in , , ,

รีวิว ORA 07 ไม่ใช่มีดีแค่หน้าตา กับขุมพลังระดับ 408 แรงม้าก็แรงเอาเรื่อง

รีวิว ORA 07 ซีดานสปอร์ตไฟฟ้าในแบบสนามปิด ที่ได้ลองทั้งอัตราเร่ง และเค้นสมรรถนะในแบบเซอร์กิต

Review ORA 07

จัดได้ว่าเป็นธรรมเนียมปฎิบัติไปแล้วสำหรับการเปิดตัวรถของทางค่าย GWM ที่จะมีการให้รีวิวรถกันก่อนล่วงหน้า ก่อนที่จะเปิดราคาจำหน่าย ซึ่งเจ้า ORA 07 หรือชื่อเดิมที่เรียกกันติดปากก่อนหน้านี้ว่า ORA Grand Cat ก็เป็นเช่นนั้น 

Review ORA 07

โดยก่อนทื่จะมีการเปิดราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ที่จะมีขึ้นในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2566 ที่จะถึงนี้ ทางเกรทวอลล์มอเตอร์ ก็ได้เชิญนักข่าว รวมทั้งอินฟลูเอนเซอร์สายยานยนต์ เข้ารวมรีวิว และทดสอบเจ้า ORA 07 รถซีดานรุ่นใหม่ ที่ว่ากันว่าจะมาเป็นแฟลชชิปเรือธงตัวให่ของทางค่าย 

Review ORA 07

สำหรับการทดสอบครั้งนี้ทาง GWM ได้ปิดสนามพีระเซอร์กิต ทดลองสมรรถนะตัวรถของ ORA 07 (โอร่า 07) หรือก่อนหน้านี้มันคือ ORA Grand Cat หรือ ORA Lightning Cat ในตลาดประเทศจีน กันอย่างเต็มที่ โดยจะได้ลองทั้งอัตราเร่ง ในโหมดต่าง ๆ ที่มีมาให้ของเจ้า ORA 07 ทั้งแบบ Narmol Mode, Sport Mode และ  Sport+ รวมถึงให้สัผัสถึง Handling การขับขี่ในรูปแบบเซอร์กิต รวมทั้งระบบช่างล่าง

ซึ่งก่อนที่จะทดลอลลขับเจ้าแมวเหมียวสปอร์ตไฟฟ้าตัวใหม่ หรือที่ทาง GWM จะให้เรียกชื่อใหม่ว่า ORA 07 นั้นเราไปทำความรู้จักเบื้อต้นของสปอร์ตไฟฟ้าคันนี้กันก่อนสักเล็กน้อย

Review ORA 07

ขายในบ้านเรามีให้ 2 ความแรง  

ORA 07 เป็นรถแบบซีดาน 4 ประตู คูเป้ แนวเรโทร จัดอยู่ในกลุ่มตลาด ดี-เซ็กเมนต์ โดยเวอร์ชั่นที่จะเปิดวางจำหน่ายในบ้านเรานั้นจะมีให้เลือก 2 รุ่น ORA 07 มีให้เลือก 2 รุ่นย่อยคือ รุ่น Long Range และ รุ่น Performance

Review ORA 07

เริ่มจากในรุ่น Long Range ที่มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 150 กิโลวัตต์ หรือ 204 แรงม้า แรงบิด 340 นิวตันเมตร วิ่งได้ระยะสูงสุด 640 กม. ตามมาตรฐาน NEDC

Review ORA 07

ส่วนในรุ่น Performance จะมาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าคู่  มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้กำลัง  408 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 680 นิวตันเมตร วิ่งได้ระยะสูงสุด 550 กม. ตามมาตรฐาน NEDC

โดยทั้งสองรุ่น มีความจุแบตเตอรี่ขนาดเท่ากันคือ 83.5 kWh รองรับการชาร์จ AC 11 kWh และ DC 88 kWh

