GWM เตรียมเปิดตัวพรีเมียมเอสยูวีสายพันธุ์ออฟโรด 2 รุ่นใหม่ลุยตลาดประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ TANK นำโดย GWM TANK 500 และ GWM TANK 300 ซึ่งทั้งคู่จัดเป็นรถอเนกประสงค์แบบ Hybrid SUV โดยจะเปิดตัว พร้อมเปิดราคาจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการในวันที่ 28 กันยายนนี้ แต่วันนี้ Autostation.com เรามีภาพคันจริง และสเปคข้อมูลทั้งหมดของรุ่นน้อง TANK 300 มาให้พิจารณา และคาดการณ์ราคากันก่อน
การออกแบบภายนอก (Exterior Design)
All New GWM TANK 300 HEV ออกแบบภายใต้แนวคิดของ “แฟชั่น นำสมัย และแข็งแกร่ง” ด้วยการผสมผสานดีไซน์แบบออฟโรดเข้ากับดีไซน์ BOXY ให้ความโดดเด่นและแปลกตาตั้งแต่ด้านหน้าจรดท้ายด้วยกระจังหน้าดีไซน์ rectangle ตัดขอบด้วยสี piano black ที่รวมการจัดเรียงของไฟหน้าทรงกลมตัด DRL ทรงเหลี่ยมผสานเข้ากับตัวรถ รับด้วยช่องระบายอากาศสี piano black และโลโก้ TANK
เพิ่มความเท่ด้วยกันชนดีไซน์ออฟโรดร่วมสมัย บังโคลนขนาดใหญ่ และบันไดข้าง รับดีไซน์ด้านหลังแบบออฟโรดด้วยประตูท้ายแบบ horizontal ยางอะไหล่ติดตั้งบนประตูท้าย พร้อมกล้องมองหลังที่ซ่อนอยู่บนฝาครอบยางอะไหล่ได้อย่างลงตัว
- ไฟหน้า Intelligent LED มาพร้อมระบบไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ และ Follow me home
- ไฟ Daytime Running Light และไฟตัดหมอก LED
- ไฟท้าย Vertical LED มาพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 และไฟตัดหมอก LED
- หลังคาซันรูฟแบบเปิด – ปิดด้วยระบบไฟฟ้า
- ราวหลังคา ตามแบบฉบับรถอเนกประสงค์
- ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว สีดำ พร้อมยาง All-Terrain ขนาด 265/65 R17
มิติตัวถังใหญ่โตใกล้เคียง PPV
- ความกว้าง 1,930 มม.
- ความยาว 4,760 มม.
- ความสูง 1,903 มม.
- ระยะฐานล้อ 2,750 มม.
- พื้นที่เก็บสัมภาระ 1,635 ลิตร (เมื่อพับเบาะแถวที่ 2)
ซึ่งมิติตัวถังโดยรวมมีขนาดที่ใกล้เคียงกับรถ PPV 7 ที่นั่ง และใหญ่กว่า Honda CR-V
การออกแบบภายใน (Interior Design)
ภายในมาสไตล์ Premium off-road ที่ให้ความรู้สึกหรู ทันสมัย กว้างขวาง และสะดวกสบายอย่างมีระดับ
- หน้าจอมัลติมีเดีย ขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay, Android Auto
- หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบดิจิทัล ขนาด 12.3 นิ้ว
- ระบบความบันเทิงพร้อมลำโพง Infinity จำนวน 8 ตำแหน่ง พร้อมซับวูฟเฟอร์
- พวงมาลัยไฟฟ้า และแป้นเปลี่ยนเกียร์ (Paddle Shift)
- ไฟตกแต่งห้องโดยสาร Ambient Light ปรับได้หลายสี
- เบาะนั่งปรับไฟฟ้าคู่หน้า หนัง NAPPA พร้อมระบบเบาะนวดไฟฟ้า
และดันหลังไฟฟ้าฝั่งคนขับ มาพร้อม Memory Seat และ Welcome Seat - แผงควบคุมที่คอนโซลกลาง มาพร้อมฟังก์ชั่นควบคุมการขับขี่แบบออฟโรด
- เกียร์แบบ Electronic Shifter อัตโนมัติ 9 สปีด (9HAT)
- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา พร้อมระบบกรอง PM2.5 และ Ionizer
- แท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย
สำหรับเบาะนั่งแถวที่ 2 มาพร้อมพนักพิงที่สามารถปรับได้ 2 ระดับ และสามารถแยกพับเบาะได้แบบ 60:40 ที่สามารถพับได้ราบเรียบลงไป ทำให้มีพื้นที่ในการจัดเก็บสัมภาระที่มากถึง 1,635 ลิตร
เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร Turbo พ่วงมอเตอร์ Hybrid
