หากจะพูดถึงแบรนด์ KTM เชื่อว่าทุกท่านคงรู้จัก และสัมผัสได้ถึงสมรรถนะอันโดดเด่นเร้าใจกันเป็นอย่างดี ซึ่งเรามักจะได้เห็นแบรนด์ปีศาจสีส้มจากออสเตรียนี้คว้าชัยในการแข่งขันเวทีมอเตอร์สปอร์ตอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสาย Dirt หรือสาย Racing
ซึ่งต้องบอกว่าแบรนด์ KTM นั้น เป็นแบรนด์ที่มีปรัชญาการทำรถที่แน่วแน่ และมุ่งมั่นที่จะมอบความเร้าใจในการขับขี่เป็นสำคัญ เพราะทุกคันนั้นมาพร้อมกับแนวคิด Ready to Race ไม่ว่าจะเป็นรุ่นเล็ก หรือรุ่นใหญ่ หากได้ลองสัมผัสแล้วจะรู้ได้ทันทีเลยว่านี่คือรถ Production ที่มีสมรรถนะการขับขี่ และเทคโนโลยีที่ถูกถ่ายทอดมาจากสนามแข่งอย่างแท้จริง
ซึ่งในวันนี้ทางทีมงาน Autostation ได้นำน้องเล็กสุดของแบรนด์ KTM ในตระกูลที่โดดเด่น และเร้าใจที่สุดอย่าง Duke มาทำการทดสอบ เพื่อพิสูจน์ให้รู้ไปเลยว่า KTM 200 Duke นั้น มันจะจี๊ดจ๊าดได้ขนาดไหน กับราคาค่าตัวที่ 119,800 บาท
หากดูราคาข้างต้นแล้ว ก็ต้องบอกเลยว่านี่เป็น Naked Bike ระดับ Entry Class ที่มีราคาเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน แต่ถ้าหากได้พิจารณาดูถึงสเปค และอ็อพชั่นที่ให้มาแล้ว ก็ต้องบอกว่ามันสมเหตุสมผล ซึ่งของติดรถที่ให้มานั้นเหนือชั้นกว่ารถในระดับเดียวกันทั้งหมด และนั่นจึงเป็นสิ่งที่ทำให้ปีศาจสีส้มน้องเล็กคันนี้โดดเด่นกว่ารุ่นอื่นๆ ในตลาด และที่สำคัญสมรรถนะการขับขี่มันเกินคลาสนี้ไปแล้วจริงๆ
สำหรับดีไซน์ภายนอกของ KTM 200 Duke นั้น พึ่งได้รับการปรับโฉมใหม่ไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดยจะมาพร้อมดีไซน์ที่ถูกถ่ายทอด DNA มาจากรุ่นพี่อย่าง 390 Duke และ 1290 Super Duke แต่ทว่าอ็อพชั่นบางรายการยังให้มาไม่เต็มเท่าที่ควร ได้แก่ไฟหน้าที่เป็นแบบฮาโลเจน และเรือนไมล์ที่เป็นจอ LCD ในขณะที่รุ่นพี่นั้นให้มาเป็นแบบ LED และจอดิจิตอล TFT กันแล้ว
แต่นั่นก็เป็นเพียงจุดสังเกตุเท่านั้น หากว่ากันที่ดีไซน์โดยรวมก็ต้องบอกว่า KTM 200 Duke นั้น ยังโดดเด่น และให้ความโฉบเฉี่ยวเร้าใจที่สุดในกลุ่มอยู่ดี เพราะมาพร้อมกับเฟรมรถแบบ Tubular Trellist Frame หรือโครงถัก ทำให้ดีไซน์ตัวรถมีความเพรียวและดุดัน ในขณะเดียวกันก็ยังคงความแข็งแกร่งไว้อย่างลงตัว ควบคุมตัวรถผ่านแฮนด์บาร์ตามสไตล์ Naked Bike ที่ให้การควบคุมที่กระชับถนัดมือ และให้สรีระการขับขี่ที่สบาย
