ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) เปิดราคาจำหน่าย All-New Honda Accord 2023 เจนฯ ที่ 11 อย่างเป็นทางในไทย หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้เผยข้อมูล รายละเอียด ออกมาก่อนล่วงหน้า โดยฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่จะมีให้เลือก 3 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น e:HEV E, รุ่น e:HEV EL และจะเป็นครั้งแรกในตระกูล Accord ที่จะมีรุ่นตัวแรง e:HEV RS เพิ่มเข้ามา ซึ่งทุกรุ่นย่อยจะได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์ 2.0 e:HEV และระบบความปลอดภัย Honda SENSING โดยมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ระหว่าง 1.529 – 1.799 ล้านบาท
สามารถคลิปรีวิวตัวรถฉบับเต็มได้ที่ ⇒ พาชม Honda Accord 2023 (Gen 11) สเปคไทยเครื่อง 2.0 e:HEV
สำหรับ All-New Honda Accord 2023 มาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลง และพัฒนาใหม่ในหลาย ๆ จุด เริ่มจากรูปลักษณ์ภายนอก จะมาพร้อมตัวถังที่ยาวเพิ่มขึ้นจากรุ่น 68 มม. สันฝากระโปรงหน้าที่ลาดเอียง และยาวขึ้น ผสานกับตัวรถด้านหน้าที่ดูเฉียบคม แข็งแกร่ง เส้นสายด้านข้างตัวรถที่ยังคงเอกลักษณ์การใช้เส้นสายแนวนอน เพื่อเน้นโครงสร้างตัวถังในคอนเซปต์ Low & Wide พร้อมด้วยการใช้ชายกันกระแทกด้านข้างสีดำ
อีกทั้ยังมากับกระจังหน้าดีไซน์สปอร์ตใหม่ ชุดไฟหน้า LED ดีไซน์แบบเรียบง่าย มากับระบบเปิด – ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ มาพร้อมไฟ DRL ที่เป็นเส้นตวัดลากหางยาวไปทางด้านข้างตัวรถ กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า พร้อมพับเก็บอัตโนมัติ โดยในรุ่นย่อย e:HEV EL และ e:HEV RS กระจกมองข้างด้านซ้ายปรับลดอัตโนมัติเมื่อถอยหลัง
หลังคาท้ายมาในแบบลาดเทในสไตล์รถฟาสต์แบ็ก ชุดไฟท้ายแบบพาดยาวเต็มพื้นที่ด้านหลัง มาพร้อมโลโก้ H-Mark ที่คั้นตรงกลาง เสริมความสปอร์ตด้วยเสาอากาศครีบฉลาม และล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว สีเงิน (รุ่น e:HEV E) ส่วนในรุ่น e:HEV EL จะเป็นล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว สีดำ
ในรุ่น e:HEV RS ยกระดับความสปอร์ตหรูหราอีกขั้นด้วยสัญลักษณ์ RS บนกระจังหน้า และด้านท้าย หลังคาซันรูฟไฟฟ้าแบบพาโนรามา, ไฟเลี้ยวด้านหน้า และด้านหลังแบบ LED Sequential, ไฟส่องมือจับเปิดประตูด้านนอก, กระจกมองข้างสีดำพับเก็บอัตโนมัติ, ช่องระบายอากาศด้านข้างสีเงิน, เสาอากาศครีบฉลามสีดำ, สปอยเลอร์หลังสีดำ, ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว สีดำ
สำหรับภายในห้องโดยสารรุ่น e:HEV RS เบาะหุ้มด้วยหนังสีดำเย็บเดินตะเข็บด้วยด้ายสีแดง และชุดตกแต่งภายในสีเงิน Metallic ลาย 3 มิติ และสีดำ Piano Black
สำหรับชุดอุปกรณ์มาตราฐานภายในของ Honda Accord 2023 จะได้รับเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมระบบดันหลัง
แผงแดชบอร์ดจะมากับหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย มาพร้อมแอปและบริการของ Google และครั้งแรกกับฟังก์ชันการอัปเดตซอฟต์แวร์ OTA
อีกทั้งยังมากับหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว และหน้าจอ HUD ขนาด 11.5 นิ้ว, ช่องเชื่อมต่อ USB type C 4 ตำแหน่ง
แท่นชาร์จสมาร์โฟนแบบไร้สาย, ระบบฟอกอากาศภายในห้องโดยสาร Plasmacluster (รุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS)
อีกทั้งยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ Experience Selection Dial ที่สามารถหมุนเพื่อเลือก และบันทึกฟังก์ชันการใช้งานต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย โดยสามารถปรับเลือกระบบปรับอากาศ ระบบเครื่องเสียง และไฟสร้างบรรยากาศภายในรถยนต์ได้ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ขับขี่สัมผัสกับประสบการณ์การควบคุมได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งสามารถตั้งค่าผู้ใช้งานได้จำนวนสูงสุดถึง 8 ผู้ใช้งาน
อีกทั้งยังมากับชุดไฟ Ambient Light ที่ปรับเฉดสีได้ที่ได้รับการติดตั้งใน Honda Accord e:HEV เป็นครั้งแรก (รุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS) โดยสามารถเลือกโหมดการเปลี่ยนสีของไฟได้ 2 โหมด คือ โหมด Recommended Color สามารถปรับเปลี่ยนสีโดยอัตโนมัติตามสถานการณ์ และโหมด Theme Color สามารถเลือกปรับสีตามต้องการได้ โดยมีสีให้เลือก 10 เฉดสี
รวมทั้งยังได้รับระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง BOSE 12 ตำแหน่ง ในทุกรุ่นย่อย
ระบบความปลอดภัยมากับ Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อย โดยจะทำงานระหว่างกล้องมุมกว้างด้านหน้า และเรดาร์ อาทิ ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก, ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ, ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ
ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ, ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ (เฉพาะรุ่น e:HEV RS), ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่, ถุงลม 8 ตำแหน่งในทุกรุ่นย่อย, ไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (ACL), เซ็นเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และ หลัง 4 จุด
ด้านขุมพลังมากับระบบฟูลไฮบริด e:HEV ที่เป็นการทำงานระหว่างเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร Direct Injection Atkinson-Cycle DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว กับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ได้แก่ มอเตอร์สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และมอเตอร์ขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive) ให้กำลังรวม 207 แรงม้า แรงบิด 335 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์ E-CVT
อีกทั้งยังมาพร้อมกับสวิตช์ควบคุมโหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Switch) ที่ได้รับการพัฒนาโดยเพิ่ม Charge Mode เข้ามาเป็นครั้งแรกใน Honda Accord โดยทางฮอนด้าเคลมอัตราประหยัดน้ำมันอยู่ที่ 25 กม./ลิตร
Honda Accord จะมีเฉดสีให้เลือก 4 สี ได้แก่สีขาวมุก Platinum White Pearl, สีเงินลูนาร์ Lunar Silver Metallic, สีเทาเมทิเออรอยด์ Meteoroid Grey Metallic และสีดำคริสตัลมุก Crystal Black Pearl
ราคาจำหน่ายของ All-New Honda Accord 2023
- รุ่น e:HEV E ราคาจำหน่าย 1,529,000 ราคา
- รุ่น e:HEV EL ราคาจำหน่าย 1,ุุุ669,000 ราคา
- รุ่น e:HEV RS ราคาจำหน่าย 1,799,000 ราคา