ORA 07 กลายเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ทาง GWM ปรับลดราคาจำหน่ายลงหลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ปรับราคาของทั้ง ORA Good Cat / GWM HAVAL H6 และล่าสุดสด ๆ ร้อนอย่าง GWM TANK 300 HEV ที่ปรับลดราคาลงสูงถึง 300,000 บาท
โดยล่าสุดทางเกรทวอลล์มอเตอร์ได้ปรับลดจำหน่ายของเจ้า ORA 07 แมวสปอร์ตไฟฟ้าลงสูดถึง 180,000 บาท ในทุกรุ่นย่อย ส่งผลทำให้รถสปอร์ตไฟฟ้ารของทางค่าย GWM มีราคารุ่นเริ่มต้นอยู่ที่เพียง 1.199 ล้านบาทเท่านั้น
ราคาจำหน่าย GWM ORA 07 ราคาอย่างเป็นทางการ (ระยะเวลาตั้งแต่ 1 ตุลาคม- 31 ตุลาคม 2567)
- ORA 07 Long Range จากราคา 1,299,000 ปรับลดลง 180,000 บาท เหลือ 1,119,000 บาท
- ORA 07 Long Range ULTRA จากราคา 1,399,000 ปรับลดลง 180,000 บาท เหลือ 1,219,000 บาท
- ORA 07 Performance AWD จากราคา 1,499,000 ปรับลดลง 180,000 บาท เหลือ 1,319,000 บาท
นอกจากนี้ยังได้รับประกันคุณภาพตัวรถ และ โปรโมชั่น ดังนี้
- รับประกันคุณภาพตัวรถ Warranty นาน 5 ปี หรือ 150,000 กม.
- รับประกันแบตเตอรี่ High-Voltage นาน 8 ปี หรือ 180,000 กม.
- ฟรี GWM Home Charger ที่ชาร์จ พร้อมค่าติดตั้ง มูลค่า 60,000 บาท
- ฟรี ค่าแรง และ ค่าอะไหล่จำนวน 5 ครั้ง นาน 5 ปี หรือ 75,000 กม.
- ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง นาน 5 ปี
สำหรับ ORA 07 นับเป็นโมเดลที่ 2 ของแบรนด์ ORA ภายใต้เครือ GWM ที่ทำตลาดในประเทศไทย ตัวรถมาในรูปแบบรถสปอร์ตไฟฟ้าสมรรถนะสูง และถือเป็นรุ่น Flagship ของ ORA โดยมีจุดเด่นที่รูปลักษณ์ดีไซน์ที่มีสไตล์โดดเด่น ไม่ซ้ำใคร พร้อมทั้งสมรรถนะการขับขี่แบบสปอร์ตไฟฟ้า 100% และเทคโนโลยีอันล้ำสมัยรอบคัน โดยตัวโครงสร้างตัวรถมาในแบบ Cage-Type Body ที่ใช้วัสดุหลักเป็นเหล็กกล้าทนแรงดึงสูง รองรับแรงกระแทกจากภายนอกได้อย่างดี
ดีไซน์ด้านหน้าใช้การออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ของรถซูเปอร์คาร์เพื่อเพิ่มแรงกด (Downforce) ฝากระโปรงหน้าทรงหยดน้ำที่เว้าลงและนูนขึ้นทั้งสองด้าน เมื่อรวมกับไฟหน้าทรงกลมแบบเรโทรทำให้เกิดเป็นความสปอร์ตอย่างเต็มพิกัด
ไฟหน้า Intelligent LED ทรงกลมดีไซน์โดดเด่น มาพร้อมระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ, ไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ และไฟ Follow Me Home
ดีไซน์ด้านข้างได้รับการออกแบบให้หน้าต่างด้านข้างโค้งสูง มีเส้นโดยรอบทั้งคัน เน้นความหรูหราและความสปอร์ตเร้าใจ มาพร้อมหน้าต่างไร้กรอบที่เป็นกระจกแบบ 2 ชั้น เพื่อช่วยในเรื่องการซับเสียง โดยจะเลื่อนลงเมื่อเปิดประตู และเลื่อนปิดโดยอัตโนมัติเมื่อปิดประตู ในส่วนชุดล้ออัลอยจะมาลวดลาย double spoke ขนาด 18 นิ้ว รัดยางขนาด 235/50 R18 พร้อมติดตั้งคาร์ลิปเปอร์สีแดงไว้ที่คู่ล่้อหน้า
ด้านหลังคาจะเป็นหลังคาแก้วแบบพาโนรามิคขนาดใหญ่ ตั้งแต่ด้านหน้าจรดท้าย ทำให้ภายในห้องโดยสารดูโปร่ง และกว้างขวางขึ้น มาพร้อมคุณสมบัติช่วยลดแสงและความร้อน พร้อมช่วยดูดซับเสียงภายนอกไม่ให้เข้ามารบกวนภายในห้องโดยสารอีกด้วย
ดีไซน์ด้านหลังแบบ Slip-Back ที่จะช่วยลดแรงต้านลม และช่วยเสริมสมรรถนะการขับขี่ ผสานกับรูปทรงด้านหลังที่โค้งมนอย่างลงตัว มาพร้อมไฟท้ายแบบ LED ในทรงวงรี
นอกจากนั้นยังมากับสปอยเลอร์ไฟฟ้าพร้อมฟังก์ชันเปิด-ปิดอัตโนมัติ ที่สามารถตั้งให้เปิดเมื่อปลดล็อกรถ หรือกางขึ้นมาเองที่ความเร็ว 70 กม./ชม. ขณะที่ชุดล้ออัลลอยออกแบบเหมือนรูปร่างของอุ้งเท้าแมวมีขนาด 19 นิ้ว รัดด้วยยางขนาด 235/45
ในด้านมิติขนาดตัวรถมีขนาดความยาว 4,871 มม. ความกว้าง 1,862 มม. ความสูง 1,500 มม. และมีระยะฐานล้อยาวถึง 2,870 มม. ในขณะที่ความสูงใต้ท้องรถ (Ground Clearance) อยู่ที่ 125 มม. ภายใต้น้ำหนักตัวถัง 2,115 กก.
