ต่อเนื่องจากครั้งที่แล้ว ทีมงาน Autostation.com เราได้มีโอกาสไปทดสอบขับขี่ตระกูล CBR Series ทั้ง 2 รุ่นใหม่ในสนามมาแล้ว วันนี้เราจะมาพูดถึงอีก 2 โมเดลใหม่ ที่ได้รับการปรับโฉมครั้งยิ่งใหญ่ พร้อมทั้งเปลี่ยนชื่อรุ่น และสไตล์ของตัวรถใหม่ ให้สอดรับกับคาแร็คเตอร์ และตรงตามความต้องการในไลฟ์สไตล์การขับขี่ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
โดย All-New Honda NX500 นั้น ถือเป็นโมเดลใหม่ ที่เข้ามาทำตลาดแทนที่ Honda CB500X เดิม ส่วน All-New Honda CB500 Hornet นั้น ก็เป็นรุ่นที่เข้ามาแทนที่ Honda CB500F นั่นเอง แต่ก็อย่างที่บอก ทั้ง 2 โมเดลนั้น ได้รับการปรับโฉมครั้งยิ่งใหญ่ ไม่ใช่แค่เปลี่ยนชื่อ ส่วนจะมีรายละเอียดสำคัญๆ ในจุดในบ้าง ไปติดตามกันได้เลย
All-New Honda NX500 ปรับสไตล์เป็นสายลุยเต็มตัว
มาเริ่มกันที่ Honda NX500 2024 กันก่อน แค่เพียงเห็นทรงรถครั้งแรก ก็รับรู้ได้ทันทีว่า Honda ตั้งใจปรับสไตล์ของ Sport Touring ไซส์ 500cc. คันนี้ ไปเป็นสายลุยแบบ Adventure ตามรอยรุ่นพี่อย่าง Honda Africa Twin มากยิ่งขึ้น
โดยมีการปรับในส่วนของชุดแฟริ่งใหม่รอบคัน ชุดแฟริ่งด้านหน้ามาในสไตล์ใหม่ พร้อมระยะยุบตัวของโช้คอัพหน้าที่สูงขึ้น ไฟหน้า – ไฟท้าย Full LED ดีไซน์ใหม่ หน้าจอดิจิตอลแบบสี TFT 5″ พร้อมระบบ Honda Roadsync และระบบ HSTC (Honda Selectable Torque Control) มีมาให้ครบ อีกทั้งในส่วนของล้อแม็กยังได้มีการปรับลวดลายใหม่ และมีน้ำหนักที่เบาลงกว่ารุ่นก่อนถึง 3 กก. ซึ่งจะส่งผลต่อสมรรถนะการขับขี่ในทางลุยที่ดีขึ้นแน่นอน
ปิดท้ายด้วยระบบช่วงล่างที่อัปเกรดใหม่ ด้านหน้าแบบ Upside Down ขนาดแกน 41 มม. ของ SHOWA ทำงานแยกอิสระ 2 ฝั่ง ส่วนด้านหลังเป็นแบบ Mono Shock ปรับพรีโหลดได้ 5 ระดับ พร้อมกระเดื่องซับแรงกระแทก Pro-Link ที่สวิงอาร์ม
All-New Honda CB500 Hornet สไตล์ใหม่แบบ Street Fighter เต็มตัว
ส่วน Honda CB500 Hornet 2024 นั้น ก็เดินตามรอยรุ่นพี่อย่าง Honda CB750 Hornet ที่เปิดตัวออกมาก่อนหน้านี้ โดยปรับสไตล์ และทรงรถที่ดูเป็น Naked Bike แบบ Street Fighter มากยิ่งขึ้น
ชุดแฟริ่งใหม่รอบคัน ที่มาในสไตล์แข็งแกร่ง ดุดัน ระบบไฟหน้า – ไฟท้าย Full LED หน้าจอดิจิตอลแบบสี TFT 5″ พร้อมระบบ Honda Roadsync และระบบ HSTC (Honda Selectable Torque Control) ใส่มาให้ครบเหมือนกัน
2 สูบเรียงเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือจูนกล่อง ECU ใหม่
ในส่วนของขุมพลัง ตรงนี้คงไม่ต้องพูดกันมาก เป็นเครื่องยนต์บล็อคเดิม 2 สูบเรียง 471cc. แต่ได้รับการปรับจูนในส่วนของกล่อง ECU ใหม่ ให้สามารถเรียกแรงม้า และแรงบิดได้ไวขึ้น ผสานกับการสั่งการของระบบ HSTC ที่เพิ่มขึ้นมาใหม่ โดยมอบแรงม้าสูงสุด 47 แรงม้า แรงบิด 43 นิวตัน-เมตร และยังคงมาพร้อมกับระบบ Assist & Slipper Clutch ให้อยู่เหมือนเดิม
สไตล์ใหม่ แถมขี่ดีขึ้นกว่าเดิม
ในเรื่องของอัตราเร่ง ก็ต้องยอมรับตามตรงว่าไม่ได้รู้สึกต่างไปจากโฉมเดิมมากนัก ทั้งคู่ก็ยังเป็น Middle Class 500cc. ที่ขี่สนุก อัตราเร่งจี๊ดจ๊าดอยู่เหมือนเดิม
