in , , ,

รีวิว GWM TANK 500 Hybrid SUV อเนกประสงค์ไซส์ยักษ์ 7 ที่นั่ง พื้นฐานแบบ PPV แต่หรูกว่า ใหญ่กว่า

รีวิว GWM TANK 500 Hybrid SUV อเนกประสงค์ 7 ที่นั่งไซส์ยักษ์ ตัวถังใหญ่สุดในตลาด ขุมพลัง 2.0 Hybrid จะรุ่งหรือจะร่วงอยู่ที่ราคา

Review GWM TANK 500 Hybrid SUV

เรียกได้ว่าเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของค่าย GWM เลยก็ว่าได้ ที่มักจะเชิญสื่อมวลชนไปทดลองขับรถยนต์ที่จะเปิดตัวใหม่ก่อนที่จะประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ซึ่งล่าสุดได้เชิญทาง Autostation.com ไปทำการทดลองขับ GWM TANK 500 Hybrid SUV รถอเนกประสงค์ไซส์ยักษ์แบบ 7 ที่นั่ง ขุมพลัง Hybrid ที่ทางค่ายหมายมั่นปั้นมือว่าจะมาเป็นทางเลือกใหม่ที่เหนือกว่ารถ PPV และแทรกกลางระหว่าง SUV หรูจากค่ายยุโรป

Review GWM TANK 500 Hybrid SUV

Review GWM TANK 500 Hybrid SUV

ตัวถังใหญ่สุดในกลุ่มรถ 7 ที่นั่ง Body on Frame

โดยจุดเด่นของ GWM TANK 500 Hybrid SUV ก็คือในเรื่องของมิติตัวถัง ที่มาในสไตล์แบบ Full Size SUV โดยตัวถังมีความยาวถึง 5,078 มม. หรือยาว 5 เมตรกันเลยทีเดียว ส่วนความกว้างอยู่ที่ 1,934 มม. ความสูง 1,905 มม. และระยะฐานล้ออยู่ที่ 2,850 มม. น้ำหนักตัวถังกว่า 2,600 กก. โดยตัวถังจะเป็นแบบ Body on Frame เช่นเดียวกับรถ PPV ที่มีขายในบ้านเรา

ซึ่งถ้านำไปเทียบกับบรรดารถ PPV 7 ที่นั่ง ที่มีขายอยู่ในปัจจุบัน ต้องบอกว่า GWM TANK 500 Hybrid SUV มีขนาดตัวถังที่ใหญ่ที่สุด แต่ยังเล็กกว่า Ford Ranger Raptor อยู่นิดหน่อย

ภายนอกแข็งแกร่ง บึกบึน แบบ Offroad SUV

โดย GWM TANK 500 Hybrid SUV ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มออฟโรดอัจฉริยะของ TANK ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่สร้างขึ้นมาให้แข็งแกร่ง และรองรับกับการขับขี่ออฟโรดสมรรถนะสูงโดยเฉพาะ

ด้วยคาแร็คเตอร์ของแบรนด์ที่เป็น SUV หรูพันธุ์แกร่ง ในเรื่องของรูปลักษณ์ภายนอกจึงมาในสไตล์ที่บึกบึน แข็งแกร่ง แต่ก็ยังแฝงไปด้วยความหรูหรา และล้ำสมัยจากฟีเจอร์ที่ยัดใส่เข้ามาแบบไม่หวงของ ไม่ว่าจะเป็น

Review GWM TANK 500 Hybrid SUV

Review GWM TANK 500 Hybrid SUV

Review GWM TANK 500 Hybrid SUV

  • ระบบไฟหน้า Intelligent LED พร้อมไฟ DRL และไฟตัดหมอกแบบ LED
  • ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว พร้อมยางขนาด 265/50 R20
  • บันไดข้างระบบไฟฟ้า พร้อมฟังก์ชัน เปิด-ปิดอัตโนมัติเมื่อเปิด-ปิดประตู
  • หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามิคขนาดใหญ่ เปิด – ปิดด้วยระบบไฟฟ้
  • ราวหลังคาเพื่อเพิ่มฟังก์ชันการใช้งานแบบอเนกประสงค์
  • เสาอากาศแบบ shark fin และสปอยเลอร์ท้าย
  • ดีไซน์ด้านท้ายสไตล์รถออฟโรด ประตูท้ายแบบ horizontal พร้อมระบบดูดไฟฟ้า
  • ยางอะไหล่ติดตั้งบนประตูท้าย พร้อมกล้องมองหลังที่ซ่อนอยู่บนฝาครอบยางอะไหล่
  • ไฟท้าย Vertical LED มาพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 และไฟตัดหมอกแบบ LED

Review GWM TANK 500 Hybrid SUV

Review GWM TANK 500 Hybrid SUV

ภายในหรูหราแบบ Premium Luxury SUV

ส่วนภายในมาในสไตล์หรูหรา อลังการดาวล้านดวง ยกระดับตัวเองเป็น Premium Luxury SUV ที่มาพร้อมฟีเจอร์ที่เหนือชั้นกว่า SUV หรูค่ายยุโรป ไม่ว่าจะเป็น

