หลังจากที่ All-new Honda Accord ใหม่เจเนอดรชั่นที่ 11 ได้เปิดตัวในประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2022 ที่ผ่านมา ถัดมาก็ได้ข้ามทวีปมาเปิดตัวโชว์โฉมในดินแดนมังกรจีน ล่าสุดรถซีดานรุ่นเรือธงของฮอนด้า เตรียมกลับมาทำตลาดในญี่ปุ่นบ้านเกิด ซึ่งจะมากับขุมพลัง 2.0 e:HEV เท่านั้น โดยจะเปิดให้รับจองในเดือนธันวาคม 2023 นี้ ก่อนที่จะส่งมอบรถได้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2024
ในด้านงานดีไซน์ของ Honda Accord ใหม่นี้ แทบจะเหมือนกับ Accord สเปคในวางขจำหน่ายในสหรัฐฯ ยกเว้นเฉดสีที่แตกต่างกันเล็กน้อย รวมทั้งในส่วนของล้ออัลลอยที่มีขนาด 18 นิ้ว แต่ส่วนที่แตกต่างจะอยู่ที่คุณสมบัติและการตกแต่งภายในห้องโดยสาร
สำหรับรูปลักษณ์หน้าตาของ All-new Honda Accord ด้านหน้าจะมากับกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ทรง 6 เหลี่ยม ด้านในเป็นตระแกรงสีดำ ขนาบข้างด้วยไฟหน้า LED ดีไซน์แบบเรียบง่าย มาพร้อมไฟ DRL ที่เป็นเส้นตวัดลากหางยาวไปทางด้านข้างตัวรถ
ในส่วนฝากระโปรงหน้าปรับใหม้มีขนาดใหญ่ขึ้น มาพร้อมดีไซน์เส้นสายเฉียบคม รับกับขอบกระจังหน้าอย่างลงตัว นอกจากนั้นจะสังเกตว่า All-new Honda Accord ใหม่นี้จะไม่มีส่วนประกอบของวัสดุโครเมียมเข้ามาตกแต่งเหมือนกับตัว Accord รุ่นปัจจุบัน
ขณะที่ในส่วนกันชนหน้ามาในดีไซน์ให้มีความโค้งมน พร้อมกับปรับขนาดความกว้างของช่องรับลมให้มีขนาดที่ใหญ่ขึ้น ล้ออัลลอยจะมากับขนาด 18 นิ้ว
หลังคาท้ายมาในแบบลาดเทในสไตล์รถฟาสต์แบ็กชุดไฟท้ายแบบพาดยาวเต็มพื้นที่ด้านหลัง มาพร้อมโลโก้ H-Mark ที่คั้นตรงกลาง พร้อมปรับขนาดให้เล็กลง
สำหรับมิติตัวรถจะปรับให้ใหญ่ขึ้นโดยมีความยาว 4,971 มม., กว้าง 1,862 มม., สูง 1,450 มม. มีระยะฐานล้อ 2,830 มม. ซึ่งยาวกว่ารุ่นที่ผ่านมา 71 มม.
