เรเว่ ออโตโมทีฟ ประกาศปรับลดราคาจำหน่าย BYD Dolphin (บีวาย ดอลฟิน) แฮทข์แบ็กไฟฟ้า 5 ประตู ลง 140,099 – 160,099 บาท มีผลตั้งแต่วันที่ 22 มิถุนายน 2567 ไปจนกว่าจะหมดสต๊อก (รุ่นนำเข้าจากจีน) ก่อนที่เปิดตัวรุ่นประกอบไทย โดยมีราคาพิเศษดังนี้
- รุ่น Standard Range จากราคา 699,999 บาท ปรับลด 140,099 บาท เหลือราคาจำหน่ายที่ 559,900 บาท
- รุ่น Extended Range จากราคา 859,999 บาท ปรับลด 160,099 บาท เหลือราคาจำหน่ายที่ 699,900 บาท
ราคาดังกล่าวจะได้รับฟิล์มเซรามิก XUV MAX พร้อมได้รับ RÊVER Care
ด้านงานออกแบบด้านหน้ามากับกระจังแบบปิดทึบสีดำพร้อมตีตรา BYD ไว้ตรงกลาง ขนาบข้างด้วยชุดไฟหน้าแบบ LED มาพร้อไฟ Follow Me Home ชุดไฟท้าย LED
ด้านข้างมาพร้อมล้ออัลลอยแบบทูโทนขนาด 16 -17 นิ้ว (แล้วแต่รุ่นย่อย), กระจกมองข้างปรับ-พับไฟฟ้า พร้อมระบบไล่ฝ้า
ในด้านมิติขนาดตัวรถจะมีความยาว 4,290 มม. กว้าง 1,770 มม. สูง 1,570 มม. ระยะฐานล้อ 2,700 มม.
ภายในห้องโดยสารเบาะที่นั่ง Bucket Seat ทรงสปอร์ตหุ้มด้วยหนังสังเคราะห์ ปรับด้วยไฟฟ้า 6 ทิศทางในฝั่งผู้ขับขี่ ส่วนฝั่งผู้โดยสารปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง เบาะด้านหลังพับแยกแบบ 60:40
แผงแดชบอร์ดติดตั้งหน้าจอแสดงผลขนาด 5 นิ้ว มาพร้อมหน้าอินโฟเทนเมนท์แบบสัมผัสขนาด 12.8 นิ้ว หมุนได้ทั้งแบบแนวตั้ง และแนวนอน รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay รวมถึงระบบสั่งการด้วยเสียงเป็นภาษาไทย / อังกฤษ
ด้านชุดอุปกรณ์จะได้รับช่องจ่ายไฟ 12V, ช่อง USB-A และ USB-C, กุญแจแบบคีย์การ์ด, ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ พร้อมระบบกรองอากาศ PM 2.5, กระจกมองหลังปรับแสงได้, แท่นชาร์จโทรศัพท์มือถือไร้สาย และหลังคาแบบ Panoramic Roof
ระบบความปลอดภัย และระบบช่วยเหลือการขับขี่ของ BYD Dolphin จะได้รับระบบป้องกันลื่นไถล, ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว, ระบบเตือนก่อนเปิดประตู, กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน, ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ, ระบบเตือนเมื่อรถออกจากเลน, ระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง, ระบบควบคุมความเร็วอัจฉริยะ, ระบบเตือนการชนด้านหน้า, ระบบเตือนการชนด้านหลัง, ระบบเตือนจุดอับสายตา, ระบบช่วยเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง, ระบบช่วยควบคุมเมื่อรถออกจากเลน, ระบบช่วยควบคุมรถฉุกเฉินเมื่อรถออกจากเลน, ระบบเตือนการชนเมื่อเปลี่ยนเลน, ระบบช่วยคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ, ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรก, จุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX และถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง
ในด้านพละกำลังในรุ่น Standard Range จะมากับมอเตอร์ไฟฟ้าที่อยู่คู่ล้อหน้าให้กำลัง 70 kW (95 แรงม้า) แรงบิด 180 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 12.3 วินาที ความเร็วสูงสุดที่ 150 กม./ชม. มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 44.9 kWh ชาร์จไฟเต็มวิ่งไกล 410 กม. (NEDC) รองรับการชาร์จไฟแบบ DC ขนาด 60 kW ให้กำลังไฟจาก 30 – 80% ภายใน 30 นาที และแบบ AC ขนาด 6.6 kW ชาร์จไฟเต็มในเวลา 6 ชม. 45 นาที ด้านระบบช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบ MacPherson Strut ส่วนด้านหลังเป็นแบบ Torsion Beam
ส่วนในรุ่น Extended Range จะมากับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลัง 150 kW (204 แรงม้า) แรงบิด 310 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ใน 7 วินาที ความเร็วสูงสุด 160 กม./ชม. มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 60.148 kWh ชาร์จไฟวิ่งไกล 490 กม. (NEDC) รองรับการชาร์จไฟ DC ขนาด 80 kW ให้กำลังไฟจาก 30 – 80% ภายใน 30 นาที พร้อมรองรับการชาร์จไฟ AC ขนาด 6.6 kW ชาร์จไฟเต็มในเวลา 9 ชม. ระบบกันสะเทือนหน้าแบบ MacPherson Strut ด้านหลังแบบ Multi-link Beam
โดยทั้ง 2 รุ่นจะมากับระบบเทคโนโลยี V2L ที่สามารถจ่ายกระแสไฟไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ ภายนอกได้
Dolphin รุ่น Standard Range จะมีเฉดสีภายนอก 4 สี ได้แก่ สีครีม, สีม่วง, สีเทา, สีชมพู ภายในจะเป็นแบบทูโทนได้แก่ สีดำ/น้ำตาล, สีดำ/สีเทา และสีชมพู/สีเทา
ส่วนในรุ่น Extended Range จะมาในเฉดสีทูโทนที่มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีชมพู/ สีเทา , สีฟ้า/ สีเทา, สีเทา/ สีดำ และสีขาว/ สีเทา ภายในที่มีตัวเลือกทูโทนได้แก่ สีชมพู/ สีเทา, สีฟ้า/ สีเทา และสีดำ/ สีเทา