ภายในห้องโดยสารมาในแบบสไตล์ Retro แต่แฝงความหรูหรา และไเพียบพร้อมไปด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอกลางอัจฉริยะแบบสัมผัส ขนาด 12.3 นิ้ว รองรับทั้ง Apple CarPlay, Android Auto, MP5, Bluetooth และระบบนำทาง มาพร้อมหน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบดิจิทัล ขนาด 10.25 นิ้ว และหน้าจอ HUD
สำหรับชุดอุปกรณ์ภา่ยในจะได้รับ เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า พร้อมระบบนวดไฟฟ้า และระบบระบายอากาศ โดยเบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้าได้ 6 ทิศทาง พร้อมระบบดันหลังไฟฟ้า และระบบ Memory Seat รวมถึงระบบ Welcome Seat ส่วนเบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง 
มาพร้อมระบบเครื่องเสียง Infinity พร้อมลำโพง 11 ตำแหน่ง และแอมพลิฟายเออร์อิสระ, ชุดไฟ Ambient Light ที่กระพริบเป็นจังหวะของเสียงเพลง, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมกรองฝุ่น PM2.5 และแท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย Wireless Charger มาพร้อมระบบ Intelligent Quick Start System เพิ่มความสะดวกสบายให้พร้อมออกเดินทางทันทีเมื่อขึ้นมานั่งที่เบาะคนขับ และเหยียบเบรก
ด้านพละกำลังขับเคลื่อนจะมีให้เลือก 2 เวอร์ชั่น ได้แก่
- รุ่น Long Range มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัว ขับเคลื่อนล้อหน้าให้กำลัง 204 แรงม้า แรงบิด 340 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ LFP ขนาดความจุ 83.5 kWh สามารถขับได้ไกล 640 กม. (CLTC)
- รุ่น Performance มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ขับเคลื่อนสี่ล้อ 4WD กำลัง 408 แรงม้า แรงบิด 680 นิวตันเมตร มอบอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 4.3 วินาที แบตเตอรี่ LFP ขนาดความจุ 83.5 kWh สามารถขับได้ไกล 550 กม. (CLTC)
รองรับการชาร์จแบบ AC ขนาด 11 kW ชารืจไฟเต็มในเวลา 7 ชั่วโมง 45 นาที พร้อมรองรับการชาร์จไฟแบ DC รองรับการชาร์จสูงสุด 88 kW ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
โดยทั้ง 2 รุ่น จะมาพร้อมโหมดการขับขี่ให้เลือก 4 โหมดได้แก่ Narmol, Mode, Sport Mode และ Sport+ รวมทั้งยังมากับระบบ V2L ที่สามารถปล่อยกำลังไฟได้สูงสุด 3,300W
ด้านระบบความปลอดภัยจะมาพร้อมระบบความปลอดภัยเวอร์ชั่นล่าสุด พร้อมระบบนำทางอัจฉริยะ ORA Autopilot 3.0 ที่ทำงานร่วมกันระหว่างเซ็นเซอร์รอบคัน 28 จุด และเรดาร์อัลตราโซนิก 12 ตัว
อีกทั้งยังมาพร้อมกับระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบ (IIP) ระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ (ARA) รวมถึงการเพิ่มเซนเซอร์กะระยะหน้าเป็น 6 ตำแหน่ง และเซนเซอร์กะระยะหลังเป็น 6 ตำแหน่ง รวม 12 ตำแหน่ง
นอกจากนี้ยังมีระบบ Intelligent One Pedal เทคโนโลยีคันเร่งอัจฉริยะผู้ขับขี่สามารถเร่งหรือชะลอความเร็วได้เพียงคันเร่งเดียว รวมทั้งยังได้เพิ่มระบบที่ช่วยชะลอความรุนแรงของการชนครั้งที่ 2 โดยเมื่อเกิดเหตุรถจะรักษาเสถียรภาพของตัวรถไว้เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน
ORA 07 จะมีสีภายนอกให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีขาว Jade Ice, สีเทา Tourmaline Gray White และสีม่วง Smoked Amethyst ส่วนภายในห้องโดยสาร มีให้เลือก 2 สี ได้แก่สีดำ Black และ สีน้ำตาล Brown
