MGC-ASIA หรือ บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) ผู้นำเข้า และตัวแทนจำหน่าย Xpeng (เอ็กซ์เผิง) ในประเทศไทย เปิดตัวประกาศราคาจำหน่าย XPeng G6 (เอ็กซ์เผิง จี6) รถเอสยูวีครอสโอเวอร์ใหม่อย่างเป็นทางการในไทย โดยมีให้เลือก 2 รุ่นย่อย รุ่น RWD Standard Range มากับมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดี่ยว 190 แรงม้า จับคู่กับแบตเตอรี่ LFP 66 kWh ชาร์จไฟวิ่งไกล 435 กม. (WLTP) และรุ่น RWD Long Range มอเตอร์ไฟฟ้าตัวที่ให้กำลัง 210 แรงม้า มากับแบตเตอรี่ NMC ขนาด 87.5 kWh ชาร์จวิ่งไกล 570 กม. (WLTP)
ราคาอย่างเป็นทางการของ XPeng G6
- รุ่น RWD Standard Range ราคา 1,439,000 บาท
- รุ่น RWD Long Range ราคา 1,599,000 บาท
รับประกันตัวรถ 5 ปี หรือ 120,000 กม.
แบตเตอรี่รับประกัน 8 ปี หรือ 160,000 กม.
สำหรับ XPeng G6 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มาในรูปแบบเอสยูวีครอสโอเวอร์ โดยจะเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าในระดับ Premium ถูกเปิดตัวออกมาครั้งแรกบนแผ่นดินจีนเมื่อปี 2023 ที่ในงาน Shanghai Auto Show
ด้านงานดีไซน์ของ G6 จะถูกเรียกว่าเป็น “รถในฝันสำหรับคนรุ่นใหม่” มาพร้อมงานออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจากนิยายวิทยาศาสตร์ โดยได้รับความช่วยเหลือการดีไซน์จากทาง Cixin Liu ที่เป็นนักเขียนนิยายทางวิทยาศาสตร์ ที่ได้รับรางวัล Hugo Award จากนิยายทางวิทยาศาสตร์ชุด “ดาวซานถี่ อุบัติการณ์สงครามล้างโลก” (The Three-Body Problem)
ตัวรถจะมาในรูปทรงรถครอสโอเวอร์ตัวถังแบบ 5 ประตู ด้านท้ายลาดเทตามสไตล์รถคูเป้ กระจังหน้าแบบปิด ไฟหน้าแบบ LED ลากเชื่อมทั้งสองฝั่ง พร้อมฝั่งเซ็นเซอร์ LiDAR ไว้ที่บริเวณใกล้ชุดไฟหน้า โดยชุดไฟหน้าจะมาพร้อมกับระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ ปรับระดับได้
ด้านข้างตัวรถดีไซน์ให้ราบเรียบเพื่อลดแรงต้านอากาศ มือเปิดประตูที่ราบเรียบไปกับตัวรถ มาพร้อมประตูแบบไร้ขอบกระจก และกระจกมองข้างปรับไฟฟ้า มาพร้อมระบบตัดแสงอัตโนมัติ ด้านล้ออัลอย 20 นิ้ว แบบ 10 ก้าน รัดด้วยยางของทาง Michelin ขนาด 255/45 R 20
หลังคากระจกแบบ Panoramic Glass Roof (พร้อมฉนวนกันความร้อนและรังสี UV), กระจกหลังพร้อมระบบไล่ฝ้า, ตัวยึดราวหลังคา, ฝาท้ายเปิดปิดด้วยระบบไฟฟ้า ขณะที่หลังคาด้านท้ายออกแบบให้มีความลาดเท เสริมความสปอร์ตด้วยสปอร์ตเลอร์หลังคาด้านท้าย และปีกหลังไฟฟ้าที่ยกขึ้นลงได้
ด้านชุดไฟท้ายมาในแบบ LED ที่วางพาดเต็มพื้นที่ด้านท้าย รวมทั้งยังมากัยกันชนหลังสีดำที่เสริมมาคลุครถในรูปแบบเอสยูวี ด้วยการออกแบบเหล่านี้ส่งผลทำให้ G6 นั้นมีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศเพียง 0.248 cd เท่านั้น
ในด้านขนาดมิติตัวรถของ XPeng G6 จะมีความยาว 4,753 มม. กว้าง 1,920 มม. สูง 1,650 มม. และมีระยะฐานล้อยาว 2,890 มม.
