in ,

รีวิว Bajaj Dominar 400 สูบเดี่ยว เครื่องแรง ช่วงล่างดี แต่ยังมีปัญหาน่า ‘หนัก’ ใจอยู่บ้าง

หลังจาก Vroom เปิดตัวพร้อมการเป็นตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ 3 แบรนด์ มาวันนี้รถล็อตแรกที่มี Bajaj Dominar 400 รวมอยู่ด้วยก็แลนด์ดิ้งเมืองไทยแล้ว

เครื่องยนต์

เครื่องยนต์แบบสูบเดี่ยว ระบายความร้อนด้วยน้ำ 373.3 ซีซี DOHC เทคโนโลยี 3 หัวเทียน ให้พละกำลัง 40 แรงม้า(PS) ที่ 8,800 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 35 นิวตันเมตร ที่ 6,500 รอบต่อนาที ระบบเกียร์ 6 สปีด คลัทช์เปียกแบบหลายแผ่นซ้อนกัน มี Assist & Sliper Clutch

ดีไซน์

– โคมไฟหน้า LED พร้อมไฟหรี่ LED
– ไฟท้าย LED
– ไฟเลี้ยว LED
– ประกับแฮนด์เรืองแสง
– เรือนไมล์ดิจิตอล LCD
บอกข้อมูลความเร็ว/วัดรอบ/อัตราสิ้นเปลือง/ระดับน้ำมัน
– เรือนไมล์ที่สองบนถังน้ำมันแบบดิจิตอล LCD
บอกข้อมูลเวลา/ตำแหน่งเกียร์/ระยะทริป
– แฮนด์บาร์แบบคลิปออน
– เบาะนั่งแบบสองตอนเล่นระดับสไตล์สปอร์ตพร้อมมือจับกันตกผู้โดยสาร
– ท่อไอเสียออกคู่ด้านข้างของตัวรถ
– ติดตั้งกัมล้มแบบท่อเหล็กจากโรงงาน
– วงล้อขนาด 17 นิ้วแบบทูโทน

หน้าตาของ Bajaj Dominar 400 ถือว่าแปลกตา แปลกทรงไปจากที่ชาวไทยนิยมอยู่มาก ยังดีที่ตัวขายในไทยนั้นให้โช้คหน้าหัวกลับมาแล้ว ไม่งั้นก็มีคนบ่นและมองบนอยู่แน่ๆ เรือนไมล์ที่อยู่บนถังคืออีหยังวะ มองตาและอันตรายมากเวลาขี่ใช้งานจริงแล้วอยากดูนาฬิกาหรือว่าระยะเดินทางเท่าไรแล้ว

แชสซี

– เฟรมแบบ Perimeter
– โช้คหน้าแบบหัวกลับขนาด 43 มม. ระยะยุบ 135 มม.
– โช้คหลังเดี่ยวทำงานร่วมกับกระบอก Nitrox ระยะยุบ 110 มม.ปรับค่าสปริงพรีโหลดได้
– น้ำหนักรถ 187 กก.
– ถังน้ำมันครอบถังพลาสติกด้านนอกขนาด 13 ลิตร

ถึงกระบอก Nitrox จะดูหน้าตาโหลยโท่ย แต่ก็มีการปรับสปริงพรีโหลดเข้ามาแก้ และที่สำคัญคือระบบกันสะเทือนของ Bajaj Dominar 400 ถือว่าดีในระดับหัวแถวของรถคลาสนี้เลยทีเดียว เฟิร์ม นุ่ม กระชับ เหมาะกับการเดินทาง

ระบบเบรกและยาง

– ดิสก์เบรกเดี่ยวด้านหน้าขนาด 320 มม.
– ดิสก์เบรกเดี่ยวด้านหลังขนาด 230 มม.
– คาลิเปอร์เบรก ByBre
– ระบบเบรก ABS Dual-Channel
– ยางติดรถ Michelin Road 5
– ยางหน้าเรเดียลขนาด 110/70-17
– ยางหลังเรเดียลขนาด 150/60-17

ยางที่รถที่ให้มานั้นถือว่าเกินคาดเพราะให้ยางในเกรดที่ดีกว่าหลายๆ รุ่นในตลาด และยังให้ยางหลังไซส์ใหญ่ถึง 150 แต่อาจด้วยความเป็นรถใหม่ รู้สึกว่าเบรก ByBre นั้นดูจะเอาไว้อยู่เท่าไรนัก เวลาเบรกฉุกเฉินต้องเผื่อเยอะ เล่นเอาเหวอเหมือนกัน