Review ORA 07

หน้าตาจัดอยูในประเภทหล่อ แบบคลาสสิก 

ดีไซน์ด้านหน้า ใช้การออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ของรถซูเปอร์คาร์เพื่อเพิ่มแรงกด (Downforce) ฝากระโปรงหน้าทรงหยดน้ำที่เว้าลงและนูนขึ้นทั้งสองด้าน เมื่อรวมกับไฟหน้าทรงกลมแบบเรโทร

Review ORA 07

ชุดไฟหน้า Intelligent LED ทรงกลมดีไซน์โดดเด่น ให้ความสว่างชัดเจน เพื่อความปลอดภัยในทุกเส้นทางด้วยระบบอัจฉริยะ เช่น ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ และฟังก์ชันหน่วงเวลาไฟส่องทางหลังดับเครื่อง (Follow Me Home) พร้อม Daytime Running Light และไฟตัดหมอก LED

Review ORA 07

ดีไซน์ด้านข้างได้รับการออกแบบให้หน้าต่างด้านข้างโค้งสูง มีเส้นโดยรอบทั้งคัน เน้นความหรูหราและความสปอร์ตเร้าใจ มาพร้อมหน้าต่างไร้กรอบที่เป็นกระจกแบบ 2 ชั้น เพื่อช่วยในเรื่องการซับเสียง โดยจะเลื่อนลงเมื่อเปิดประตู และเลื่อนปิดโดยอัตโนมัติเมื่อปิดประตู เพิ่มความสปอร์ตไปอีกขั้น

Review ORA 07

ขณะที่ล้ออัลลอยจะมีขนาด 19 นิ้ว ถูกออกแบบเหมือนรูปร่างของอุ้งเท้าแมว ทำให้ดูมีเอกลักษณ์ และโดดเด่นไม่เหมือนใคร

หลังคาแก้วแบบพาโนรามิคขนาดใหญ่ ตั้งแต่ด้านหน้าจรดท้าย ทำให้ภายในห้องโดยสารดูโปร่งโล่งสบาย และกว้างขวาง มาพร้อมคุณสมบัติช่วยลดแสงและความร้อน พร้อมช่วยดูดซับเสียงภายนอกไม่ให้เข้ามารบกวนภายในห้องโดยสารอีกด้วย

Review ORA 07

ดีไซน์ด้านหลังถูกออกแบบด้วยดีไซน์ Slip-Back ทำให้ตัวรถดูสปอร์ตขึ้น ด้วยรูปทรงที่ดูเพรียวบางจะช่วยลดแรงต้านลม และช่วยเสริมสมรรถนะการขับขี่ มาพร้อมไฟท้ายแบบ LED ในทรงวงรีที่เสริมความคลาสสิกให้กับตัวรถมากขึ้น 

นอกจากนั้นยังมาพร้อมกับการติดตั้งสปอยเลอร์ไฟฟ้า ที่มาพร้อมฟังก์ชันเปิด-ปิดอัตโนมัติ ที่สามารถตั้งให้เปิดเมื่อปลดล็อกรถ หรือกางขึ้นมาเองที่ความเร็ว 70 กม./ชม.

Review ORA 07

ตัวถังใหญ่ ดีไซน์สปอร์ตตามหลักอากาศพลศาสตร์

ORA 07 มาพร้อมกับมิติตัวถังขนาดใหญ่ โดยมีระยะฐานล้อยาวถึง 2,870 มม. และความยาวตัวรถ 4,871 มม. ความกว้าง 1,862 มม. ความสูง 1,500 มม. ในขณะที่ความสูงใต้ท้องรถ (Ground Clearance) อยู่ที่ 125 มม. ภายใต้น้ำหนักตัวถัง 2,115 กก.

