เมื่อเร็วๆ นี้ นายจิระพล รุจิวิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทในเครือ ไพรม์มัส กรุ๊ป พร้อม นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และ นายสุโรจน์ แสงสนิท นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย ให้เกียรติร่วมกล่าวต้อนรั บแขกผู้มีเกียรติ และเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ Eco-Exploration Trip ครั้งที่ 2 เส้นทางกรุงเทพฯ – จังหวัดจันทบุรี อย่างเป็นทางการ ณ โชว์รูมและศูนย์บริการ Mercedes-Benz ไพรม์มัส ออโต้เฮาส์ สาขาเลียบด่วน-เอกมัยรามอินทรา

สำหรับโครงการ Eco-Exploration Trip เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวด้ วยรถยนต์ไฟฟ้า ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้ อมและสร้างการตระหนักถึ งประโยชน์ของเทคโนโลยียานยนต์ สะอาด ทั้งเป็นการกระจายรายได้สู่ชุ มชนท้องถิ่นอีกด้วย ที่สำคัญ เพื่อเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ และส่งเสริมการท่องเที่ยวแนวรั กษ์โลก ด้วยยานยนต์ไฟฟ้าให้แก่ลูกค้ ารถยนต์ ในเครือไพรม์มัส กรุ๊ป โดยกิจกรรมครั้งนี้ มีรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเข้าร่ วมกว่า 40 คัน



ในวันแรก เริ่มต้นด้วยการนัดสมาชิ กรวมพลกันที่โชว์รูม “เบนซ์ไพรม์มัส” สาขาเลียบด่วนเอกมัย-รามอินทรา เพื่อลงทะเบียนรับ Snack Box เติมพลังก่อนเดินทางสู่จั งหวัดจันทบุรี พร้อมเริ่มเข้าสู่พิธีการ ด้วยการเชิญผู้บริหารจาก ไพรม์มัส กรุ๊ป, ททท. และสมาคมยานยนต์ไฟฟ้า กล่าวต้อนรับอย่างเป็นทางการ ต่อด้วยการชี้แจงเส้ นทางและรายละเอียดของกิจกรรม จากนั้นผู้บริหารทั้ง 3 ท่าน ร่วมพิธีเปิดโครงการ และตีธงปล่อยขบวนคาราวานรถยนต์ ไฟฟ้าอย่างเป็นทางการ


จุดแรก มุ่งหน้าสู่อนุสรณ์เรื อรบหลวงประแส ชมเรือรบหลวงและเรียนรู้ประวัติ ศาสตร์ของราชนาวีไทยในการเข้าร่ วมสงครามเกาหลี พร้อมสัมผัสธรรมชาติที่ สวยงามโดยรอบของแหล่งท่องเที่ ยวที่เป็นสัญลักษณ์ของชุมชนแห่ งนี้ นอกจากเพลินเพลินกับธรรมชาติอย่ างใกล้ชิดแล้ว เรายังได้ร่วมทานอาหารในแบบบุ ฟเฟ่ต์กับร้านอาหารทะเล “ริมเล” ร้านอาหารชื่อดังของปากน้ำประแส จัดเต็มด้วยเมนูอาหารทะเลที่คั ดสรรวัตถุดิบ กุ้ง หอย ปู ปลา มาจากชาวประมงโดยตรง มาพร้อมรสชาดอาหารจัดจานชนิดที่ ต้องยกนิ้วให้กันทีเดียว


หลังจากอิ่มหน่ำสำราญกันเรียบร้ อย เราได้ออกเดินทางอีกครั้งกับเส้ นทางสายสั้นๆ เพื่อมุ่งหน้าสู่ “ทุ่งโปรงทอง” ป่าชายเลน ที่เกิดจากความร่วมมือร่ วมใจของเทศบาลและชาวบ้าน ในการฟื้นฟูต้นไม้และระบบนิเวศ จนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิ งอนุรักษ์ยอดนิยมของจังหวั ดระยอง โดยเปลี่ยนจากขับรถมานั่ งรถพวงข้าง เพื่อเดินทางไปยังท่าเรือแสมผู้ นั่งเรือหางยาวล่ องไปตามคลองแสมผู้ ที่มีความยากว่า 3 กม.สัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้านริ มลอง ก่อนลัดเลาะไปตามป่าชายเลน ชมทัศนียภาพที่ สวยงามแปลกตาของต้นโกงกาง ต้นแสม ต้นลำพู ที่อุดมสมบูรณ์ และเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ ทะเล กุ้ง หอย ปู ปลาตีน ทั้งสัมผัสธรรมชาติของท้ องทะเลอ่าวไทย