ภายในห้องโดยสารของ G6 จะรองรับได้ 5 ที่นั่ง มาในโทนสีดำ งานออกแบบเน้นความรียบหรู ล้ำสมัย ภายในจะลดการใช้ปุ่มสั่งงานต่าง ๆ โดยในส่วนแผงแดชบอร์ดจะได้รับการติดตั้ง มาตรวัดผู้ขับขี่แบบดิจิทัลขนาด 10.2 นิ้ว ที่วางอยู่ด้านหลังพวงมาลัยหุ้มด้วยวัสดุหนังแบบ Multi-Function ปรับได้ 4 ทิศทาง มาพร้อมระบบอุ่นร้อนที่พวงมาลัย
มาพร้อมหน้าจอสัมผัสกลางขนาด 14.96 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Apple Carplay และ Andriod Auto แบบไร้สาย ขับเคลื่อนด้วยชิป Qualcomm Snapdragon® 8155 มาพร้อมระบบสั่งการด้วยเสียง Hey XPENG, ระบบนำทางอัจฉริยะ App Store และแอปพลิเคชันต่างๆ วิทยุดิจิทัล และ FM, รองรับการอัปเดตแบบ OTA และระบบการเชื่อมต่อมาตรวัดผู้ขับขี่แบบ Wi-Fi / 4G Network
ด้านชุดอุปกรณ์ภายในของ XPeng G6 จะได้รับที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สายจำนวน 2 จุด พร้อมระบบความร้อน, ช่องจ่ายไฟแบบ 12 V จำนวน 2 จุด, ช่องเชื่อมต่อ USB Type-A จำนวน 1 จุด ช่องเชื่อมต่อ USB Type-C จำนวน 3 จุด, ที่บังแดดพร้อมกระจก และไฟแต่งหน้าสำหรับคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า
ระบบเครื่องเสียง XOPERA Surround sound system พร้อมลำโพง 18 ตัว (ลำโพงเฉพาะคนขับ 2 ตัว), ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ 2 โซน, ระบบ XfreeBreath® พร้อมระบบฟอกอากาศอัจฉริยะ และตัวกรองเกสรดอกไม้และฝุ่น PM2.5, ช่องระบบปรับอากาศด้านหลัง ระบบ X-HP3.0 Intelligent Thermal Management System พร้อม Heat Pump
ในส่วนเบาะที่นั่งด้านเบาะที่นั่งหุ้มด้วยหนังสังเคราะห์ โดยฝั่งผู้ขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง พร้อมปรับ Lumbar Support ด้วยไฟฟ้า 4 ทิศทาง เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง พนักพิงเบาะหลังแบบปรับระดับได้ พนักพิงเบาะหลังพับได้แบบ 60/40 โดยเบาะคู่หน้าจะมากับระบบอุ่นร้อน พร้อมมีช่องระบายอากาศ และสามารถบันทึกตำแหน่ง รวมทั้งยังมากับระบบเวลคัมซีท
เบาะด้านหลังมากับระบบอุ่นร้อน, ที่วางแขนที่นั่งแถวหลังพร้อมที่วางแก้ว หมอนรองศีรษะสำหรับที่นั่งกลางแถวหลัง นอกจากนั้นยังมีพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายที่มีขนาดความจุ 571 ลิตร และสามารถขยายความจุได้มากถึง 1,374 ลิตรเมื่อพับเบาะด้านหลังลง รวมทั้งยังได้รับแผ่นปิดที่เก็บสัมภาระด้านท้าย
XPeng G6 จะถูกสร้างขึ้นบนแพลทฟอร์ม SEPA2.0 หรือ Smart Electric Platform Architecture รุ่นที่ 2 มาพร้อมเทคโนโลยีหล่อขึ้นรูปด้วยอลูมิเนียมเพียงชิ้นเดียว ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง พร้อมรวมชุดแบตเตอรีเข้ากับตัวรถเพื่อลดน้ำหนักของรถ
ในด้านพละกำลังขับเคลื่อนของจะมากับมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดี่ยวที่วางอยู่ที่คู่ล้อหลัง โดยจะมีพละกำลังความแรงให้เลือก 2 ระดับ
- รุ่น RWD Standard Range ที่มากับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลัง 190 แรงบิด 440 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 6.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 200 กม./ชม. จับคู่กับแบตเตอรี่ LFP ขนาด 66 kWh ชาร์จไฟเต็มวิ่งไกล 435 กม. (WLTP) รองรับการาร์จไฟแบบ AC ชาร์จไฟเต็มจาก 5 – 100% ในเวลา 7.5 ชม.