Review: Bajaj Dominar 400

Bajaj Dominar 400 มีท่านั่งที่ออกครึ่งๆ กลางๆ แฮนด์บาร์คลิปออนทำให้ช่วงบนนั่งตรง สบายแบบรถเดินทาง แต่ตำแหน่งพักเท้ากันให้ฟีลแบบเน็กเก็ตสปอร์ต ท่านั่งโดยรวมดูจะครึ่งๆ กลางๆ แต่ที่น่าหงุดหงิดสุดคือตำแหน่งเกาะถังที่เข่าจะกดถังยากเพราะจุดที่โดนถังจะเป็นหน้าขาด้านใน

สุ่มเสียงที่ออกมาจากท่อคู่ออกปลายนั้นทำให้บางครั้งก็รู้สึกเหมือนเครื่องสองสูบ 270 องศาอยู่เหมือนกัน โดยเครื่องยนต์ใน Dominar 400 นั้นเป็นส่วนร่วมอยู่ KTM 390 Duke หรือ RC390 อยู่และยังให้ฟีลลิ่งการตอบสนองที่คล้ายกัน แต่ก็ไม่ได้เหมือนกันซะทีเดียว

เครื่องยนต์มีการตอบสนองที่ดี ทำความเร็วเดินทางที่ 130-140 กม./ชม. นั้นยังเหลือพละกำลังในการแซงได้สบาย และยังกดความเร็วสูงสุดได้ถึงราว 170 – 172 กม./ชม. โดยที่ไม่มีอาการหน้าลอย หน้าสั่น หน้าสะบัด

แต่หน้าที่นิ่งในการทำความเร็วและให้ความมั่นใจในการเดินทางนั้น กลับมีปัญหาที่ความเร็วต่ำ ด้วยศูนย์ถ่วงที่หนักมาด้านหน้า ทำให้ทั้งหน้าและคอทั้งหนัก แข็ง การบังคับเลี้ยวที่ความเร็วต่ำ การมุดฝ่าการจราจรเป็นปัญหา

ระบบเบรกเองก็ให้ฟีลลิ่งที่ไม่มั่นใจเท่าไรเพราะหากบีบอ่อนๆ ก็จะไร้เรี่ยวแรงในการเบรก และต้องเบรกหนักจนหัวทิ่มพุ่งมาด้านหน้าถึงจะมีกำลังในการเบรก ไม่มีตรงกลางที่เหมาะสม และยิ่งน้ำหนักรถมาด้านหน้าอยู่แล้ว เวลาเบรกหนักๆ เลยรู้สึกอันตราย และเวลาเบรกฉุกเฉินต้องใช้ระยะเบรกพอสมควร เดากันว่าอาจเพราะเป็นรถใหม่ ผ้าเบรกจานเบรกเลยยังทำงานได้ไม่เต็มที่ แต่ลองหารีวิวเมืองนอกดู ก็มีคนบ่นเรื่องนี้เหมือนกันนะ

ส่วนที่เซอร์ไพรส์นักทดสอบในทริปทุกคนคือระบบช่วงล่างที่ยอดเยี่ยม จนหลายคนยกให้ติดระดับท็อปของคลาส โช้คหน้าหัวกลับ 43 มม. โช้คหลัง+Nitrox เฟริ์ม นุ่ม แน่น มั่นใจ ไม่ว่าจะเจอหลุม เนิน คอสะพาน เก็บถนนห่วยๆ ที่นายกฯ จะบอกว่าดีสุดในโลกได้แบบเกินคาด

จุดด้อยเรื่องหน้าหนัก ทำให้เรารู้สึกว่า Bajaj Dominar 400 ดูจะเหมาะกับการเดินทางมากที่สุดและต้องเป็นทางที่โค้งไม่เยอะไม่หนักด้วยถึงจะดี เพราะการพับเลี้ยวก็ต้องใส่แรงกดเยอะน่าดูเหมือนกัน ถ้าเจอทางตรงๆ เนี่ยซัดตึงได้เลย เครื่องยนต์สูบเดี่ยว 400 ซีซี เดินทางได้สบายๆ ไม่เหนื่อย แต่จะมีเมื่อยก้นบ้างเพราะเบาะจัดว่าแข็ง แค่ 40-50 กม. ก็รู้สึกเจ็บก้นแล้ว

ราคาจำหน่าย Bajaj Dominar 400 อยู่ที่ 1.15 แสนบาท
*ราคาโปรโมชั่น ราคาเต็มคาดว่าไม่เกิน 1.2 แสนบาท

ขอขอบคุณ บริษัท วรูม จํากัด
ผู้เขียน:Ken [Warodom C.]

กลับหน้าหลัก Autostation.com