หลังจากที่เมื่อช่วงกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาทาง Wuling แบรนด์รถในสังกัดของทาง SAIC-GM-Wuling (SGMW) ได้เผยภาพชุดรายภายนอกของ Wuling Starlight รถยนต์รุ่นใหม่ของค่ายออกมา ล่าสุดทาง Wuling ก็ได้เปิดภาพภายในห้องโดยสารของซีดานใหม่ออกมาสมทบ ก่อนที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศจีน ช่วงปลายปี 2023 ที่จะถึงนี้
Wuling Starlight เป็นรถยนต์ในรูปแบบซีดานตัวใหม่ โดยจะมีให้เลือกทั้งเวอร์ชั่น ขุมพลังไฟฟ้า BEV และ Plug-in hybrid
สำหรับรายละเอียดภายในห้องโดยสารของ Wuling Starlight จากภาพจะเห็นถึงงานออกแบบที่มาพร้อมคว่ามล้ำสมัย ตามแบบฉบับรถยนต์พลังงานทางเลือกรุ่นใหม่ ๆ โดยเฉดสีภายในจะมีให้เลือก 2 สี โทนสีดำ และสีเบจ
คอนโซลหน้าจะมากับพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบก้านคู่ท้ายตัด ตกแต่งด้านในด้วยวัสดุโครเมียม ขณะที่แผงแดชบอร์ดจะมาพร้อมกับหน้าจอควบคุมส่วนกลางขนาดใหญ่ที่วางแบบลอยตัว และแผงหน้าปัด LCD
คอนโซลกลางดีไซน์ให้เชื่อมต่อกับคอนโซลหน้า ที่มาในรูปแบสะพานโดยมีช่องว่างด้านล่างสำหรับวางของ มาพร้อมพอร์ต USB-C ส่วนด้านบนจะมีพื้นที่ขนาดใหญ่ โดยจะติดตั้งแป้มหมุนปรับเปลี่ยนเกียร์ มาพร้อมช่องวางขวดน้ำขนาดใหญ่ 2 ช่อง
ขณะในส่วนเบาะที่นั่งจะรองรับผู้โดยสารได้ 5 ที่นั่ง เบาะคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้า สามารถปรับเอนได้ราบเรียบถึง 180° โดยจะเชื่อมต่อติดกับเบาะที่นั่งดเานหลังส่งผลทำให้กลายเป็นเตียงนอนขนาดใหญ่
นอกจากนั้นในส่วนพื้นที่เก้บสัมภาระด้านท้ายถูกออกแบบหใ้มัความใหญ่ โดยมีความจุมากถึง 540 ลิตร สามารถรองรับกระเป๋าเดินทางขนาด 24 นิ้ว 2 ใบ และขนาด 20 นิ้ว 2 ใบ อีกทั้งยังออกแบบให้มีช่องเก็บของที่ซ่อนอยู่บนพื้นรถโดยมีขนาดความจุอยู่ที่ 33 ลิตร และยังดีไซน์ให้มีช่องวางของมากถึง 14 ช่อง ทั่วห้องโดยสาร
ด้านรูปลักษณ์หน้าตาภายนอกนั้นของ Wuling Starlight ในเวอร์ชั่น EV และ PHEV จะมีความคล้ายคลึงกัน แต่จะแตกต่างกันในส่วนของกระจังหน้ โดยในรุ่นขุมพลังไฟฟ้า จะมากับกระจังแบบปิดทึบ ขณะที่ในรุ่น PHEV กระจังหน้าจะถูกเจาะรูเพื่อให้ช่วยระบายความร้อนของเครื่องยนต์ รวมทั้งในส่วนของ โลโก้ Wuling ที่ในรุ่นปลั๊กอินไฮบริดจะมีขนาดที่ใหญ่กว่า
