Fiat แบรนด์สัญชาติอิตาลี ได้เผยโฉม Fiat 600e ว่าที่รถไฟฟ้าใหม่รุ่นใหม่ โดยมาในรูปแบบคลิปทีเซอร์วิดีโอสั้น ๆ ก่อนจะได้รับการเปืดตัวอย่างเป็นทางการในยุโรป ช่วงปลายปี 2023 ที่จะถีงนี้
จากคลิปทีเซอร์ที่ปล่อยออกมาล่วงหน้านี้เผยให้เห็นถึง ดีเทลงานออกแบบทั้งภายนอก และภายในของ Fiat 600e
โดยตัวรถยังคงมาในรูปแบบ SUV ขนาดเล็ก ที่มีรูปแบบสไตล์ที่เหมือนกับรถในตระกูล 500 ของทางแบรนด์ ด้านหน้าจะมากับชุดไฟหน้า LED ทรงกลมแบบผ่าครึ่ง อีกทั้งยังมีไฟ LED ที่เป็นรูปตัว C คว่ำที่เกือบจะต่อติดกัน วางอยู่ด้านล่าง ซึ่งคาดว่าจะเป็นชุดไฟส่องสว่างตอนกลางวัน
ส่วนด้านหน้าบริเวณกระจังหน้าจะออกแบบให้ตัดตรงมาพร้อมช่องระบายอากาศ 2 ช่องโดยด้านบนจะเป้นช่องเรียวยาวที่มีสัญลักษณ์ “600” วางอยู่ช้างบน ส่วนช่องดักอากาศด้านล่างถูกออกแบบให้เป็นตะแกรง มาพร้อมชุดไฟตัดหมอกทรงกลมวางอยู่ด้านข้าง
ขณะที่ด้านข้างตัวรถนั้นมากับเส้นสายที่เรียบง่าย มาพร้อมขอบวุ้มล้อขนาดใหญ่ ตกแต่งด้วยชิ้นงานสีดำ นอกจากนั้นที่กาบบันไดข้างยังตกแต่งด้วยแถบสีดำ มาพร้อมเส้นสานโครเมียมพร้อมหมายเลขชื่อรุ่น 600 ที่วางอยู่ใกล้ซุ้มล้อหลัง
ด้านท้าย จะได้รับการติดตั้งสปอยเลอร์หลังคาสีดำ มาพร้อมเสาอากาศแบบครีบฉลามสีดำด้วยเช่นกัน ส่วนชุดไฟท้ายจะมาในแบบแนวตั้งที่มีขนาดเล็ก
ภายในห้องโดยสาร จากคลิปวิดิโอที่ปล่อยมานั้น ห้อโดยสารจะรองรับได้ 5 ที่นั่ง แผงแดชบอร์ดจะได้รับการออกแบบที่เรียบง่าย ดูสะอาดตา โดยจะได้รับการติดตั้งแผงหน้าปัดดิจิตอลทรงกลม และหน้าจออินโฟเทนเมนท์แบบสีี่เหลี่ยมผืนผ้าที่วางแบบลอยตัว มาพร้อมพวงมาลันยมัลติฟังก์ชัน
แม้จะมีตัวรถจะมากับสัญลักษณ์ “600” แต่รถ SUV ขนาดเล็กจาก Fiat ตัวใหม่นี้ จะมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า 600e โดยการตั้งชื่อนี้จะให้สอดคล้องกับ Fiat 500e รถแฮทช์แบคไฟฟ้า ซึ่งในด้านพละกำลังนั้นก็คาดว่าจะมากับระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% เหมือนกับ Fiat 500e แต่ทางผู้ผลิตจากอิคตาลียังไม่เผยข้อมูลทางเทคนิคของ 600e ออกมาในตอนนี้
เพียงแต่เผยว่า 600e นั้นใช้แพลตฟอร์มร่วมกับ Jeep Avenger ที่อยู่ในสังกัด Stellantis เดียวกัน ด้งนั้นจึงคาดกันว่า Fiat 600e จะมากับมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียว ที่ให้กำลังประมาณ 156 แรงม้า (PS) มาพร้อมแรงบิดสูงุสด 260 นิวตันเมตร ด้านแบตเตอรี่คาดว่าจะมีความจุอยู่ที่ 54 kWh
สำหรับรายละเอียดโดยรวมทั้งหมดของ Fiat 600e นั้นคงต้องรอถึงวันเปิดตัว โดยจากข่าวจะมีขึ้นในยุโรปขช่วงปลายปี 2023 ที่จะถีงนี้ ซึ่งทางทีมงาน Autostation.com จะนำเสนอความีรายงานให้ทราบอีกครั้ง
