มีไม่บ่อยครั้งที่ทีมงาน Autostation.com จะถูกเชิญให้ไปทดสอบ และเข้าร่วมกิจกรรมที่ต้องขี่รถในเวลากลางคืน แต่ครั้งนี้ทาง Royal Enfield เขาเน้นย้ำว่าผมต้องมา เพื่อให้ได้เข้าถึงวิถีของ Café Racer และรถที่ใช้ขี่ในทริปนี้ก็จะเป็น Royal Enfield Interceptor 650 ซึ่งเป็นการฉลองยอดขายของรถรุ่นนี้ด้วย
ชื่ออย่างเป็นทางการของกิจกรรมนี้ก็คือ Interceptor Evening Ride ซึ่งชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าต้องขี่ตอนมืด แต่ทำไมต้องเป็นอย่างนั้น มันมีที่มาที่ไปยังไงกันแน่ วันนี้เลยไปหาข้อมูลมาจึงได้กระจ่างแจ้ง และอยากจะนำมาเผยแพร่ให้เพื่อนๆ ได้รู้ไปด้วย
จุดเริ่มต้นมันก็ย้อนไปช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จบลงใหม่ๆ ในช่วงนั้นกลุ่มวัยรุ่นอังกฤษก็มักจะไปรวมตัวกันที่ Cafe’ แม้ว่าบ้านเราจะเข้าใจกันว่ามันเป็นร้านกาแฟ แต่ถ้าในอังกฤษ คำว่า “Cafe’” จะหมายถึง บาร์ หรือสถานบันเทิง และแน่นอนว่าเมื่อรวมตัวกันมาก และมีแอลกอฮอร์อยู่ในสายเลือด ก็ต้องเกิดการท้าทาย และประลองฝีมือกันหน่อย และสิ่งที่นิยมมาประลองกันก็คือการแข่งขันความเร็ว
ในยุคนั้นเป็นยุคที่เหล่าวัยรุ่นนิยมใช้รถมอเตอร์ไซค์เป็นอย่างมาก ซึ่งแบรนด์หลักๆ ก็จะหนีไม่พ้น Royal Enfield, Triumph และ Norton ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นรถมอเตอร์ไซค์สัญชาติอังกฤษ
ซึ่งการประลองความเร็วครั้งนี้ จะมีหลากหลายวิธี และกติกาก็จะแตกต่างกันออกไป แล้วแต่ว่ากลุ่มไหนจะกำหนดขึ้น แต่วิธีที่นิยมที่สุด คือการแข่งขี่รถจากอีก Cafe’ หนึ่งไปยังอีก Cafe’ หนึ่ง หรือจะเป็นการเปิดเพลงในตู้เพลง และให้นักแข่งขี่ไป-กลับ ก่อนที่จะจบเพลง ซึ่งใครชนะจะได้รับการยอมรับจากในกลุ่มทันที และจะเป็นที่จดจำของ Cafe’ นั้นๆ และนั่นก็คือที่มาของคำว่า Café Racer นั่นเอง
ภายหลังต่อมาคำว่า “Café Racer” ก็เริ่มเพี้ยนจนกลายมาเป็นสไตล์การแต่งรถ และกลายมาเป็นคำนิยามในสไตล์ของรถมอเตอร์ไซค์ในปัจจุบัน ซึ่งแน่นอนว่า Royal Enfield Interceptor 650 ก็จัดเป็นหนึ่งในรถมอเตอร์ไซค์สไตล์นี้ และการเดินทางในทริปนี้จึงเป็นการท่องราตรีเข้าใจหรือยัง?
ส่วนรายละเอียดของตัวรถถ้าใครอยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถย้อนกลับไปอ่านได้ที่
[Review] Royal Enfield Interceptor INT 650 หลังตรง นั่งสบาย เครื่องยนต์ดีจนพี่เซอร์ไพรส์