Review ORA 07

ภายในหรูหราเทียบ ชั้นรถหรูระดับไฮเอน  

ORA 07 ได้รับการตกแต่งภายในสไตล์ Retro ย้อนยุค แต่แฝงไปด้วยความหรูหรา และเพียบพร้อมไปด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอกลางอัจฉริยะแบบสัมผัส ขนาด 12.3 นิ้ว รองรับทั้ง Apple CarPlay / Android Auto และระบบนำทาง มาพร้อมหน้าจอแสดงผลข้อมูลแบบดิจิทัล ขนาด 10.25 นิ้ว และหน้าจอ HUD

Review ORA 07

Review ORA 07

เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้ามาพร้อมระบบ ระบายอากาศ ฝั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6  ทิศทาง พร้อมระบบดันหลังไฟฟ้า และระบบ Memory Seat รวมถึงระบบ Welcome Seat ส่วนเบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง

Review ORA 07

Review ORA 07

ด้านชุดอุปกรณ์จัดมาให้เต็ม แบบครบสรรพ ทั้งระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง Infinity 11 ตำแหน่ง, ชุดไฟ Ambient Light ที่สามารถปรับจังหวะตามเสียงเพลง, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมกรองฝุ่น PM2., แท่นชาร์จสมาร์ตโฟนแบบไร้สาย มาพร้อมระบบ Intelligent Quick Start System เพิ่มความสะดวกสบายให้พร้อมออกเดินทางทันทีเมื่อขึ้นมานั่งที่เบาะคนขับ และเหยียบเบรก

Review ORA 07

ระบบความปลอดภัยครบครันตามมาตรฐาน GWM

ORA 07 จะะมาพร้อมระบบความปลอดภัยเวอร์ชั่นล่าสุด โยจะได้รับการติดตั้งระบบนำทางอัจฉริยะ ORA Autopilot 3.0 ที่ทำงานร่วมกันระหว่างเซ็นเซอร์รอบคัน 28 จุด และเรดาร์อัลตราโซนิก 12 ตัว โดยจะมากับ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ, กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา, ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก, ระบบช่วยเตือนและเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง, เซนเซอร์กะระยะทั้วด้านหน้า และหลัง, ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง, ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน, ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน, ระบบช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน, ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน, ระบบช่วยชะลอความรุนแรงของการเกิดการชนซ้ำครั้งที่ 2, ระบบช่วยออกตัวบนทางชัน, ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู และ ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบ

Review ORA 07

เข้าโหมดลองขับจริงในแบเซอร์กิตที่สนามพีระ 

สำหรับในรุ่นที่จะได้ทดลองขับในครั้งนี้ทาง GWM จัดในรุ่นตัวท๊อปไลน์อย่าง รุ่น Performance มาให้ขับกันในสนาม โดยจะได้ทดลองกันคนละ 4 รอบแบบเต็มฟูลของสนาม แต่ไม่ได้ซัดแบบยาว ๆ ตลอดเหมือนกับการแข่งขันจริง 

Review ORA 07

โดยทางเกรทวอลล์มอเตอร์ ได้แบ่งพื้นที่สนามให้เป็นสเตชั่นต่าง ๆ โดยจะให้ได้ลองเรื่องของอัตราเร่ง,  สลาลอม, การขับผ่านทางขรุขระ (โดยใช้เส้นเชือกมาวางที่พื้นแทร็คสนาม), การเข้าเลนเชนจ์ และเข้าโค้งของสนามทั้งแบบกว้าง  ๆ และแคบ เพื่อให้ลอง Handling  

โดยในการขับรอบแรกจะเป็นการวอร์ม ๆ เพื่อดูไลน์การขับขี่ในสนาม ก่อนในรอบถัดไปจะให้ลองขับขี่ตามโหมดที่มีมาให้ของตัวรถ 

Review ORA 07

ลองในโหมด Narmol 

หลังจากที่ได้ทดลองวิ่งดูทางในรอบกันไปแล้ว ในรอบที่ 2 จะเป็นการทดลองขับแบบจริง โดยจะเริ่มจากในโหมด Narmol พอกระทืบคันเร่ง ตัวรถพุ่งทะยานได้ดีตามแบบฉบับรถยนต์ไฟฟ้าที่ไม่ต้องรอรอบ ตัวรถนิ่ง ไม่มีอาการร่อน ส่าย ให้เห็นให้สัมผัส พวงมาลัยจะค่อนข้างเบาไปยิด ช่วงล่างมีความนุ่มนิ่มมากไปหน่อย เมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง มีท้ายปัดหน่อย ๆ 

