้ามาจัดจำหน่ายแล้ว