นอกจากนั้นในส่วนชุดไฟหน้าก็ยังออกแบบให้แตกต่างกัน แต่ทั้ง 2 เวอร์ชั่นจะเหมือนกันตรงที่ชุดไฟหน้าจะเป็นแบบแยกส่วน โดยในรุ่น BEV ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ไฟ DRLs จะมีลักษณะคล้ายกับ Deepal SL03 ที่เป็นแบบเรียวยาว ส่วนไฟส่องสว่างจะมาในทรงสี่เหลี่ยมคางหมูดวงโต พร้อมเชื่อมต่อชุดไฟทั้ง 2 ฝั่งด้วยแถบวัสดุสีดำ พร้อมกับที่ติดตั้งแถบสีเงินที่สเกิร์ตปลายกันชน
ขณะที่ในรุ่น PHEV ชุดไฟหน้าจะมีความคล้ายกับใน Xpeng ที่ไฟ DRLs จะมาในแบบเส้น LED ที่คาดยาวเต็มพื้นที่ด้านหน้า ชุดไฟหน้าทรงสี่เหลี่ยมคางหมูแบบเดียวกับในรถุ่น BEV ส่วนตัวกันชนออกแบบให้มีทรงรับอากาศขนาดใหญ่สีดำ พร้อมตกแต่งด้วยเส้นโครเมียมไว้ที่ปลายมุมกันชนทั้ง 2 ฝั่ง
ส่วนด้านท้ายทั้งรุ่น BEV และ PHEV จะมีความคล้ายคลึงกัน โดยจะมากับชุดไฟท้ายที่ถูกออกแบบให้เป็นเส้น พาดเต็มพื้นที่ด้านหลังในรูปตัว U คว่ำ มาพร้อมกันชนท้ายขนาดใหญ่สีดำ ตกแต่งด้วยชิ้นงานโครเมียมที่ด้านล่าง แต่สิ่งี่แตกต่างคงจะเป้นในส่วนของปลายท่อไอเสียที่ในรุ่น BEV จะไม่มี ส่วนในรุ่น PHEV จะออกแบบให้ซ่อนอยู่ด้านหลังตัวกันชนท้ายอย่างแนบเนียน
สำหรับขนาดมิติตัวรถของทั้ง 2 สเปค จะมีความยาว 4,835 มม., กว้าง 1,860 มม., สูง 1,515 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,800 มม. โดยทั้ง 2 รุ่นจะได้รับการติดตั้งล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว รัดด้วยยางขนาด 215/50 R18
ในด้านพละกำลังยังไม่มีข้อมูลแบบออฟฟิลเชี่ยลเปิดเผยออกมา มีเพียงข้อมูลที่ถูกเปิดออกมาจากทาง MIIT คือในรุ่น BEV จะมากับมอเตอร์ไฟฟ้า TZ180XS2A0 ขนาด 100 kW หรือให้กำลัง 136 แรงม้า ตัวรถจะทำความเร็วสูงุสดอยู่ที่ 150 กม./ชม. พร้อมรองรับน้ำหนักบรรทุกที่ 1,600 กก. มาพร้อมชุดแบตเตอรี่เป็นแบบ LFP แต่ยังไม่มีการเปิดเผยขนาดความจุ และระยะทางในการวิ่งออกมาในขณะนี้
ส่วนในรุ่น Plug-in hybrid จะมีข้อมูลเปิดเผยเพียงว่าจะมากับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุ 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 106 แรงม้า (PS)
สำหรับเฉดสีตัวรถของ Wuling Starlight จะมีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีขาว Star White, สีม่วง Star Violet, สีเขียว Star Phantom Green, สีเทา Star Wild Grey, สีดำ Star Curtain Black และสีน้ำตาล Star Glow Curry
สำหรับรายละเอียดโดยรวมทั้งหมดของ Wuling Starlight จะได้รับการเปิดเผยอีกครั้งในวันที่เปิดตัวอย่างเป็นทาง ซึ่งคาดว่าจะไมีขึ้นในช่วงปลายปี 2023 ที่จะถึงนี้