GWM ประเทศไทย ประกาศปรับลดราคาจำหน่ายของ GWM TANK 300 HEV ลงทุกรุ่นย่อย ทั้งรุ่น PRO และ รุ่น ULTRA สูงถึง 520,000 บาท ส่งผลทำให้เอสยูวีสายพันธุ์ออฟโรดขุมพลังไฮบริด มีราคารุ่นเริ่มต้นอยู่ที่เพียง 1.179 ล้านบาท เท่านั้น
ราคาอย่างเป็นทางการของ GWM TANK 300 HEV (ระยะเวลาตั้งแต่วันนี้ – 30 มิถุนายน 2568)
- GWM TANK 300 HEV AWD PRO จากราคา 1,649,000 บาท ปรับลดราคาลง 470,000 บาท เหลือ 1,179,000 บาท
- GWM TANK 300 HEV AWD ULTRA จากราคา 1,799,000 บาท ปรับลดราคาลง 520,000 บาท เหลือ 1,279,000 บาท
ส่วนลดราคาพิเศษนี้มีจำนวนจำกัด ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิถุนายน 2025
มาพร้อมการรับประกันคุณภาพตัวรถ ดังนี้
- รับประกันคุณภาพตัวรถ Warranty นาน 5 ปี หรือ 150,000 กม.
- รับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด นาน 8 ปี หรือ 180,000 กม.
- ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน นาน 5 ปี หรือ 150,000 กม.
สำหรับ GWM TANK 300 HEV เป็นรถอเนกประสงค์สายพันธุ์ออฟโรดขุมพลัง Hybrid ที่มาพร้อมกับดีไซน์โดดเด่น ไม่ซ้ำใคร พร้อมตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายสำหรับผู้รักการผจญภัย มอบความสะดวกสบายและความปลอดภัยในทุกการเดินทางทั้งในเมือง นอกเมือง
ในด้านงานออกแบบได้ผสมผสานดีไซน์แบบออฟโรดกับดีไซน์ BOXY ไว้ด้วยกัน กระจังหน้าแบบ Rectangle ตัดขอบสีดำเงาที่รวมการจัดเรียงของไฟหน้าทรงกลมตัด DRL ทรงเหลี่ยม รับด้วยช่องระบายอากาศสีดำเงา และโลโก้ TANK เสริมความเท่ด้วยกันชนดีไซน์ออฟโรดร่วมสมัย บังโคลนขนาดใหญ่ และบันไดข้าง รับดีไซน์หลังแบบออฟโรดด้วยประตูท้ายแบบ Horizontal และยางอะไหล่ติดประตูท้าย พร้อมด้วยกล้องมองหลังที่ซ่อนอยู่บนฝาครอบยางอะไหล่ได้อย่างลงตัว
ในขณะที่ส่วนท้ายของตัวรถมีไฟท้ายเป็นแบบ Vertical LED ที่มาพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 และไฟตัดหมอก LED หลังคาซันรูฟแบบเปิด–ปิดด้วยระบบไฟฟ้าที่มาพร้อมราวหลังคาและเสาอากาศแบบ Shark Fin อีกทั้งยังมีล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว สีดำ พร้อมยาง A/T ขนาด 265/65 R17
ในด้านมิติตัวรถมีความยาว 1,930 มม., กว้าง 4,760 มมง, สูง 1,903 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,750 มม.