Review GWM TANK 500 Hybrid SUV

Review GWM TANK 500 Hybrid SUV

Review GWM TANK 500 Hybrid SUV

Review GWM TANK 500 Hybrid SUV

  • คอนโซลหน้าสีทูโทน และการตกแต่งห้องโดยสารด้วยไฟ Ambient Light
  • หน้าจอระบบสัมผัสขนาด 14.6 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto
  • หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบดิจิตอลขนาด 12.3 นิ้ว
  • หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกหน้า
  • เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า เป็นหนัง Nappa ที่มาพร้อมดันหลังไฟฟ้า และระบบเบาะนวดไฟฟ้า พร้อมระบบ Welcome Seat เพื่อความสะดวกในการขึ้น-ลงจากรถ
  • พวงมาลัยปรับ 4 ทิศทาง พร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift
  • โหมดการขับขี่ 11 โหมด ปกติ / สปอร์ต / ประหยัด / อัตโนมัติ / พื้นโคลน / พื้นทราย / พื้นหิน / พื้นหิมะ /เชี่ยวชาญ โดยมาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่มีให้เลือกใช้งานทั้ง 4H และ 4L
  • เกียร์แบบ Electronic Shifter ชุดเกียร์ไฟฟ้า ดีไซน์หรู สีเดียวกับแผงคอนโซล
  • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แยกอิสระซ้าย-ขวา พร้อมระบบกรองอากาศ PM2.5
  • ระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย
  • ชุดเครื่องเสียงลำโพง Infinity 12 ตำแหน่ง พร้อมแอมพลิฟายเออร์
  • เบาะแถว 2 พร้อมหน้าจอควมคุมระบบระบายอากาศที่เบาะ ม่านบังแดด
  • เบาะแถว 2 พับแบบ 60:40
  • เบาะแถว 3 พร้อมพนักพิงปรับไฟฟ้า พับแบบเรียบ
  • พื้นที่ใช้สอยทั้งหมด 1,400 ลิตร

Review GWM TANK 500 Hybrid SUV

เครื่องเล็ก ติดหอย เสริมมอเตอร์

ตัวรถใหญ่โตมโหฬาร แต่พอเปิดฝากระโปรงหน้าขึ้นมา จะเจอกับเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร ที่มาพร้อมระบบเทอร์โบแปรผัน (VGT) ที่ให้กำลังสูงสุด 244 แรงม้า แรงบิด 380 นิวตัน-เมตร

แต่เพียงแค่นั้น มันคงแบกน้ำหนักตัวถัง 2.6 ตันไม่ไหว จะเสริมมอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 106 แรงม้า แรงบิด 268 นิวตัน-เมตร เข้าไป และใส่แบตเตอรี่ความจุ 1.76kW ให้กลายเป็น SUV ระบบ Hybrid

ซึ่งแรงม้า และแรงบิดของทั้ง 2 ระบบรวมกัน ทาง GWM ไม่ได้มีการเปิดเผยออกมาอย่างเป็นทางการ แต่เอ่ยเป็นนัยๆ ว่า แรงม้าทะลุ 300 แน่นนอนถ้าขึ้น Dyno และแรงบิดพอๆ กับ Ford Ranger Raptor เครื่อง V6 (583 นิวตัน-เมตร)

ส่วนระบบส่งกำลังเป็นชุดเกียร์ไฟฟ้า 9 สปีด (9AHT) ที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับระบบการขับเคลื่อนที่หลากหลายของระบบ Hybrid และรองรับกับโหมดการขับขี่ทั้ง 11 โหมด

Review GWM TANK 500 Hybrid SUV

ระบบความปลอดภัยให้มาเกินคลาส

  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ
  • ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบ
  • ระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ
  • กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา
  • ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก
  • ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินที่ความเร็วต่ำ
  • ระบบช่วยเตือนและเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง
  • ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน
  • ระบบช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน
  • ระบบช่วยชะลอความรุนแรงของการเกิดการชนซ้ำครั้งที่ 2
  • ระบบช่วยลงทางลาดชัน (HDC)
  • ระบบช่วยออกตัวบนทางชัน (HSA)
  • ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู (DOW)
  • ระบบตรวจความดันลมยาง (TPMS)

นอกจากนี้ ยังมีระบบช่วยเหลือการขับขี่ออฟโรดอัจฉริยะ ไม่ว่าจะเป็น

  • ระบบล็อกเฟืองขับด้านหน้าและด้านหลัง (Electric Differential Lock หน้า-หลัง)
  • ระบบช่วยกลับรถในพื้นที่แคบ (TANK Turn)
  • ระบบแสดงภาพใต้ท้องรถ (Body transparent)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบออฟโรด(Off-road cruise control)

Review GWM TANK 500 Hybrid SUV

ลองขับมาแล้ว สรุปว่าเหนือกว่า PPV จริงไหม?

