in ,

ZEEKR 7X ครอสโอเวอร์ไฟฟ้า เปิดตัววางขายในยุโรป เคาะราคาเริ่มที่ 1.89 ล้านบาท

ZEEKR 7X ครอสโอเวอร์เอสยูวีไฟฟ้าจากทางค่าย Geely เปิดตัววางขายในยุโรป มีทั้งแบบมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียว และคู่ ชาร์จไฟวิ่งไกลสุด 615 กม. มีให้เลือก 3 รุ่น เคาะราคาเริ่มที่ 1.89 ล้านบาท

ZEEKR 7X

หลังจากที่ทาง ZEEKR ได้นำ ZEEKR 7X เข้ามาโชว์ตัวจริงในไทยที่งาน Motor Expo 2024 เมื่อปลายเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา พร้อมเผยเตรียมที่จะนำมาวางจำหน่ายในบ้านเราช่วงปี 2568 

ZEEKR 7X

แต่ในขณะที่ฝากฝั่งยุโรปทาง ZEEKR ได้เปิดตัว ZEEKR 7X อย่างเป็นทางการ และพร้อมเปิดให้ผู้ที่สนในได้สั่งซื้อแล้วในตลาดประเทศเนเธอร์แลนด์ / สวีเดน และนอร์เวย์ โดยมีให้เลือกทั้งมอเตอรไฟฟ้าตัวเดี่ยวที่างอยู่คู่ล้อหลัง (RWD) และมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อน 4 ล้อ (4WD) โดยจะแบ่งออกเป็น 3 รุ่นย่อยดังนี้

  • รุ่น Premium RWD Experience ราคา 52,990 ยูโร หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 1.89 ล้านบาท
  • รุ่น Long Range RWD Drive ราคา 55,990 ยูโร หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 2.007 ล้านบาท
  • รุ่น Performance AWD More Performance ราคา 62,990 ยูโร หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 2.25 ล้านบาท

นอกจากนี้ ZEEKR 7X ในตลาดยุโรปจะมาพร้อมการรับประกัน 5 ปีหรือ 100,000 กม. เป็นมาตรฐาน สามารถขยายอายุการใช้งานได้ถึง 10 ปี 200,000 กม. แบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงสูงมาพร้อมการรับประกัน 8 ปี และ 200,000 กม. โดยคาดว่าจะส่งมอบให้ลูกค้ากลุ่มแรกได้ในช่วงฤดูร้อนปี 2025 

ZEEKR 7X

สำหรับ ZEEKR 7X เป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่ต่อมาจาก ZEEKR X, 009, 007 และ 001 รวมทั้ง 001FR ในด้านงานออกแบบของ ZEEKR 7X จะมาในรูปแบบเอสยูวีไฟฟ้าสุดพรีเมียม แบบ 5 ที่นั่ง ที่อัดแน่นไปด้วยฟังก์ชันระบบความปลอดภัยขั้นสุด 

ZEEKR 7X

ในด้านงานดีไซน์ตัวรถของ ZEEKR 7X เวอร์ชันยุโรป ก็จะเหมือนกับรุ่นที่าวงขายในจีน และ ที่นำมาโชว์ตัวในไทย โดยสิ่งที่ขาดหายไปก็จะเป็นในส่วนของ LiDAR ที่ติดตั้งอยู่บยนหลังคาด้านหน้า และ หน้าจอ Zeekr Stargate ที่เป็นแถบชุดไฟที่อยู่ด้านหน้าของตัวรถ ซึ่งสามารถส่งข้อความและรูปภาพไปยังผู้คนนอกรถได้ 

ZEEKR 7X มาพร้อมกับภาษางานออกแบบที่เรียกว่า Hidden Energy Design ของทาง ZEEKR ดีไซน์ภายนอกตัวรถดูล้ำสมัย กระจังหน้ามาในทรงทึบ 

ZEEKR 7X

ด้านข้างมากับความเรียบหรูที่ออกแบบให้สอดรับกับระบบแอร์โร่ไดนามิค มือเปิดประตูแบบราบเรียบไปกับตัวรถ นอกจากนั้นยังมาพร้อมกล้อง ToF 3D พร้อมหน้าจอสัมผัสที่ติตดั้งอยู่บนริเวณเสา B เพื่อทำหน้าที่ปลดล็อคประตู โดยผ่านการสแกนใบหน้า รวมทั้งยังสามารถโต้ตอบกับผู้คนที่อยู่ด้านนอกรถ มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 19 – 21 นิ้ว (ขึ้นอยู่แต่ละรุ่นย่อย) 

ZEEKR 7X

ขณะที่ส่วนด้านท้ายออกแบบไฟท้ายให้เป็นแบบเส้นวางพาดยาว โดยมีกล้องคั้นอยุ่ตรงกลาง ขณะที่ชื่อแบรนด์ ZEEKR ถูกนำไปติดตั้งไว้ตัวกระจกบานหลัง โดยทางผู้ผลิตเคลมว่าจะมีแรงต้านอากาศอยู่ที่เพียง 0.618 cd 

ZEEKR 7X

ในด้านขนาดมิติตัวรถของ 7X สเปคยุโรป จะมีแตกต่างจากเวอร์ชันที่วางขายในจีน โดยจะมีมิติที่เล็กกว่าความยาว 4,787 มม. และสูง 1,650 มม. ฐานล้อยาว 2,900 