Review ORA 07

แต่โดยรวมในโหมดนี้จะค่อยข้างที่จะขับง่าย ไปได้เรื่อย ๆ เหมาะกับใช้งานงานประจำวันเรียกว่าถ้าใครเพิ่งหัดขับรถ หรือพอขับรถได้ ก็สามารถขับในโหมดนี้ได้อย่างสบาย  

Review ORA 07

เปลี่ยนโหมดเพิ่มความเร้าในนิด ๆ ด้วยโหมด Sport 

พอเข้ารอบที่ 3 ปรับเปลี่ยนมาลองในโหใมด Sport ส่วนเส้นทางก็ยังเป็น ROUTE หรือเส้นทางเดิม แต่เริ่มออกตัวความแตกต่างก็ชัดเจนกว่ารอบแรก คันเร่งตอบสนองไวมากขึ้น การกระชากออกตัวดูมีความดีดมากกว่ารอบแรก พวงมาลัยมีความหนืด และตึง มือขึ้นแต่ก็ไม่มากมายนัก แต่ก็พอทำให้กระชับในการเข้าโค้ง และสลาล่อมดีขึ้น แต่ในขณะที่ระบบช่วงล่าง ก็ยังมีความยุบตัว และย้วนเมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็งวสูงไม่ตางจากรอบที่ผ่านมา แต่ได้อรรถรสเพิ่มเติมตรงที่ได้ยินเสียงของมอเตอร์ไฟ้าที่ดีงขึ้น ดั่งได้อารมณ์ของรถเครื่องยนต์สันดาป

Review ORA 07

ลองของแรงกับโหมด Sport+ และอัตราเร่งที่ไม่น้อยหน้าคู่แข่ง 

โดยในรอบสุดท้ายได้ปรับมาใช้ โหมด Sport+ โดยเป็นการกดปุ่ม Sport+ ที่พวงมาลัย โดยเพียงแค่กดปุ่มสิ่งแรกี่รับรู้ก็คือเสียงคำรามที่เป็นเหมือนเสียงสังเคราะห์ของตัะวรถคำรามออกมา เสมือนกับว่าเรากำลังควบอยู่บนรถแข่งเครื่องยนต์สัดาปตัแรงอยู่ในสนาม

Review ORA 07

ซึ่งในรอบนี้ตอนออกสตาร์ทจะลองทดสอบอัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ด้วย ซึ่งจากการทดลองในด้านอัตราเร่งการออกตัวนั้นถือว่าทำได้ดีไม่แพ้คู่แข่งที่เปิดตัวออกมาก่อนล่วงหน้า จากตัวเลขที่ทดลองผมได้ทดลองขับนั้นในโหมด Sport+ อัตราเร่งจาก  0 – 100 กม./ชม. จะป่วนเปี่ยนอยู่ที่ 4.7 วินาที ซึ่งตัวเลขจากโรงงานที่เคลมไว้จะอยู่ที่ 4.3 วินาที ซึ่งอาจดูมากกว่าคู่แข่งแต่ก็เพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น ซึ่งก็ไม่มากมายนัก 

รวมทั้งถ้านำมาขับขี่ในชีวิตจริง การขับขี่ในอัตราเร่งขนาดนั้นก็ไม่ได้ถูกนำมาใช้งานจริงมากมายแต่อย่างใด ซึ่งแค่นี้ก็ถือว่าจัดจ้าน พอตัวอยู่แล้ว .

Review ORA 07

ซึ่งหลังจากทดลองในอัตราเร่งแล้ว การขับขี้ก็ยังคงใช้เง้นทางเดิมเหมือนทุกรอบที่ผ่านมา แต่อารมร์ และความรู้สึกแตกต่างจากที่ผ่าน ๆ มาอย่างสิ้นเชิง ตัวรถจะเรียกแรงม้ามาทั้งหมด ออกมาทั้งหมดแบบเต็มระบบ ตัวรถพุ่งทยานดั่งจตัวกระชากเข้าเบาะ โดยจากระยะอกตัวจนไปถึงจุดชลอเบรกจะอยุ่ที่ราว 140 กม./ชม. นอกจากนั้นพวงมาลัยยังทำการปรับน้ำหนักขึ้นอย่างรู้สึกได้ ช่วยให้คุมรถได้ง่ายทั้งเข้าโค้ง รวมทั้งในช่สงการปรับเปลี่ยนเลนในย่านความเร็วสูง 