ภายในห้องโดยสารมาในสไตล์พรีเมียมออฟโรด แผงแดชบอร์ดติดตั้ง หน้าจอแสดงผลการขับขี่แบบดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว มาพร้อมหน้าจอมัลติมีเดียแบบสัมผัส ขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay, Android Auto, MP5 และ Bluetooth อีกทั้งยังมาพร้อมกับ การอัปเกรดเฟิร์มแวร์ผ่านระบบออนไลน์อัจฉริยะ (FOTA) และการสั่งงานด้วยเสียงอัจฉริยะ
ด้านเบาะที่นั่งจะรองรับได้ 5 ที่นั่ง ตัวเบาะหุ้มด้วยหนัง NAPPA เบาะผู้ขับขี่สามารถปรับไฟฟ้าได้ 8 ทิศทาง มาพร้อมระบบเบาะนวด และระบบดันหลังไฟฟ้า รวมทั้งยังได้รับระบบ Memory Seat และระบบ Welcome Seat เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ขับขี่ในการขึ้น-ลงจากรถ ขณะเบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้าได้ 4 ทิศทาง
เบาะนั่งโดยสารแถวที่ 2 สามารถแยกพับเบาะได้แบบ 60:40 มาพร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายที่มีความจุมากถึง 1,635 ลิตร เมื่อพับเบาะแถวที่ 2
ด้านชุดอุปกรณ์ภายในจะได้รับพวงมาลัยไฟฟ้า มาพร้อม Paddle Shift, สวิตช์ควบคุมโหมดการขับขี่ แผงควบคุมที่คอนโซลกลางพร้อมฟังก์ชันควบคุมการขับขี่แบบออฟโรด ระบบล็อกประตูอัตโนมัติเมื่อถึงความเร็วที่กำหนด, กุญแจ Smart Key, ปุ่ม Push Start, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติด้านหน้าแยกอิสระซ้ายและขวาที่มาพร้อมระบบกรองอากาศ PM 2.5 และ Ionizer, เครื่องเสียงพร้อมลำโพง Infinity 8 ตำแหน่ง พร้อมซับวูฟเฟอร์, ชุดไฟ Ambient light, แท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย, ช่องจ่ายไฟสำรอง 220V แบบพร้อมเต้ารับสายไฟ Universal และช่อง USB สำหรับผู้โดยสารข้างหน้า-หลัง และสำหรับกล้องบันทึกภาพ
ในด้านพละกำลังจะมากับขุมพลังไฮบริด ที่เป็นการทำงานระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 2.0T ให้กำลัง 245 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 380 นิวตันเมตร ทำงานผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวมถึง 304 แรงม้า แรงบิดสูงุสด 616 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ DCT 9 จังหวะ ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 7.9 วินาที มาพร้อมชุดบตเตอรี่ขนาด 1.7 kWh
มีโหมดการขับขี่ให้เลือก 7 รูปแบบ ได้แก่ โหมดปกติ, โหมดสปอร์ต, โหมดประหยัด, โหมดพื้นหิมะ, โหมดพื้นโคลน, โหมดพื้นทราย และโหมด 4L
ระบบช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบอิสระ ดับเบิล ครอส อาร์ม ขณะที่ระบบกันสะเทือนหลังแบบมัลติลิงก์ มาพร้อมดิสก์เบรกแบบมีครีบระบายความร้อนทั้ง 4 ล้อ
GWM TANK 300 HEV ยังอัดแน่นไปด้วยระบบช่วยเหลือการขับขี่แบบออฟโรด อาทิ ระบบล็อกเฟืองขับด้านหน้าและด้านหลัง, ระบบ TANK Turn ที่ช่วยกลับรถในพื้นที่แคบ, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบ Off-road, ระบบแสดงภาพใต้ท้องรถ
ในด้านระบบความปลอดภัย และระบบช่วยเหลือกการขับขี่จะได้รับ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ, ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบ, ระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ, กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา, ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก, ระบบช่วยเตือนและเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง, ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง, ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน, ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน, ระบบช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน, ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน, ระบบช่วยชะลอความรุนแรงของการเกิดการชนซ้ำครั้งที่ 2, ระบบช่วยลงทางลาดชัน, ระบบช่วยออกตัวบนทางชัน, ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู และระบบตรวจความดันลมยาง
GWM TANK 300 HEV จะมีเฉดสีรถภายนอกทั้งหมด 4 เฉดสี ได้แก่ สีส้ม, สีดำ, สีเทา และสีขาว และเฉดสีรถภายในทั้งหมดสีเดียว ได้แก่ สีดำ (ลักษณะของเบาะจะแตกต่างกันในรุ่น ULTRA และรุ่น PRO)