ระบบไฟของตัวรถนั้น หากไม่นับไฟหน้าที่เป็นหลอดฮาโลเจน ที่เหลือก็ให้มาเป็นแบบ LED ทั้งหมด แถมมีไฟ DRL แบบ LED สีขาวมาให้ด้วย เรือนไมล์ก็มีระบบ Shift Light ไฟแสดงจังหวะเปลี่ยนเกียร์ที่เหมาะสมมาให้ และมีปุ่มปรับข้อมูลการแสดงผลแยกออกมาให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น
ถังน้ำมันมีขนาดความจุถึง 13.4 ลิตร เบาะนั่งแบบ 2 ตอน โดยมีความสูงของเบาะนั่งอยู่ที่ 830 มม. ซึ่งจะสูงกว่ารุ่นอื่นๆ ในตลาด เพราะเป็นรถยุโรป แต่ถ้าถามว่าจะเป็นปัญหาสำหรับสรีระของคนไทยหรือไม่ จุดนี้ตอบให้เลยว่าไม่ได้เป็นปัญหา เพราะตัวรถมีความกระชับ และน้ำหนักตัวถังที่เบาเพียง 140 กก. เท่านั้น ทำให้การควบคุมรถเป็นไปอย่างคล่องตัว โดยผู้เขียนมีความสูงแค่เพียง 168 ซม. ก็สามารถขี่ได้แบบสบายๆ จังหวะจอดขาทั้ง 2 ข้างก็ยังสามารถแตะพื้นได้ แต่ได้เฉพาะฝ่าเท้าเท่านั้น
หัวใจสำคัญที่ทำให้ KTM 200 Duke คันนี้โดดเด่นสุดๆ ก็คือในเรื่องของสมรรถนะการขับขี่ เพราะเจ้าปีศาจน้องเล็กคันนี้ ได้รับการติดตั้งระบบช่วงล่างจากแบรนด์ WP ซึ่งเป็นแบรนด์ชั้นนำระดับโลก และใช้กับรถแข่งที่คว้าแชมป์มาแล้วหลายต่อหลายรุ่น
โดยด้านหน้าให้มาแบบหัวกลับ Upside Down ที่ขนาด 43 มม. ซึ่งถือว่ามีขนาดแกนที่ใหญ่ที่สุดในคลาส (ใหญ่กว่ารถไซส์ 500cc. ด้วยซ้ำไป) ส่วนด้านหลังเป็นแบบ Monoshock วางกลางลำ ที่มีระยะยุบถึง 150 มม. แถวยังสามารถปรับ Preload ได้ ซึ่งหลังจากที่ได้ลองสัมผัสมาแล้ว
เท่านั้นยังไม่พอ เรื่องของระบบเบรกก็ไว้ใจได้เลย เพราะจัดเต็มให้มาทั้งดิสก์เบรก 2 ล้อ โดยด้านหน้ามาพร้อมจานดิสก์ขนาด 300 มม. พร้อมคาลิปเปอร์จาก Bybre (แบรนด์ลูกของ Brembo) แบบ 4 POT ส่วนด้านหลังใช้จานดิสก์ขนาด 230 มม. ปั้ม Bybre 1 POT พร้อมระบบเบรก ABS แบบ 2 Channel จาก Bosch ซึ่งจะเห็นได้ว่าทาง KTM ได้คัดสรรระบบช่วงล่างที่ดีที่สุดในรถระดับเดียวกันจากแบรนด์ชั้นนำของโลกมาติดตั้งให้กับ Naked Bike รุ่นเริ่มต้นคันนี้
จากการที่ได้ลองสัมผัสมาแล้ว ต้องบอกว่า KTM 200 Duke นั้น เป็นรถที่ขี่ง่าย คล่องตัว และพริ้วสุดๆ ส่วนนึงอาจเป็นเพราะมิติตัวรถที่มีความกระชับ และส่วนใหญ่เป็นเพราะระบบช่วงล่างที่รองรับการขับขี่ที่สปอร์ต โดยระบบช่วงล่างสามารถซับแรงกระแทกได้ดีมาก และให้การควบคุมรถที่นิ่ง และเกาะถนน แถมยังรองรับกับการขับขี่ในความเร็วสูงได้ดี
ซึ่งถ้าหากนำไปเทียบกับรุ่นอื่นๆ ของแบรนด์ญี่ปุ่น ต้องบอกเลยว่า Naked Bike จากออสเตรียคันนี้มีช่วงล่างที่ดีกว่าเยอะ ซึ่งถ้าจะนำไปเทียบจริงๆ อาจต้องข้ามไปวัดกับพิกัด 650cc. เลยทีเดียว
