Motor Expo 2023 สรุปยอดจองรถยนต์ 53,248 คัน จักรยานยนต์ 7,373 คัน รถยนต์ไฟฟ้ามาแรง ผู้ชมงาน 1.5 ล้านคน และมีผู้ชมงานผ่าน Online Platform มากถึง 1.09 ล้านครั้ง ราคาเฉลี่ยของรถที่ขายได้ในงาน 1,323,962 บาท รถจักรยานยนต์เฉลี่ย 198,488 บาท เงินหมุนเวียนในงานราว 7.2 หมื่นล้านบาท โดย Toyota ยังครองความยิ่งใหญ่มาเป็นอันดับ 1 สำหรับยอดจองซื้อรถภายในงานปีนี้
คุณขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานจัดงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 40” เปิดเผยว่า “ปีนี้เป็นงานฉลองครบรอบ 40 ปี ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทั้ง ผู้อุปถัมภ์ ผู้สนับสนุน ค่ายรถยนต์ รถจักรยานยนต์ อุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง ธุรกิจเรือ อากาศยาน ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน รวมถึงผู้เข้าชมงานที่เมืองทองธานี และออนไลน์ จำนวนมหาศาล”
สำหรับยอดจองรถในงาน แบ่งเป็นรถยนต์ 53,248 คัน จักรยานยนต์ 7,373 คัน และจากข้อมูลผู้ร่วมกิจกรรม “ซื้อรถ…ชิงรถ” พบว่า มีผู้ร่วมกิจกรรมสูงขึ้นกว่าปีที่แล้ว 22.4% โดยเป็นรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป 61.6% และเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 38.4% รถยนต์ที่ผู้ซื้อเข้าร่วมกิจกรรมสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ HONDA, TOYOTA, CHANGAN ส่วนรถรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) ที่มียอดจองสูงสุด ได้แก่ CHANGAN, BYD, AION
ประเภทรถที่ได้รับความสนใจสูงสุด รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV) 57.3 % รถเก๋ง 18.3 % รถท้ายลาด 10.4 % รถกระบะ 9.5 % และอื่นๆ 4.5 % ด้านรถจักรยานยนต์ที่ผู้ซื้อเข้าร่วมกิจกรรม “ซื้อมอเตอร์ไซค์…ชิงบิกไบค์” สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ YAMAHA, LAMBRETTA, และ EM
ราคาเฉลี่ยของรถที่ขายได้ในงาน 1,323,962 บาท รถจักรยานยนต์เฉลี่ย 198,488 บาท เงินหมุนเวียนในงานราว 7.2 หมื่นล้านบาท ผู้เข้าชมงาน 1,503,030 คน แพคเกจ Motor Expo Exclusive Visitors ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นจากปีก่อน ส่วนยอดดาวน์โหลด Motor Expo Application 46,966 คน และมีผู้ชมงานผ่าน Online Platform 1,091,375 ครั้ง
ส่วน JOIN BOAT PLATFORM ที่เป็นศูนย์รวมธุรกิจเรือ กิจกรรมทางน้ำ และ AVIATION ZONE ที่จัดแสดงนวัตกรรม เทคโนโลยี สถาบันฝึกอบรมด้านการบิน ธุรกิจเครื่องบินเช่าเหมาลำ ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก สร้างยอดเงินสะพัด 2 โซน รวมมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท
โดย Tap 10 แบรนด์ยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นอย่างทาง โตโยต้า ยังครองเบอร์ 1 ตลาดรถยนต์ในไทยด้วยตัวเลขยอดจอง 7,245 คัน ส่วยอันดับที่ 2 เป็นของทาง Honda ด้วยตัวเลขอยู่ที่ 6,149 คัน
ด้านอันดับที่ 3 – 7 เป็นของแบรนด์รถยนต์จากประเทศจีน ไล่เรียงมาตั้งแต่ BYD / AION / MG / Changan และ GWM โดยทางบีวายดีได้ยอดจองตัวเลขไปกว่า 5 พันกว่าคัน ส่วนน้องใหม่มาแรงอย่าง AION ได้อานิสงค์จาก AION ES ที่มีการนำไปดัดแปลงเป็นรถแท็กซี่โดยทาง EVme ทยานขึ้นมาแตะอันดับที่ 4 ด้วยตัวเลขที่มากถึง 4,568 คัน โดยอันดับ 5 เป็นของ MG ที่มียอดจองซื้อ 3,568 คัน