- รุ่น RWD Long Range มากับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลัง 210 แรงม้า แรงบิด 440 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 6.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 200 กม.ชม. จับคู่กับแบตเตอรี่ NMC ที่มีขนาดความจุ 87.5 kWh ชาร์จไฟเต็มวิ่งไกล 570 กม. (WLTP) รองรับการาร์จไฟแบบ AC ชาร์จไฟเต็มจาก 5 – 100% ในเวลา 9.5 ชม.
โดยทั้ง 2 รุ่นจะรองรับการชาร์จไฟแบบ DC ที่ให้กำลังไฟ 10% – 80% ในเวลา 20 นาที และยังมากับระบบจ่ายพลังงานไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์ภายนอก V2L ที่จ่ายกระแสไฟฟ้าขนาด 220V
นอกจากนี้ XPeng G6 ยังได้รับการติดตั้งเรดาห์ความละเอียดสูง 5 ตัว, ระบบเซนเซอร์อัลตร้าโซนิค 12 ตัว, ระบบกล้องพร้อมระบบตรวจจับพฤติกรรมการขับขี่ 12 ตัว รอบคัน
ในด้านระบบความปลอดภัย และระบบช่วยเหลือการขับขี่ จะมากับระบบ XPILOT 2.5 (Advanced Driver Assistance System) ที่ประกอบไปด้วย ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน, ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กึงกลางเลน, ระบบควบคุมการเข้าโค้งอัตโนมัติแบบแปรผัน, ระบบเปลี่ยนเลนอัตโนมัติ, ระบบรักษาความเร็วอัตโนมัติตามป้ายสัญญาณจราจร, ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ, ระบบออกจากที่จอดรถอัตโนมัติ, ระบบช่วยจอดพร้อมกล้อง 360 องศา, ระบบจำลองการมองเห็นใต้ท้องรถ, ระบบนำรถออกจากช่องจอดในแนวตรง, ระบบช่วยจอดแบบไร้คนขับ, ระบบตรวจจับพฤติกรรมการขับขี่, ระบบตรวจสอบระยะห่าง, ระบบช่วยเตือนการชนด้านหน้า, ระบบช่วยเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติ, ระบบตรวจสอบสัญญาณจราจร, ไฟสูงอัตโนมัติ, ระบบช่วยแจ้งเตือนมุมอับสายตาล ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการถูกชนประตูขณะเปิด, ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลนล ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน, ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน และช่วยควบคุมรถเมื่อออกนอกเลน, ระบบช่วยเตือนหากเสี่ยงต่อการโดนชนด้านหลัง, ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถที่มุมอับสายตาขณะถอยหลัง
นอกจากนั้นยังได้รับ ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง, ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (ESP), เบรคมือไฟฟ้า พร้อม Auto Hold, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน และระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน, ระบบตรวจวัดและแจ้งเตือนลมยาง TPMS, ระบบแจ้งเตือนการคาดเข็มขัดนิรภัยล ISOFIX และระบบเสียงเตือนคนภายนอกรถ
ระบบช่วงล่างของ G6 ข้างหน้าจะมาในแบบ Double Wishbone Independent Suspension ด้านหลัง Multi-link Independent Suspension โช๊คอัพ Multi-Valve
สำหรับ XPeng G6 ที่จะเปิดวางจำหน่ายในตลาดเมืองไทยจะมีให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีขาว ARCTIC WHITE, สีเทา GRAPHITE GRAY MIDNIGHT, สีดำ MIDNIGHT BLACK, สีบรอนซ์เงิน SILVER FROST และสีส้ม FIERY ORANGE