ในด้านของฟีเจอร์ และมิติตัวถัง ต้องยอมรับว่า GWM TANK 500 Hybrid SUV ทำการบ้านมาดี ใส่มาให้ชนิดที่ว่า PPV รุ่นต่อไปอยู่เฉยกันไม่ได้อีกต่อไป แต่ในเรื่องของสมรรถนะการขับขี่ หลังจากที่ได้ลองขับมาแล้ว ต้องบอกว่า มันไม่เป็นดั่งที่คาดเอาไว้ เพราะดูจากสเปคตัวเลขทั้งแรงม้า และแรงบิด แอบคาดหวังว่าต้องเป็น SUV ที่บ้าพลัง และดุดันกว่านี้ แต่กลายเป็นว่า….

Review GWM TANK 500 Hybrid SUV

คาแร็คเตอร์ของตัวรถไม่ใช่อย่างที่คิด โดยภาพรวมแล้วเหมือนทาง GWM จะสร้าง TANK 500 Hybrid ให้เป็นรถ SUV ที่ขับง่าย สมูท นุ่มนวล ไม่กระโฉกโฮกฮาก ภาพลักษณ์สะท้อนความเป็นผู้บริหารที่สุขุมนุ่มลึก จังหวะเร่งแซงจะไม่ได้ปรู๊ดปร๊าด จี๊ดจ๊าด เหมือนรถ 300 แรงม้า แต่จะค่อยๆ ขึ้น และแซงไปแบบนุ่มๆ สไตล์ผู้ดีขับ SUV คันโต แต่ถ้าถามว่าแรงไหม บอกเลยว่าแรง แค่ไม่ชินกับรถ 300 แรงม้า ที่แรงแบบผู้ดีเท่านั้นเอง

Review GWM TANK 500 Hybrid SUV

ส่วนในเรื่องของช่วงล่าง และ Handling เซ็ทมาในรูปแบบเดียวกับคันเร่งเลย คือนุ่มนวล นั่งสบายไปหมด จนแอบคิดในใจว่า นุ่มแบบนี้แล้วมันจะเป็น Offroad SUV ได้จริงหรอ?

กลายเป็น SUV ที่ขับในเมืองโคตรสบาย เป็นรถครอบครัวที่แม่ยายหลงรัก แต่จะให้ไปซิ่ง เล่นโค้ง หรือลุยออฟโรดหนักๆ คงจะไม่สนุกเท่าไหร่ เพราะมีอาการย้วยๆ โคลงเคลงให้รู้สึกพอสมควรถ้าเข้าโค้งด้วยความเร็วเกินลิมิต

ส่วน Handling ตรงนี้ไม่เป็นปัญหา เพราะพวงมาลัยสามารถปรับความหนัก และความหนืดได้ 3 โหมด ทั้ง เบา / มาตรฐาน และ สปอร์ต ซึ่งคุณผู้หญิงที่ขึ้นมาขับสามารถปรับเป็นโหมดเบาได้ เพื่อให้ง่ายต่อการขับขี่ แต่ถ้าคุณผู้ชายที่ชอบความหนักแน่น และมั่นใจ ปรับไปโหมดสปอร์ต จะรู้สึกเฟิร์มขึ้นมาทันที

Review GWM TANK 500 Hybrid SUV

สุดท้ายมองว่าใครที่อยากได้ความแรง แบบบ้าพลัง PPV เครื่องยนต์ดีเซลอาจจะตอบโจทย์กว่า แต่ถ้าใครอยากได้ SUV หรู ขับสบาย นุ่มนวล ครอบครัว Love เจ้ายักษ์ GWM TANK 500 Hybrid SUV ตอบโจทย์ตรงนี้ได้แน่นอน

Review GWM TANK 500 Hybrid SUV

แล้วราคาจะทะลุ 2 ล้านไปเยอะไหม?

คำถามนี้มาแน่นอน ซึ่งเอาจริงๆ กลยุทธ์ของค่าย GWM ก็ถือว่าแยบยลอยู่พอสมควร ซึ่งราคาจะแพงหรือจะถูกกว่าที่คาด ส่วนนึงก็มาจากกระแสที่เกิดขึ้นหลังจากที่ทุกคนได้ดู ได้อ่านรีวิว จากสื่อมวลชนทุกแขนงที่ประโคมลงข่าวกันเนี่ยแหละ

แต่ถ้าเอาแบบตามเนื้อผ้า และอยากให้ขายดีจนส่งมอบรถกันไม่ทัน รุ่นเริ่มต้นอย่างรุ่น Pro ควรมาในราคาที่ท้าชนกับ PPV เจ้าตลาดไปเลยสัก 1.89 ล้านบาท ส่วนรุ่นท็อป Ultra จะทะลุหลัก 2 ล้านไปสักนิดหน่อยก็ไม่น่าเกลียด

ทั้งนี้ทั้งนั้น นี่เป็นเพียงราคาคาดการณ์หลังจากที่ได้ไปลองขับมาเท่านั้น ซึ่งเป็นความเห็นส่วนตัวของทีมงาน Autostation.com ส่วนราคาจริงๆ จะเปิดตัวมาเท่าไหร่ วันที่ 28 กันยายนนี้คงได้รู้กัน