ส่วนอันดับที่ 6 เป็นของ CHANGAN น้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์ ที่มีคู่หูดูโออย่าง Deepal L07 ซีดานไฟฟ้า และ Deepal S07 เอสยูวีไฟฟ้า ที่ช่วยกันกวาดยอดจองไปได้ถึง 3,549 คัน ปล่อยให้เจ้าตลาดเดิมอย่าง GWM ตกมาเป็นอันดับที่ 7 ด้วยตัวเลขยอดจองซื้อ 3,524 คัน
ส่วนอันดับที่ 8 เป็นของเจ้ารถตลาดรถกระบะอย่างทาง ISUZU ที่มีตัวเลขอยู่ที่ 2,460 คัน โดยอันดับที่ 9 นั้นทาง Nissan ได้ไปครองด้วยยอดจองซื้อ 2,459 คัน และปิดท้าย Top 10 อันดับ 10 เป็นของทาง Mazda มียอดจองซื้อ 1,961 คัน
สำหรับยอดจองรถยนต์ และรถมอเตอร์ไซค์ ตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย. – 11 ธ.ค. รวมทั้งหมด 60,621 คัน แบ่งเป็นรถยนต์ 53,248 คัน และรถจักรยานยนต์ 7,373 คัน
โดยยอดจองซื้อรถยนต์ของแต่ละแบรนด์ตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย. – 11 ธ.ค. มีดังนี้
- Toyota มียอดจองซื้อ 7,245 คัน
- Honda มียอดจองซื้อ 6,149 คัน
- BYD มียอดจองซื้อ 5,455 คัน
- AION มียอดจองซื้อ 4,568 คัน
- MG มียอดจองซื้อ 3,568 คัน
- CHANGAN มียอดจองซื้อ 3,549 คัน
- GWM มียอดจองซื้อ 3,524 คัน
- Isuzu มียอดจองซื้อ 2,460 คัน
- Nissan มียอดจองซื้อ 2,459 คัน
- Mazda มียอดจองซื้อ 1,961 คัน
- NETA มียอดจองซื้อ 1,766 คัน
- Mitsubishi มียอดจองซื้อ1,675 คัน
- Suzuki มียอดจองซื้อ 1,615 คัน
- Ford มียอดจองซื้อ 1,415 คัน
- Mercedes-Benz มียอดจองซื้อ 1,333 คัน
- BMW มียอดจองซื้อ 1,188 คัน
- Hyundai มียอดจองซื้อ 680 คัน
- TESLA มียอดจองซื้อ 528 คัน
- Volvo มียอดจองซื้อ 485 คัน
- KIA มียอดจองซื้อ 321 คัน
- Wuling มียอดจองซื้อ 312 คัน
- NEX มียอดจองซื้อ 229 คัน
- Subaru 206 คัน
- MINI มียอดจองซื้อ 172 คัน
- Lexus มียอดจองซื้อ 140 คัน
- Audi มียอดจองซื้อ 120 คัน
- Peugeot มียอดจองซื้อ 101 คัน
- Porsche มียอดจองซื้อ 72 คัน
- Lotus มียอดจองซื้อ 41 คัน
- Jeep มียอดจองซื้อ 26 คัน
- TATA มียอดจองซื้อ 15 คัน
- Maserati มียอดจองซื้อ 15 คัน
- Bentley มียอดจองซื้อ 1 คัน
- BRG มียอดจองซื้อ 69 คัน
ส่วนยอดจองซื้อรถจักรยานยนต์ตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย. – 11 ธ.ค. มีดังนี้
- YAMAHA มียอดจองซื้อ 1204 คัน
- LAMBRETTA มียอดจองซื้อ 909 คัน
- FELO มียอดจองซื้อ 613 คัน
- ROYAL ENFIELD มียอดจองซื้อ 610 คัน
- EM มียอดจองซื้อ 519 คัน
- HONDA มียอดจองซื้อ 452 คัน
- ZEEHO มียอดจองซื้อ 388 คัน
- LYVA มียอดจองซื้อ 352 คัน
- TRIUMPH มียอดจองซื้อ 317 คัน
- I-MOTOR มียอดจองซื้อ 277 คัน
- RAPID มียอดจองซื้อ 238 คัน
- HARLEY-DAVIDSON มียอดจองซื้อ 227 คัน
- SUZUKI มียอดจองซื้อ 191 คัน
- CYCLONE มียอดจองซื้อ 179 คัน
- ALPHA VOLANTIS มียอดจองซื้อ 168 คัน
- CINECO มียอดจองซื้อ 155 คัน
- SOLAR มียอดจองซื้อ 146 คัน
- BMW MOTORRAD มียอดจองซื้อ 131 คัน
- SCOMADI มียอดจองซื้อ 101 คัน
- ROYAL ALLOY มียอดจองซื้อ 89 คัน
- KAWASAKI มียอดจองซื้อ 84 คัน
- HANWAY มียอดจองซื้อ 15 คัน
- HYOSUNG มียอดจองซื้อ 8 คัน