ฟอร์ดในประเทศนิวซีแลนด์ ประกาศเปิดตัว Ford Everest ใหม่ ที่ได้รับการตกแต่งแบบ Wildtrak โดยถือว่าเป็นครั้งแรกของรถในตระกูล Everest นี้ หลังจากที่การตกแต่งนี้จะอยู่ที่บนตัวของ Ford Ranger โดยเป็นรุ่นย่อยใหม่ที่ถูกวางตำแหน่งทางการตลาดให้อยู่รองมาจากรุ่น Platinum ที่เป็นรุ่นท๊อปไลน์ ขณะที่ในรุ่นเริ่มต้นยังคงเป็นรุ่น Trend ขยับขึ้นมาอีกรุ่นจะเป็นรุ่น Sport
สำหรับ Ford Everest Wildtrak ในตลาดแดนกีวี จะมาในสไตล์รถสายลุยแบบ Ford Ranger Wildtrak โดยตัวรถจะมาในเฉดสีโทนเดียวกับ Ranger ที่เป็นสีเหลือง สี Luxe Yellow ผสมผสานกับสีเทา Bolder Grey
มาพร้อมกับกระจังหน้าทรง 6 เหลี่ยม และกันชนหน้าแบบเฉพาะตัวของทางของ Wildtrak เสริมความสะดวกสบายด้วยบันไดข้าง บนหลังคามาในแบบรถสายลุยด้วยราวหลังคาอลูมิเนียม มาพร้อมล้ออัลลอย ชุดใหม่ขนาด 20 นิ้ว ที่มีลวดลายแตกต่้างจุดรุ่นอื่นๆ ปิดท้ายด้วยตัวอักษร W I L D T R A K สีดำ ไว้ที่ฝากระโปรงหน้า, ประตูหน้า และประตูท้าย
ภายในห้องโดยสารจะถูกหุ้มด้วยหนังกลับ Miko สีดำ เย็บเดินตะเข็บด้วยด้ายสีส้ม Cyber Orange พร้อมปักชื่อ Wildtrak ไว้ที่พนักพิงศรีษะ ขณะที่ในส่วนเบาะนั่งฝั่งผู้ขับขี่จะปรับด้วยไฟฟ้า 10 ทิศทาง มาพร้อมระบบปรับอากาศที่มีทั้งแบบปรับความร้อน และความเย็น
ส่วนแผงแดชบอร์ดจะได้รับการติดตั้งแผงหน้าปัดดิจิทัลขนาด 8 นิ้ว (ส่วนในรุ่นท๊อป Platinum จะมีขนาด 12.3 นิ้ว มาพร้อมอินโฟเทนเมนต์แบบสัมผัสขนาด 12 นิ้ว รองรับการเชื่อมทั้ง Android Auto และ Apple CarPlay แบบไร้สาย อีกทั้งยังมาพร้อมระบบเครื่องเสียงระดับพรีเมียม พร้อมลำโพง 10 ตำแหน่ง แท่นชาร์จสมาร์ตโฟนแบบไร้สาย รวมถึงยังได้รับชุดระบบความปลอดภัย ADAS
ในด้านพละกำลังของ Ford Everest Wildtrack จะมากับขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล V6 3.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ ที่ให้กำลัง 250 แรงม้า (PS) มาพร้อมแรงบิดที่มากถึง 600 นิวตันเมตร ส่งต่อกำลังไปยังล้อทั้งสี่ผ่านชุดเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4WD แบบ Full Time ที่ควบคุมด้วยไฟฟ้า
มีโหมดขับขี่ให้เลือกทั้งโหมด Normal, Eco, Tow/Haul, Slippery รวมทั้งยังมาพร้อมกับโหมด Sand, Mud/Ruts พร้อมเฟืองท้ายแบบ Locking Rear Differential อีกทั้งยังสามารถลุยน้ำได้สูงสุดถึง 800 มม. และมีความสามารถในการลากจูงถึง 3,500 กก.
สำหรับ Ford Everest Wildtrak จ่อลงโชว์รูมในยตลาดนิวซีแลนด์ช่วงเดือนกรกฎาคม ที่จะถึงนี้ ขณะที่สนนราคาจำหน่ายจะมีการประกาศออกมาให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง