จากที่ก่อนหน้านี้ทางไม่นานทาง AITO แบรนด์รถยนต์ที่ถือกำเนิดจากการร่วมมือกันระหว่าง Seres และ Huawie ในประเทศจีน เปิดรายละเอียดบางส่วนของ AITO M7 Ultra และได้เปิดในลูกค้าชาวจีนได้จับจองล่วงหน้าไปก่อน ล่าสุดทาง AITO ได้เปิดตัวพร้อแมประกาศราคาจำหน่าย AITO M7 Ultra เอสยูวี PHEV แบบ EREV ออกมาแล้วอย่างเป็นทางในประเทศจีน เคาะราคาเริ่มที่ 1.49 ล้านบาท
ในด้านงานออกแบบดีไซน์ของ AITO M7 Ultra ด้านหน้าจะมาในแบบปิด กระจังหน้าปรับให้ดูเพียว และเล็กลงกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ นอกจากนั้นตัวโลโก้ของทางแบรนด์ที่อยู่ตรงกลางกระจังหน้าจะมาในแบบเรืองแสงได้ ขณะที่ชุดไฟหน้านั้นจะมาในรูปทรงสามเหลี่ยมปลายเรียวแหลมขนาดใหญ่ ด้านตัวกันชนออกแบบให้มีช่องรับลมที่ตกแต่งด้วยเส้นโครเมียมที่ขอบชายล่าง มาพร้อมช่องดักอกาศแนวตั้งที่อยู่สองฝั่งของตัวกันชน
ส่วนเส้นสายด้านข้างตัวรถนั้นยังคงแบบเดิมที่เรียบหรู ไม่ว่าจะเป็นมือเปิดประตูที่เป็นแบบราบไปกับตัวรถ มาพร้อมเส้นโครเมียมที่ถูกตกแต่งรอบกรอบตัวกระจกบานข้าง อีกทั้งยังมาพร้อมกับบันไดข้างไฟฟ้า Shuxiang โดยเพียงเมื่อเปิดประตู แป้นเหยียบจะยืดออกโดยอัตโนมัติ เมื่อคุณปิดประตู แป้นเหยียบจะถอยกลับโดยอัตโนมัติ เพื่อทำให้สามารถเข้า-ออกภายในตัวรถได้อย่างง่ายดาย รวมทั้งยังมาพร้อมระบบป้องกันการหนีบ และสิ่งกีดขวางการทำงาน
ขณะที่ในส่วนล้ออัลลอยจะมีให้เลือก 2 แบบ คือลายเจ็ดก้านคู่ขนาด 20 นิ้ว และล้อสิบก้านคู่ขนาด 21 นิ้ว อีกทั้งในส่วนบนหลังคาจะมากับราวแล็คหลังคาสีดำ
นอกจากนั้นยังมาพร้อมกับกล้องขนาดเล็กที่อยู่ในกรอบโครเมียมบริเวณเหนือบังโคนหน้าใต้กระจกมองข้าง รวมทั้งยังมากับ LiDAR (ไลดาร์) ที่มากับระบบของทาง HUAWEI ADS ® 2.0 อยู่ด้านบนหลังคาด้านหน้าตัวรถตรวจจับได้ระยะทางไกลถึง 150 เมตร มาพร้อมกับระบบตรวจจับฟิวชั่นขั้นสูงที่ประกอบไปด้วย 1 LIDAR, เรดาร์คลื่น 3 มิลลิเมตร, เรดาร์อัลตราโซนิก 12 ตัว และกลุ่มกล้องความละเอียดสูง 11 กลุ่ม สำหรับการตรวจจับแบบเต็มช่วง ที่ครอบคลุมความกว้างถึง 360°
ด้านท้ายมากับชุดไฟท้าย LED ที่วางพาดเต็มยาวในส่วนพื้นที่ด้านหลัง มาพร้อมความสปอร์ตด้วยสปอยเลอร์หลังคาที่เป็นสีเดียวกันกับตัวรถ
AITO M7 Ultra จะมากับเฉดสีตัวถังภายนอกที่มีให้เลือก 5 เฉดสีได้แก่ สีน้ำเงิน Interstellar Blue, สีเงิน Silver, สีเทา Gray, น้ำเงินฟ้า Azure ฺBlue และสีดำ Black
ในด้านมิติตัวรถนั้นจะมีความยาวอยู๋ที่ 5,020 มม. กว้าง 1,945 มม. สูง 1,760 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,820 มม.