จากนั้น เรือได้แล่นวกกลับสู่ท่าเรือ แวะสักการะศาลเจ้าพ่อแสมผู้ และเดินลัดเลาะไปยังสะพานไม้ที่ ทอดยาวกว่า 2 กม. พาดผ่านกลางทุ่งโปรง ที่มีสีทองอร่ามกว้างใหญ่แบบสุ ดลูกหูลูกตา และป่าโกงกาง ที่มีต้นโกงกาง ตะบูน ลำพู และแสม พร้อมเดินขึ้นไปที่หอชมวิว มีความสูงไม่มากนัก สามารถปีนขึ้นไปได้อย่างสบายๆ เมื่อขึ้นไปชั้นบนสุด จะได้เห็นภาพมุมสูงของคลองแสมผู้ และป่าโกงกางที่ สวยงามตระการตาในแบบพาโนรามา ก่อนมุ่งหน้าเดินทางสู่ที่พักริ มทะเล “เป๊กกี้ โคฟ รีสอร์ท : Peggy’s Cove Resort” ที่ตกแต่งสไตล์หมู่บ้านชาวประมง บนหาดคุ้งวิมาน เพื่อเช็คอินน์ แยกย้ายสู่ห้องพัก เล่นน้ำและพักผ่อนตามอัธยาศัย



ในงานเลี้ยงยามค่ำคืน บรรยากาศเต็มไปด้วยสีสันสไตล์ Pool Party ทางทีมผู้บริหารของภาครั ฐและเอกชน ได้พูดคุยและเสวนาเรื่องยานยนต์ ไฟฟ้าในไทย จากนั้นเข้าสู่โหมดความสนุ กสนานกับมินิคอนเสิร์ตจาก 3 หนุ่มสาวเอเนอร์จีแรงส์ “ออน-เอ๊ะ-แมน” ของวงละอองฟอง ที่สร้างความครึกครื้น และเพลิดเพลินด้วยเพลงในสไตล์ต่ างๆ พร้อมชวนผู้ร่วมทริปร้ องเพลงและเต้นตามกันแบบไม่มี ใครยอมใคร จนต้องยกกล้องขึ้นถ่ายรูปเพื่ อเก็บเป็นที่ระลึก ก่อนที่จะปิดงานกันแบบมีความสุ ขและเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

วันรุ่งขึ้น หลังจากเต็มอิ่มกับอาหารเช้าจาก เป๊กกี้ โคฟ รีสอร์ท ได้นัดรวมพลและเริ่มเดินทางกั นอีกครั้ง สู่ “อู่ต่อเรือพระเจ้าตากสิน” บ้านเสม็ดงาม เพื่อกราบสั กการะขอพรพระบรมราชานุสรณ์สมเด็ จพระเจ้าตากสิน และชมสถานที่สำคัญทางประวัติ ศาสตร์ ซึ่งสันนิฐานว่า เป็นจุดเริ่มต้นของการกอบกู้แผ่ นดินกรุงศรีอยุธยา โดยหลังจากที่พระเจ้าตากสิน ตีเมืองจันทบุรีสำเร็จแล้ว ได้ใช้พื้นที่แห่งนี้เป็นอู่ต่ อเรือร่วม 100 ลำ เพื่อยกทัพไปตีพม่าและกอบกู้ เอกราชของชาติไทย เมื่อ พ.ศ.2310

ทั้งยังเป็นย่านการค้ าทางทะเลและเป็นแหล่งต่อเรื อสำเภาที่สำคัญของไทยในอดีต เมื่อกรมศิลปากร ได้ขุดค้นพบไม้ตะเคียนทอง เรือสำเภาโบราณ ที่มีลักษณะคล้ายเรือสำเภาจีน “ฟูเจี้ยน” และเรือขุดโบราณ พร้อมเศษภาชนะ ขวานเหล็ก ถ้วยชามจีนต่างๆ โดยนำมาเก็บรวบรวมและจัดแสดงไว้ ที่ “พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นอู่ต่อเรื อพระเจ้าตาก”
จากนั้นได้ร่วมทานอาหาร ที่ “ร้านครัวเจ๊ต้อย” เป็นอีกหนึ่ งร้านอาหารที่ขึ้นชื่อของจันทบุ รี ที่มีเมนูให้เลือกหลากหลาย พร้อมคัดสรรแต่ละเมนูด้ วยอาหารทะเลที่สดใหม่ และรสชาติอร่อยในสไตล์คนเมืองจั นทร์ ท่ามกลางบรรยากาศที่โปร่งสบาย ติดริมแม่น้ำจันทบุรี ก่อนเดินทางกลับและจบทริปการท่ องเที่ยว Eco-Exploration Trip ครั้งที่ 2 กรุงเทพฯ – จันทบุรี ด้วยความประทับใจและสุขใจกั บการท่องเที่ยวกับยานยนต์ที่เป็ นมิตรกับสิ่งแวดล้อม…