แต่สิ่งที่สัมผัสได้เลยก็คือในเรื่องของ Handling และการทรงตัวของรถ ซึ่งมีการควบคุมที่ง่ายขึ้นมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตัว Honda NX500 2024 ที่ครั้งนี้ดูเหมือนจะนั่งขี่ได้สบายขึ้นกว่าเดิม แถมการยืนขี่ในเส้นทาง Offroad ก็ทำได้อย่างไม่เคอะเขิลเหมือนแต่ก่อน แฮนด์บาร์ องศาของรถ และความสูงของเบาะนั่ง ปรับสไตล์มาเป็น Adventure ชัดเจน ขี่ทางเรียบก็สบาย ขี่ทางลุยก็สนุกเลยคราวนี้
อีกทั้งในส่วนของน้ำหนักล้อแม็กที่เบารถ ประกอบกับองศาด้านหน้าที่สูงขึ้น ทำให้การควบคุม การเทรถทั้งในทางเรียบ และทางฝุ่น ทำได้ง่ายขึ้น องศาการเลี้ยวกลับรถทางดินในพื้นที่แคบๆ ทำได้คล่องตัวขึ้นเยอะ
ส่วนทางเรียบ ทั้ง NX500 ใหม่ และ CB500 Hornet ใหม่ ก็มีความนิ่งที่มากขึ้นเมื่อขี่ด้วยความเร็วสูง ซึ่งคงเป็นผลพวงมาจากการออกแบบชุดแฟริ่งใหม่ ที่ได้ Aerodynamic และสร้างแรงกด Downforce ที่ดีขึ้น
ไฮไลท์สุดท้าย ก็คือ การได้มาซึ่งระบบ HSTC (Honda Selectable Torque Control) และ Honda Roadsync ซึ่งจุดนี้ถือว่าคลาส 500cc. ของ Honda มีของเล่นที่เหนือชั้นยิ่งขึ้น โดยตัว Honda Roadsync สามารถที่จะสั่งการด้วยเสียงได้ แถมยังสามารถอ่านข้อความ ฟังเพลง รับสายโทรศัพท์ และแสดงแผนที่ผ่าน Google Map ได้แบบ Turn by Turn ซึ่งจะแสดงเส้นทางบนหน้าจอ TFT 5″ ตัวใหม่
ส่วนระบบ HSTC คงไม่ต้องให้อธิบายอะไรกันมาก มีมาตั้งนานแล้วตั้งแต่ในตัว Honda Forza 300 ซึ่งใน 2 รุ่นใหม่นี้ ลักษณะการทำงานก็คล้ายกัน และสามารถที่จะเปิด-ปิดระบบนี้ได้ ซึ่งจะเห็นผลชัดเจนในรุ่น NX500 ใหม่ ที่เอาไปขี่ในทาง Offroad พอปิดปุ๊บ ตัวรถสไลด์เข้าโค้งได้สนุกจริงๆ
บทสรุป
โดยภาพรวม ต้องบอกว่า Honda ได้ยกระดับหนีคู่แข่งขึ้นไปอีกขั้น แม้ว่าทุกรุ่นจะใช้แชสซีส์เดิม เครื่องยนต์เดิมก็ตาม แต่การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ ก็ส่งผลถึงสมรรถนะการขับขี่ที่ดีขึ้น และมีฟีเจอร์ที่ล้ำสมัยมากขึ้น ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนชื่อรุ่น หรือเปลี่ยนลวดลายสติ๊กเกอร์ใหม่อย่างที่หลายๆ คนอาจจะเข้าใจผิด
แต่ส่วนตัวแล้ว มองว่าใน 2 รุ่นนี้ All-New Honda NX500 น่าจะเป็นรุ่นที่ได้รับความสนใจมากกว่า เพราะมีความอเนกประสงค์ ขับขี่ได้หลากหลายเส้นทางกว่า และสมรรถนะการขับขี่ดีขึ้นกว่า Honda CB500X อย่างเห็นได้ชัด แต่ถ้าใครอยากขี่เท่ๆ เน้นใช้งานในเมืองแบบคล่องตัว All-New Honda CB500 Hornet ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่แพ้กัน
New Honda NX500 มีวางจำหน่ายทั้งหมด 3 สีใหม่ ราคาแนะนำที่ 227,900 บาท
- สีแดง GRAND PRIX RED
- สีดำ MAT GUNPOWDER BLACK METALLIC
- สีขาว PEARL HORIZON WHITE
New Honda CB500Hornet มีวางจำหน่ายทั้งหมด 3 สีใหม่ ราคาแนะนำที่ 217,700 บาท
- สีแดง GRAND PRIX RED
- สีดำ MAT GUNPOWDER BLACK METALLIC
- สีขาว PEARL HIMALAYAS WHITE
