ZEEKR แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียมของ Geely ได้เปิดตัว ZEEKR 009 ใหม่ที่ในงาน AsiaWorld Expo บนเกาะฮ่องกง ประเทศจีน โดยในงานนี้ ได้เปิดตัวอย่้างเป็นทางการถึง 3 รุ่น ได้แก่ ZEEKR 009 Grand ที่เป็นแบบ 4 ที่นั่ง, รุ่น ZEEKR 009 แบบ 6 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง พวงมาลัยซ้าย (เวอร์ชั่นขายในจีน) และ ZEEKR 009 แบบ 6 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง สเปคพวงมาลัยขวาที่เป็นแบบ Global Model ที่รองรับภาษาต่างๆ ทั้งภาษาจีนกลาง, อังกฤษ, จีนกวางตุ้ง และภาษาไทย
สำหรับ All-New ZEEKR 009 เวอร์ชันพวงมาลัยขวานั้นถือว่าเป็นการเปิดตัวแบบ World Premier ในด้านงานออกแบบดีไซน์นั้น ยังคงเหมือนกับในรุ่นที่เปิดตัวในปี 2024 ที่ผ่านมา ในสเปคแบบ 6 ที่นั่ง
ด้านหน้าโดดเด่นสะดุดตาด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่สีเดียวกับตัวรถแบบปิดทึบดีไซน์หรูหรา ที่ประกอบไปไฟ LED ที่มาถึง 154 ดวง ซึ่งทาง Geely เรียกการออกแบบนี้ว่า “น้ำพุแห่งแสง”
ชุดไฟหน้าแบบแยกส่วน ด้านบนจะเป็นไฟ DRL ดีไซน์แปลกตารูปแบบตัว U คว่ำ ด้านล่างจะเป็นไฟหน้าที่เชื่อมต่อกับช่องดักอากาศด้านล่าง
ด้านข้างตัวรถมาพร้อมกับซุ้มล้อขนาดใหญ่รับกับล้ออัลลอยขนาดใหญ่ที่ออกแบบลวยลายให้เป็นเส้นแนวตรง รับกับชุดกระจังหน้า ประตูเปิดเข้าห้องโดยสารเป็นแบบบานสไลด์ทั้ง 2 ฝั่ง อีกทั้งยังออกแบบให้เสา A ถึงเสา D ด้านท้ายเป็นสีดำ เพื่อให้หลังคาดูลอยตัว มาพร้อมล้ออัลลอยลายสปอร์ตปัดเงาขนาด 19 นิ้ว รัดยางขนาด 255/50 R19 โดยในเวอร์ฺชั่นที่วางขายในเกาะฮ่องกงจะไม่มี เซนเซอร์ LiDAR บนหลังคารถ
ด้านหลังติดตั้งไฟท้าย LED แบบยาวเต็มความกว้าง ที่มีหลอดไฟมากถึง 402 ดวง และมีตัวอักษร ZEEKR อยู่ตรงกลาง เสริมความสปอร์ตด้วยสปอยเลอร์หลังคาด้านท้าย และเสาอากาศครีบฉลาม
ในด้านขนาดมิติตัวรถจะมีความยาว 5,217 มม. ความกว้าง 2,024 มม. ความสูง 1,812 มม. ระยะฐานล้อ 3,205 มม. ความสูงจากใต้ท้องรถ 142 มม. น้ำหนักรถ 2,830 กก.