ภายในห้องโดยสารดีไซน์ในแบบมินิมอล ลดการใช้ปุ่มสั่งงานต่าง ๆ ออกแบบบตกแต่งภายในด้วยลายไม้ ที่บนแผงหน้าปัด และที่แผงประตู โดยจะมีเฉดสีให้เลือก 2 โทนสีคิดสีส้ม และสีเบจ
เบาะที่นั่งของ AITO M7 Ultra จะมีให้เลือกทั้งแบบ 5 (2+3) และ 6 ที่นั่ง (2+2+2) ตัวเบาะหุ้มด้วยหนัง Nappa
ในรุ่น 3 แถว 6 ที่นั่ง เบาะแถวที่ 2 จะเป็นแบบกัปตันซีท ด้านในจะเป็นชั้นโฟมหนาถึง 10 ชั้น ออกแบบให้รองรับแนวกระดูกสันหลังตามหลักสรีระศาสตร์ เพื่อให้เกิดความสบายแบบสูงุสดระดับเฟิร์สคลาส มาพร้อมระบบปรับด้วยไฟฟ้า, ระบบระบายอากาศ, ระบบทำความร้อน และฟังก์ชันนวด
ส่วนในรุ่น 5 ที่นั่ง เบาะคู่หน้าสามารถปรับเอนได้ราบเรียบ ต่อเชื่อมกับเบาะแถวที่ 2 ให้กลายเป็นโซฟาขนาดใหญ่ รวมทั้งเบาะตอนหลังในรุ่น 5 ที่นั่งงยังปรับพับได้ราบเพื่อให้กลายเป็นเตียงนอนขนาดควีนไซส์ที่มีคามวยาวถึง 2 เมตร กว้าง 1.5 เมตร
ด้านพื้นที่เก็บของด้านท้ายในรุ่น 6 ที่นั่งจะมีความจุ 188 ลิตร เมื่อพับเบาะลงจะขยายพื้นที่ได้มากสุด 775 ลิตร ส่วนในรุ่น 5 ที่นั่ง จะมีความจุอยู่ที่ 686 ลิตร เมื่อพับเบาะลงจะขยายพื้นที่ได้มากถึง 1,619 ลิตร
ด้านแผงแดชบอร์ดจะมากับพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบสองก้านใหม่ ที่วางอยู่ด้านหน้าของแผงหน้าปัดขนาด 10.25 นิ้ว, หน้าจอควบคุมส่วนกลางที่วางแบบลอยขนาดใหญ่ถึง 15.6 นิ้ว, หน้าจอ HUD
นอกจากนี้ยังได้รับการติตดั้งหน้าจอขนาด 13.2 นิ้วที่อยู่ด้านหลังเบาะที่นั่งคู่หน้า มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Harmony OS ของ Huawei มาพร้อมเทคโนโลยีกระจายเสียง อะคูสติกส์ Schroeder และ MagLinks แบบเดียวกับ AITO M9
ด้านคอนโซลกลางออกแบบให้มาในแบบเรเยลแบบชั้น โดยจะถูกเชื่อต่อติดกับคอนโซลหน้าในรูปแบบทแยง ในส่วนด้านบนคอนโซลกลางจะมีเพียงแท่นชาร์จโทรศัพท์ไร้สายมีมาให้ถึง 2 ตำแหน่ง ขณะที่หัวเกียร์จะดีไซน์ให้ดูมีความหรูหราโดยจะทำจากแก้วคริสตัลแบบเดียวกับที่อยู่บนตัวของทางแบรนด์ Volvoปิดท้ายด้วยหลังคาซันรูฟ
ในด้านพละกำลังขับเคลื่อนจะมากับระบบ PHEV แบบ EREV ที่เป็นการทำงานรวมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 1.5T ที่มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าของ Huawei จะมีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อหลังและขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยในรุ่น RWD จะให้กำลัง 200 kW (268 แรงม้า) แรงบิด 360 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0- 100 กม./ชม 7.8 กม./ชม.
ส่วนในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ จะให้กำลัง 330kW (402 แรงม้า) แรงบิด 660 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม 4.8 วินาที ด้านความเร็วสูงสุดทั้ง 2 รูปแบบจะอยู่ที่ 190 กม./ชม.
สำหรับชุดประเภทแบตเตอรี่เป็นลิเธียมแบบไตรภาคจาก CATL ความจุ 42 kWh โดยในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อหลังจะวิ่งในโหมดไฟฟ้าล้วนได้ระยะทางไกลสุด 240 กม. วิ่งครอบคลุมระยะทางถึง 1,300กม. (CLTC)
ขณะที่ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ จะวิ่งในโหมดไฟฟ้าล้วนได้ระยะทางไกลสุด 210 กม. วิ่งครอบคลุมระยะทางถึง 1,250 กม. (CLTC) โดยทั้ง 2 รูปแบบ จะรองรับการชาร์จ DC ที่จะให้กำลังไฟจาก 30% ถึง 80% ในเวลา 30 นาที
สำหรับ AITO M7 Ultra ที่เปิดวางขายในจีน จะมีให้เลือก 4 รุ่นย่อย เปิดราคาจำหน่ายระหว่าง 289,800 – 329,800 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยุ่ที่ราว ๆ 1.49 – 1.7 ล้านบาท