ภายในห้องโดยสารตกแต่งเน้นความพรีเมียม แผงแดชบอร์ดมาพร้อมแผงหน้าปัดดิจิตอลขนาด 10.2 นิ้ว และหน้าจออินโฟเทนเมนต์แบบสัมผัสที่วางแบบลอยตัว โดยจะมีขนาดใหญ่ถึง 12.3 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto มาพร้อมหน้าจอ HUD ที่มีขนาด 11.5 นิ้ว
นอกจากนั้นในส่วนแป้นความคุมสั่งงานอุณหภูมิภายใน ในสเปคอเมริกาจะแบบมือหมุน 3 อัน แต่ เวอร์ชั่นที่ตะวางจำหน่ายในญี่ปุ่น จะเป็นแป้นหมุนเพียงอันเดียว ที่ทางฮอนด้าเรียกว่า Experience Selection Dial โดยจะเหมือนกับ Accord เมืองจีน รวมทั้งบนตัว Inspire ที่เป็นฝาแฝดของทาง Accord
ซึ่งแป้นหมุนนี้จะทำหน้าที่ควบคุมสั่งงานอุณหภูมิ ซึ่งจะมีตัวเลขแบบดิจิตอลบอกที่ด้านใน นอกจากนั้น จะควบคุมระบบ Infotainment ด้วยการกดแป้นหมุน ผู้ใช้จะเลือกว่าจะควบคุมเสียง อุณหภูมิ แสง ฯลฯ ขณะเดียวกันหน้าจอที่ตัวแป้นหมุน จะกลายเป็นหน้าปัดนาฬิกาแบบอะนาล็อกเมื่อไม่ได้ใช้งาน
นอกจากนั้นในส่วนคันเกียร์จะถูกยกออกไป เปลี่ยนมาเป็นแบบชุดปรับเปลี่ยนเกียร์แบบสวิทซ์ไฟฟ้าแบบกด ถัดลงมาด้านล่างจะเป็นที่ปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ และเบรกมือไฟฟ้า รวมทั้ง Auto Brake Hold
ส่วนด้านข้างจะเป้นช่องว่างแก้วน้ำขนาดใหญ่ 2 ช่อง ขณะที่แท่นชาร์จสมาร์ตโฟนแบบไร้สายจะอยู่ด้านบนของแป้นปรับเปลี่ยนเกียร์
นอกจากนี้ All-new Honda Accord ยังเป็นรถยนต์ฮอนด้าคันแรกในญี่ปุ่นที่ติดตั้ง Google Built-in ซึ่งเป็นบริการเชื่อมต่อภายในรถยนต์ที่ให้ผู้ใช้สามารถใช้ Google Assistant, Google Maps, Google Play ฯลฯ ในด้านชุดอุปกรณ์ความปลอดภัยจะได้ระบการติดตั้ง Honda Sensing 360 ADAS ใหม่ล่าสุด
ในส่วนเบาะที่นั่งด้านหน้าใหม่ที่ออกแบบช่วยลดเมื่อยล้าเมื่อขับในระยะทางไกล มาพร้อมระบบอุ่นเบาะคู่หน้า, ระบบปรับอากาศแบบแยกอุณหภูมิอิสระซ้าย-ขวา นอกจากนั้นยังออกแบบให้มีพื้นที่วางขาที่เบาะด้านหลังที่กว้างมากขึ้นโดยมีความกว้างถึง 1,036 มม. ซึ่งมากกว่าเดิม 10 มม. อีกทั้งยังมีพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังถึง 473 ลิตร โดยจะมีพื้นที่มากที่สุดในรถระดับเดียวกัน
ในด้านพละกำลังขับเคลื่อนสเปกที่วางจำหน้่ายในญี่ปุ่นจะมีเพียงขุมพลัง 2.0 e:HEV เท่านั้น โดยจะมากับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร NA ทำงานผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ โดยในส่วนมอเตอร์ไฟฟ้านั้นจะเปลี่ยนจากมอเตอร์โคแอกเชียลเป็นมอเตอร์เพลาขนาน ขณะที่ในด้านตัวเลขสมรรถนะนั้นทางฮอนด้ายังไม่มีการเปิดเผยออกมา แต่คาดว่าจะให้กำลังสูงสุดอยู่ที่ 204 แรงม้า มาพร้อมแรงบิดสูงสุดที่ 335 นิวตันเมตร โดยจะมีโหมดการขับขี่ให้เลือก 4 โหมด คือ ECON / Normal / Sport และ Individual
สำหรับ Honda ในญี่ปุ่นพร้อมเปิดให้รับจองล่วงหน้าโดยจะเริ่มในเดือนธันวาคมปี 2023 นี้ ก่อนที่จะส่งมอบรถในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2024 ส่วนเมืองไทยนั้นคาดว่า All-new Honda Accord เจเนอเรชันที่ 11 จะได้รับการเปิดตัวในในเร็ววันนี้