ภายในห้องโดยสารของ ZEEKR 009 สเปคพวงมาลัยขวา จะมีให้เลือกทั้งแบบ 6 ที่นั่ง (2+2+2) โดยเบาะนั่งแถวที่สองจะเป็นแบบ VIP Lounge รวมทั้งยังมีหมอนรองขา เมื่อตอนเอนเบาะนอนจะช่วยให้เกิดความสบาย และบรรเทาความเมื่อยล้าจากการเดินทาง อีกทั้งยังติดตั้งหน้าจอสำหรับเบาะนั่งแถวที่ 2 ขนาด 17 นิ้ว ที่มีความละเอียด 3K
ส่วนในรุ่น 7 ที่นั่งจะเป็นแบบ (2+2+3) โดยเบาะนั่งตอนที่ 2 มาในแบบ Sofaro First-Class Airline Seats
โดยทั้งแบบ 6 และ 7 ที่นั่ง เบาะที่นั่งจะถูกหุ้มด้วยหนัง Nappa ส่วนเบาะนั่งแถวที่ 2 จะมาพร้อมสวิตช์ควบคุมบนแผงประตูแบบ Smart Bar ขนาด 3.4 นิ้ว, ตัวเบาะปรับด้วยไฟฟ้า, ระบบระบายอากาศ, ฟังก์ชันนวด และโต๊ะพับสำหรับนั่งทำงาน
นอกจากนั้นยังได้รับ ตู้เย็นขนาด 8.6 ลิตร สามารถควบคุมอุณหภูมิได้ตั้งแต่ -6°C ถึง 50°C, หลังคากระจกพาโนรามาขนาดใหญ่แบบสองตอน, ชุดเครื่องเสียงพร้อมลำโพง Yamaha 30 ตัว และม่านบังแดดไฟฟ้า Dual Panoramic Glassroof
ขณะที่ในส่วนพื้นที่เก็บของด้านท้ายจะมีความจุ 574 ลิตร แต่เมื่อพับเบาะตอนที่ 3 ลงจะขยายพ้นที่ได้มากถึง 2,963 ลิตร มาพร้อมช่องเก็บของด้านหน้าที่มีความจุ 21 ลิตร
ส่วนด้านห้องโดยสารตอนหน้า่แผงแดชบอร์ดจะมากับมาตรวัด LCD ขนาด 10.25 นิ้ว ที่วางอยู่ด้านหลังพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรงสามก้าน มาพร้อมหน้าอินโฟรเทนเมนต์ขนาด 15.05 นิ้ว ขับเคลื่อนด้วยชิป Qualcomm 8295 2 ตัว นอกจากนั้นยังมาพร้อมกับหน้าจอ AR-HUD ขนาด 35.95 นิ้ว ที่แสดงผลไปยังกระจกบังลมหน้า
ด้านชุดอุปกรณ์จะได้รับแท่นชาร์จสมาร์ตโฟนแบบไร้สาย, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบสามโซน มาพร้อมระบบฟอกอากาศที่สามารถขจัดฝุ่นละออง PM2.5, ชุดไฟ Ambient Light และกระจกมองหลังดิจิทัล
ZEEKR 009 สเปกพวงมาลัยขวาที่วางขายในฮ่องกง ซึ่งคาดว่าจะเป็นเวอร์ชันเดียวกับที่จะเข้ามาขายในบ้านเรานั้น จะมากับสถาปัตยกรรมไฟฟ้าแบบ 400V โดยจะได้รับการติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ให้กำลังรวม 603 แรงม้า แรงบิด 693 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม ในเวลา 4.6 วินาที พร้อมทำความเร็วสูงสุดได้้ที่ 190 กม./ชม.
จับคู่กับแบตเตอรี่ Lithium Nickel ternary จาก CATL ขนาด 116 kWh ชาร์จไฟเต็มวิ่งไกล 582 กม. (WLTP) รองรับการชาร์จ DC ขนาด 150 kW ที่ให้กำลังไฟจาก 10 – 80% ในเวลา 30 นาที และรองรับการชาร์จแบบ AC สูงสุด 6 kW มาพร้อมระบบชาร์จพลังงานกลับเข้าสู่แบตเตอรี่ได้ในขณะชะลอตัว Braking Energy Regeneration และรองรับ V2L สามารถจ่ายกระแสไฟให้กับอุปกรณ์ภายนอกได้
ในด้านระบบะความปลอดภัย และระบบช่วยเหลือการาขับขี่จะมากับ ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS อาทิ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน, ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน, ระบบแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า, ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน, ระบบเตือนมุมอับสายตา, ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู,ระบบแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหลัง, ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง, ระบบช่วยเตือนขณะเดินหน้า, ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน, ระบบอ่านป้ายจราจร, ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก และกล้องมองภาพรอบคัน 360 เป็นต้น
ZEEKR 009 รุ่นพวงมาลัยซ้าย (RHD) ที่เปิดตัวบนเกาะฮ่องกงทาง ZEEKR เคาะราคาจำหน่ายไว้ที่ 755,000 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือราว ๆ 3.5 ล้านบาท

ส่วนในสเปคพวงมาลัยซ้ายที่ชายในจีนจะได้รับการอัปเกรดแพลตฟอร์มการชาร์จเป็น 800V โดยจะมีให้เลือก 3 รุ่น เปิดราคาจำหน่ายไว้ระหว่าง 439,000 – 469,000 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 2.18 – 2.33 ล้านบาท
สำหรับในตลาดเมืองไทยนั้นเตรียมพบกับ ZEEKR 009 เวอร์ชันพวงมาลัยขวา ที่คาดว่าจะเป็นสเปคเดียวกันกับที่เปิดตัวในฮ่องกงในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2567 นี้