All New GWM TANK 300 HEV สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มออฟโรดอัจฉริยะ TANK ที่ทรงประสิทธิภาพทั้งด้านพละกำลัง สมรรถนะ และเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร พร้อมระบบเทอร์โบแปรผัน (VGT) ให้กำลังสูงสุด 244 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 380 นิวตันเมตร เป็น flat torque ในช่วง 1700 – 4000 รอบ/นาที
ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 106 แรงม้า และแรงบิดมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 268 นิวตัน-เมตร ระบบเกียร์ไฟฟ้า 9 สปีด
โดยมีโหมดการขับขี่ให้เลือกใช้งานมากถึง 7 รูปแบบ อาทิ โหมดปกติ โหมดสปอร์ต โหมดประหยัด โหมดพื้นหิมะ โหมดพื้นโคลน โหมดพื้นทราย และโหมด 4L
ช่วงล่างพร้อมลุยทุกเส้นทาง รองรับการขับขี่แบบ Off-Road
ระบบกันสะเทือนหน้าแบบอิสระ ดับเบิล ครอส อาร์ม และระบบกันสะเทือนหลังแบบมัลติลิงก์ มาพร้อมระบบเบรกแบบดิสก์เบรก พร้อมครีบระบายความร้อนทั้ง 4 ล้อ อีกทั้งยังได้รับการติดตั้งยาง Continental แบบ All-Terrain ขนาด 265/65 R17 เตรียมพร้อมสำหรับงานลุย
ระบบความปลอดภัยจัดเต็ม พร้อมช่วยเหลือการขับขี่ Off-Road
All New GWM TANK 300 HEV มาพร้อมเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยให้คุณและครอบครัวเดินทางอย่างปลอดภัยไร้กังวล
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ
- ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบ
- ระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ
- กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา
- ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก
- ระบบช่วยเตือนและเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง
- ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน
- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน
- ระบบช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน
- ระบบช่วยชะลอความรุนแรงของการเกิดการชนซ้ำครั้งที่ 2
- ระบบช่วยลงทางลาดชัน
- ระบบช่วยออกตัวบนทางชัน
- ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู
- ระบบตรวจความดันลมยาง
นอกจากนี้ ยังมีระบบช่วยเหลือการขับขี่ออฟโรดอัจฉริยะ ไม่ว่าจะเป็น
- ระบบล็อกเฟืองขับด้านหน้า และด้านหลัง (Electric Differential Lock)
- ระบบช่วยกลับรถในพื้นที่แคบ (TANK Turn)
- ระบบแสดงภาพใต้ท้องรถ (Body transparent)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบออฟโรด (Off-road cruise control)
GWM TANK 300 จะมีให้เลือกด้วยกัน 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น Ultra และ รุ่น Pro โดยจะมีสีตัวถังให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีส้ม, สีดำ, สีเทา และสีขาว ซึ่งจะมาพร้อมกับภายในสีดำทั้งหมด
คาดการณ์ราคาจำหน่าย
- รุ่น Pro ราคาคาดการณ์ 1,559,000 บาท
- รุ่น Ultra ราคาคาดการณ์ 1,699,000 บาท
ทั้งนี้ทั้งนั้น นี่เป็นเพียงราคาคาดการณ์ของ Autostation.com หลังจากที่ได้ยลโฉมคันจริง และสเปคข้อมูลทั้งหมดของตัวรถ ซึ่งราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ จะได้ทราบพร้อมกันในวันที่ 28 กันยายนนี้ ส่วนจะถูกหรือแพงกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ คงได้รู้กัน!!