ZEEKR 7X

ZEEKR 7X

ภายในห้องโดยสารจะรองรับได้ 5 ที่นั่ง แผงแดชบอร์ดจะมากับงานออกแบบที่เรียบหรู โดดเด่นด้วยหน้าจออินโฟเทนเมนต์ขนาด 16 นิ้ว ที่ขับเคลื่อนด้วยชิป Qualcomm Snapdragon 8295 มาพร้อมแผงหน้าปัด LCD ขนาด 13.5 นิ้ว ที่วางฝังไว้อยู่บนคอนโซลหน้า โดยมีพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรง 3 ก้านวางอยู่ด้านหน้า นอกจากนั้ยังมาพร้อมกับชหน้าจอ HUD ขนาด 36.2 นิ้วที่สะท้อนภาพเสมือนจริงไปยังกระจะบังลมหน้า รวมทั้งยังมาพร้อมกับ Zeekr GPT AI ที่เป็นระบบโต้ตอบด้วยเสียง

ZEEKR 7X

ZEEKR 7X

ZEEKR 7X

ด้านพื้นที่เก็บของ ZEEKR 7X สเปกยุโรปจะมีช่องเก็บสัมภาระด้านหลังความจุ 539 ลิตรและด้านหน้าความจุ 66 ลิตร

ZEEKR 7X

ZEEKR 7X

ZEEKR 7X

ในด้านระบบความปลอดภัย และเทคโนโลยีช่วยเหลือการขับขี่ จะมากับระบบ ADAS โดยจะมาพร้อมกับกล้อง 11 ตัว รอบคันและเรดาร์ 1 ตัว

ZEEKR 7X

ZEEKR 7X ถูกพัฒนาขึ้นบนสถาปัตยกรรม SEA โดยสเปคยุโรปจะมีทั้งแบบมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียว และคู่ โFยแบ่งออกเป็น 3 รุ่น ได้แก่ 

ZEEKR 7X

ZEEKR 7X

ZEEKR 7X

  • รุ่น Premium RWD จะมากับมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวอยู่ที่คู่ล้อหลัง (RWD) ให้กำลัง 416 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 6.0 วินาที ความเร็วสูงสุดจะอยู่ที่ 210 กม./ชม. จับคู่กับ แบตเตอรี่ LFP ขนาด 75 kWh ชาร์จไฟจะให้ระยะทางวิ่งสูงสุด 480 กม. (ตามมาตรฐาน WLTP) มาพร้อมสถาปัตกรรมไฟฟ้า 800V รองรับการชาร์จไฟแบบ DC สูงสุด 480 kW ให้กำลังไฟจาก 10-80% ในเวลา 13 นาที ที่กำลังไฟ 360 kW และรองรับกาาร์จไฟแบบ AC สูงสุด 22 kW ชาร์จไฟเต็มในเวลา 4.5 ชม.
  • รุ่น Long Range RWD จะมีมอเอตร์ไฟฟ้าเหมือนกับในรุ่น Premium RWD แต่จะได้รับการติดตั้งแบตเตอรี่แบบ NMC ที่มีขนาดความจุ 100kWh ชาร์จไฟวืางไกลสุด 615 กม. (ตามมาตรฐาน WLTP) มาพร้อมสถาปัตกรรมไฟฟ้า 800V รองรับการชาร์จไฟแบบ DC สูงสุด 480 kW ให้กำลังไฟจาก 10-80% ในเวลา 16 นาที ที่กำลังไฟ 360 kW และรองรับกาาร์จไฟแบบ AC สูงสุด 22 kW ชาร์จไฟเต็มในเวลา 5.5 ชม.
  • รุ่น Performance AWD จะมากับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD) ให้กำลังรวม 630 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 710 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 3.8 วินาที ความเร็วสูงสุด210 กม./ชม. จับคู่กับแบตเตอรี่ NMC ขนาด 100 kWh ชาร์จไฟวิ่งระยะทางวิ่งสูงสุด  543 กม. (ตามมาตราฐาน WLTP) มาพร้อมสถาปัตกรรมไฟฟ้า 800V รองรับการชาร์จไฟแบบ DC สูงสุด 480 kW ให้กำลังไฟจาก 10-80% ในเวลา 16 นาที ที่กำลังไฟ 360 kW และรองรับกาาร์จไฟแบบ AC สูงสุด 22 kW ชาร์จไฟเต็มในเวลา 5.5 ชม.

โดยทั้ง 3 รุ่น มาพร้อมฟีเจอร์ V2L ที่รองรับการจ่ายไฟภายนอกสูงสุด 3.3 kW

ZEEKR 7X

ขณะที่ในด้านระบบช่วงล่างจะมาพร้อมกับระบบกันสะเทือนแบบถุงลม ที่จะช่วยให้มีให้ระยะห่างจากพื้นถึงตัวรถเพิ่มขึ้นได้ถึง 230 มม. และยังได้รับการติดตั้งคาลิเปอร์เบรสีแดงทั้งด้านหน้า และหลัง 

ZEEKR 7X

ZEEKR 7X

ZEEKR 7X

ZEEKR 7X

ZEEKR 7X ในตลาดยุโรปจะมีเฉดสีตัวรถให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีขาว Cristal White, สีเขียว Forest Green, สีดำ Onyx Black และ สีเทา Tech Grey

ZEEKR 7X

ส่วนในเมืองไทยคาดว่าจะทำตลาดในช่วงปี 2568 ส่วนมีมีรุ่นไหน สเปคไหนบ้างต้องรอลุ้นกัน