Review ORA 07

สรุปการขับขี่แบบสั้น ๆ ใน 4 รอบสนาม

อย่างแรกที่ประทับใจก็คือพละกำลัง 408 แรงม้า กับแรงบิด 680 นิวตันเมตร ของ ORA 07 บนน้ำหนักตัวกว่า 2 ตัน ถือว่าสอบผ่าน ตัวรถพร้อมพุ่งทยานทำให้หลังกระชากติดเบาะได้ทันที เมื่อเหยียบคันเร่งโดยเฉพาะในโหมด Sport+ 

Review ORA 07

ระบบช่วงล่างอาจจะนุ่มไปนิด เมื่อเทียบกับสมรรถนะของตัวรถที่มีมาให้มากถึง 408 แรงม้า ท้ายรถอาจจะมีปัดเล็กน้อยเมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง ๆ แต่ถ้านำมาใช้งานบนถนนจริงตามชีวิตประจำวัน ก็สามารถใช้งานได้อย่างสบาย เพราะคาดว่าเราคงไม่ได้ขับด้วยความเร็วสุงตลอดเวลา 

Review ORA 07

ขณะที่ในด้านยรูปลักษณ์หน้าตานั้นสำหรับตัวผมบอกว่าหล่อ ดูดีมีคลาส ภายในหรูหรา Luxury แบบสุดๆ ที่สำคัญ ยกออปชั่นสิ่งอำนวยความสะดวกมาไว้ให้อย่างจุใจ เรียกว่าอยากได้อะไรบนรถยนต์ไฟฟ้า เจ้า ORA 07 ผมคิดว่ามีมาให้เกือบทั้งหมด 

Review ORA 07

สรุปโดยรวมถ้าถามว่า ORA 07 ขับแล้วดีมั้ยถ้าตอบแบบขับในสนามพีระฯ แบบ 4 รอบ กับระยะรวมราว ๆ 10 กม. ต้องบอกว่าเป็นรถไม่ใช่มีดีแค่หน้าตาเท่านั้น ยังมาพร้อมสมรรถนะขุมพลังไฟฟ้าที่แรงเอาเรื่อง ไม่แพ้คู่แข่ง รวมทั้งยังเป็รถที่ขับสนุก ระบบช่วงล่างถ้าแบบใช้งานในชีวิตประจำวันก็เอาอยู่สบาย ๆ นุ่มนวล ไม่แข็งกระด้าง แต่อาจไม่ถูกจริตสายซิ่ง ด้านออปชั่นระบบความปลอดภัยเรียกว่าจัดเต็มตามแบบฉบับของรถยนต์จากเมืองจีน  เรียกได้ว่าเป็นรถสปอร์ตไฟฟ้อีกรุ่นทีสามารถใช้งานได้ทั้งครอบครัว

Review ORA 07

แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็ต้องรอดูที่สนนราคาค่าตัวว่าทาง GWM จะเปิดหน้าสู่คู่แข่งได้มั้ย โดยคาดว่าน่าจะเปิดราคาเริ่มต้นที่ราว ๆ 1.3xx ล้านบาท เพื่อให้สามารถแข่งขันกับคู่แข่งในตลาดได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ

Review ORA 07

นี่เป็นเพียงราคาคาดการณ์หลังจากที่ได้ไปลองขับมาเท่านั้น ซึ่งเป็นความเห็นส่วนตัวของทีมงาน Autostation.com ส่วนราคาจริงนั้นจะเปิดตัวมาเท่าไหร่ช่วงปลายเดือน พ.ย. นี้ คงได้รู้กันอย่างแน่นอน  ซึ่งถ้าราคาดีก็เตรียมใบจองไว้เยอะ ๆ หน่อยก็แล้วกัน