และเมื่อระบบช่วงล่างที่ดีเกินคลาส มาผสานเข้ากับขุมพลังที่ให้อารมณ์แบบดิบๆ จึงเกิดเป็นความเร้าใจในการขับขี่ โดย 200 Duke นั้น มาพร้อมเครื่องยนต์ 1 สูบ ขนาด 199cc. ระบายความร้อนด้วยน้ำ ส่งกำลังด้วยเกียร์ 6 สปีด คลัทช์มือ ที่ให้กำลังสูงสุด 26 แรงม้า แรงบิด 19.5 นิวตัน-เมตร
โดย KTM 200 Duke นั้น เป็นรถที่มีอัตราเร่งที่จัดจ้านมาก มีทอร์คมาให้ใช้แบบหนักๆ จังหวะเร่งแซงทำได้อย่างเฉียบขาด ส่วนความเร็วสูงสุดทำได้ที่ 140 กม./ชม. ซึ่งต้องบอกว่าคาแร็คเตอร์ของรถนั้นจะโดดเด่นที่ช่วงต้น ซึ่งจุดนี้ทำให้หลายคนนิยมนำ 200 Duke ไปใช้งานในสาย Stunt หรือเล่นท่ากันเยอะ เพราะสามารถกระชากออกยกล้อได้ง่าย แถมตัวรถยังมีน้ำหนักที่เบา ทำให้การควบคุมหรือเล่นท่าต่างๆ สั่งได้ดั่งใจ
ส่วนการใช้งานในชีวิตประจำวันก็ถือว่าตอบโจทย์ได้ดี เพราะตัวรถมีความคล่องตัวสูงการใช้งานในเมืองจึงไม่ใช่ปัญหา แถมถนนโล่งๆ ยังมีกำลังให้ซัดเล่นได้อยู่เรื่อยๆ เพราะตัวรถมันพร้อมจะพุ่งทะยานทันทีทุกครั้งที่กระตุกคันเร่ง แต่ถ้าเดินทางไกลๆ ออกทริปต่างจังหวัด จุดนี้อาจจะไม่ตอบโจทย์สักเท่าไหร่ ซึ่งถ้าอยากใช้ KTM 200 Duke ออกทริปจริงๆ แนะนำให้ทดสเตอหลังเบอร์เล็กลงกว่านี้สักหน่อย เพื่อให้การขี่แช่ยาวๆ มันสมูธมากยิ่งขึ้น
บทสรุป
โดยรวมแล้วก็ต้องบอกว่า KTM 200 Duke นั้น เป็นรถที่มีสมรรถนะ และเทคโนโลยีที่โดดเด่นที่สุดในกลุ่ม Naked Bike พิกัดไม่เกิน 200cc. จุดขายหลักอยู่ที่ระบบช่วงล่างที่ได้ของดีจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก รวมไปถึงขุมพลังที่ให้อารมณ์ดิบ และช่วยมอบความเร้าใจในการขับขี่เต็มอารมณ์ Naked Bike อย่างแท้จริง แต่ก็ต้องแลกมาด้วยราคาค่าตัวที่ 119,800 บาท ซึ่งก็ถือว่าแพงที่สุดในรถระดับเดียวกัน
และอีกหนึ่งปัจจัยที่หลายท่านอาจจะยังลังเลไม่กล้าเปิดใจให้กับ KTM คงเป็นเรื่องของศูนย์บริการ และการบริการหลังการขาย ซึ่งจุดนี้จากการที่ทางทีมงาน Autostation ได้หาข้อมูลมานั้น ต้องบอกว่าหลังจากเปลี่ยนมือผู้จำหน่ายมาเป็น VROOM ทิศทางการทำตลาดเริ่มชัดเจนขึ้น และปัจจุบันมีการขยายดีลเลอร์ไปในหลายจังหวัดแล้ว แถมยังมีแคมเปญดีๆ อย่าง KTM Home Coming Campaign ที่มอบบริการตรวจเช็คฟรี 20 รายการ และมอบส่วนลด 10% สำหรับค่าอะไหล่ ให้กับลูกค้า KTM ทั้งรายใหม่ และรายเก่าอีกด้วย
ส่วนใครที่ไม่รู้ว่าจะติดต่อสอบถาม ทดลองขี่ หรือออกรถ KTM ได้ที่ไหน สามารถติดต่อมาที่ inbox : Facebook.com/AutostationTH ได้เลย ทางเราจะหาโปรโมชั่นที่ดีที่สุดให้คุณเอง!!
