Mercedes-Benz เปิดตัว All NEW Mercedes-AMG E53 รถยนต์ตระกูล E-Class รหัสตัวถัง W214 เวอร์ชั่นสมรรถนะสูงรุ่นแรกที่พัฒนาโดย AMG โดยมีให้เลือกทั้งรูปแบบ Sedan และ Estate มาพร้อมพละกำลังที่ร้อนแรงด้วยระบบส่งกำลังแบบ PHEV ปลั๊กอินไฮบริด ที่รีดกำลังได้สูงสุดถึง 612 แรงม้า (PS)
ในด้านงานดีไซน์ของ AMG E53 Hybrid 4Matic+ นั้นจะแตกต่างจาก E-Class ในรุ่นปกติ โดยจะมากับกระจังหน้าแบบเฉพาะของทาง AMG ที่เรืองแสงได้
รวมทั้งยังมากับช่องดักอากาศที่อยู่บนตังกันชนหน้าที่ปรับขนาดให้ใหญ่ขึ้น พร้อมขยายซุ้มล้อให้กว้างขึ้น เพื่อให้สอดรับกับชุดล้ออัลลอยใหม่ขนาด 19 นิ้ว แต่สามารถอัปเกรดให้ให้เป็นขนาด 20 นิ้วหรือล้อฟอร์จขนาด 21 นิ้วได้
ส่วนด้านท้ายของตัวรถของเวอร์ชั่นตัวแปรงใหม่นี้ จะมากับปลายท่อไอเสีย 4 ท่อ เสริมความดุด้วยดิฟฟิวเซอร์หลังขนาดใหญ่ที่พร้อมรีด และจัดเรียงอากาศให้ออกจากใต้ท้องรถให้รวดเร็วที่สุด
นอกจากนี้ยังมีชุดแต่ง AMG Outside Night Package (I และ II) และ AMG Carbon Outside Package ไว้สำหรับผู้ที่ต้องการตกแต่งเพิ่มเติม โดยชุดแต่งนี้จะตกแต่งด้วยวัสดุโครเมียมสีดำ หรือคาร์บอนไฟเบอร์
ภายในห้องโดยสารจะได้รับเบาะนั่งแบบสปอร์ต AMG ปรับด้วยไฟฟ้า หุ้มด้วยหนังเทียม Artico และไมโครไฟเบอร์แบบไมโครคัท เย็บเดินตะเข็บด้วยด้ายสีแดง (พร้อมกับมีออปชั่นเสริมเป็นเบาะนั่งแบบ AMG Performance)
ด้านพวงมาลัยจะเป็นแบบ AMG Performance หุ้มด้วยหนัง Nappa ในขณะที่แผงหน้าปัด และแผงประตูจะถูกตกแต่งด้วยลายไม้ Ash สีเทา มาพร้อมชุดไฟ Ambient light อีกทั้งยังสามารถติดตั้งระบบแสดงผล MBUX Superscreen ที่มีหน้าจอฝั่งผู้โดยสาร และเบาะปรับไฟฟ้าทุกทิศทาง เพิ่มได้
สำหรับขุมพลังขับเคลื่อนของ All NEW Mercedes-AMG E53 จะมากับระบบปลั๊กอินไฮบริด ที่ประกอบไปด้วยเครื่องยนต์ 6 สูบ ขนาดความจุ 3.0 ลิตร เทอร์โบ ที่ให้กำลัง 449 แรงม้า (PS) ที่ 5,800 – 6,100 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 560 นิวตันเมตร ที่ 2,200 – 5,000 รอบ/นาที
ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 163 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 560 นิวตันเมตร ให้กำลังรวมกัน 585 แรงม้า และเพิ่มเป็น 612 แรงม้า เมื่อใช้ RACE START ด้านแรงบิดสูงสุดจะเท่ากันที่ 750 นิวตันเมตร ส่งกำลังไปยังล้อทั้ง 4 ผ่านระบบ 4Matic+ ด้วสยชุดเกียร์อัตโนมัติ AMG SPEEDSHIFT TCT 9G 9 จังหวะ
โดยในตัวถัง Sedan เมื่อใช้ RACE START จะให้อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายในเวลา 3.8 วินาที เร่งความเร็วสูงสุด 280 กม./ชม. มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 28.6 kWh ที่ขับขี่ในโหมดไฟฟ้าล้วนได้ระยะทางไกลสุด 101 กม. โดยในโหมด EV นี้ จะสามารถทำความเร็วได้อยู่ที่ 140 กม./ชม.
ส่วนในรู่นตัวถัง Estate เมื่อใช้ RACE START จะมีอัตราเร่งที่ช้ากว่าในตัวถัง Sedan เล็กน้อยโดย 0 – 100 กม./ชม. จะอยู่ที่ 3.9 วินาที รวมถึงความเร็วสูงสุดจะน้อยกว่านิดหน่อยจะอยู่ที่ 275 กม./ชม. ขณะที่วิ่งด้วยโหมดไฟฟ้าล้วน ๆ จะได้ระยะทางไกลสุด 97 จาก จากแบตเตอรี่ที่มีขนาดเท่ากับในรุ่นซีดาน ส่วนความเร็วสูงสุดในโหมดไฟฟ้า จะเท่ากับในตัวถัง Sedan ที่ 140 กม./ชม.
ด้านการชาร์จไฟจะรองรับการชาร์จไฟแบบ DC ขนาสด 60 kW ที่จะให้กำลังไฟจาก 10 – 80 % ในเวลาประมาณ 20 นาที
สำหรับ Mercedes-AMG E53 ใหม่ทั้งในตัวถัง Sedan และ Estate จะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป้นทางการ ในช่วงปลายปีนี้ ทั้งในตลา่ดยุโรป และอเมริกา ส่วนสนนราคาคาดว่าจะถูกเปิดเผยพร้อมกับในวันที่ลงโชว์รูม
