โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ All-New Toyota Century SUV อัครยานยนต์ที่มาในรูปแบบรถเอสยูวีสุดหรู ที่มาพร้อมความหรูหราภูมิฐาน อลังการในทุกมุมมอง ผสานกับขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด ที่มากับเครื่องยนต์ขนาด 3.5 ลิตร ที่ให้กำลังมากถึง 412 แรงม้า โดยเปิดราคาจำหน่ายในญี่ปุ่นเริ่มที่ 25,000,000 เยน หรือราว ๆ 6 ล้านบาท และจะผลิตเดือนละ 30 คันเท่านั้น
All-New Toyota Century SUV ใหม่นี้ ถูกพัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด “The Chauffeur” ที่มาพร้อมกับรูปทรงใหม่ผสมผสานสง่างาม ความสะดวกสบาย และฟังก์ชันมที่ทันสมัยเข้าด้วยกันอย่างลงตัว
ในด้านรูปลักษณ์ภายนอกจะมาในรูปทรงเอสยูวีขนาดใหญ่ ในด้านดีไซน์ด้านหน้าของตัวรถจะมีความแตกต่างจาก Century ในแบบ Sedan ซาลูน ด้านหน้ามาพร้อมชุดไฟหน้า LED แบบ 2 ชั้น 4 ดวง ทรง C-shaped ที่อยู่ในโคมเดียวกัน คั่นกลางด้วยกระจังหน้า 3 มิติ
ตรงกลางกระจังหน้าประดับด้วยโลโก้ Phoenix (นกฟีนิกส์) ที่โลหะแกะสลักมือ ในส่วนกันชนหน้าออกแบบให้มีขนาดใหญ่ มาพร้อมช่องรับอากาศ 3 ช่อง
งานดีไซน์ด้านข้างเน้นความเรียบหรู ดูภูมิฐาน เสริมความสง่างามด้วยคิ้วโครเมียมที่กรอบกระจก บนหลังคาติดตั้งขอบคิ้วหลังคาสีเงินที่ทอดยาวจากด้านหน้ายาวมาถึงด้านหลัง มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว พ่นด้วยสี Hyperchrome Metallic มาพร้อมฝาครอบดุมล้อสีดำ และสัญลักษณ์นกฟีนิกส์เป็นชุดมาตรฐาน นอกจากนั้นยังสามารถเลือกปรับขนาดให้ใหญ่ขึ้นเป็น 22 นิ้ว ได้
ส่วนด้านท้ายแนวหลังคาด้านหลังจะออกแบบให้ลาดเอียงเล็กน้อย พร้อมตกแต่งด้วยสปอยเลอร์หลังคา มาพร้อมเสาอากาศแบบครีบฉลาม ขณะที่ชุดไฟท้ายที่มีลักษณะเดียวกันกับแบบชุดไฟหน้าที่เป็นชุดไฟ LED แบบ 2 ชั้น 4 ดวง มาพร้อมประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า
ในด้านมิติขนาดตัวรถจะมีความยาว 5,205 มม., กว้าง 1,990 มม., สูง 1,805 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,950 มม.
ภายในห้องโดยสารจะรับการออกแบบให้มีความเลิศหรู อลังการงานสร้าง มาพร้อมความสะดวกสบายแบบครบครัน ประตูผู้โดยสารที่เปิดได้กว้าง 75 องศา รวมทั้งยังออกแบบใหม้มีมือจับที่เสา C และบันไดข้างแบบไฟฟ้าที่สามารถยืดหดได้ทำให้สามารถเข้า-ออกรถได้อย่างสะดวก
ห้องโดยสารจะรองรับได้ 4 ที่นั่ง โดยจะมีมีโทนสีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีเบจ,สีนำ้ตาลอ่อน และสีดำ นอกจากนั้นห้องโดยสารจะแยกออกจากห้องเก็บสัมภาระที่มีความจุที่ 340 ลิตร
ด้วยกระจกลามิเนตใส เพื่อลดเสียงรบกวน เบาะนั่งด้านหลังแบบปรับเอนได้พร้อมระบบทำความร้อนและระบายอากาศพร้อมที่วางเท้าแบบขยายได้ ขณะที่เบาะผู้โดยสารด้านหน้าแบบพับได้ช่วยให้ผู้โดยสารสามารถนอนราบได้เต็มที่
ด้านงานออกแบบเน้นความหรูหราตกแต่งด้วยไม้ซะพีลี (Sapele) แผงแดชบอร์ด ติดตั้งแผงหน้าปัดดิจิตอลขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมจอแสดงผลบนกระจกหน้า และหน้าจออินโฟเทนเมนท์ระบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว ลำโพงเสียง 18 ตัว จุดชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย
นอกจากนี้ผู้โดยสารด้านหลังยังจะได้รับชุดจอแสดงผลขนาด 11.6 นิ้ว ช่องแช่เย็น, แผงควบคุมหน้าจอสัมผัสขนาด 5.5 นิ้วที่ถอดออกได้ 2 จอ, ชุดไฟ Ambient Light ที่ปรับได้ถึง 64 เฉดสี
หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา และระบบเสียงอันซับซ้อนที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเทคนิคการผลิตเครื่องดนตรี อีกทั้งยังได้รับการติดตั้งช่องชาร์จอุปกรณ์ไฟฟ้า Power outlet ปลั๊กไฟ 1,500 วัตต์ ไฟส่องสว่างแบบ LED และม่านบังสายตา ไว้ที่ด้านท้าย
สำหรับขุมพลังขับเคลื่อนของ All-New Toyota Century SUV ได้รับการพัฒนาบนสถาปัตยกรรม TNGA โดยจะมากับระบบส่งกำลังแบบปลั๊กอินไฮบริด PHEV ที่คล้ายกับของ Lexus TX 550h+ โดยจะได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์ 2GR-FXS V6 ขนาด 3.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 262 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 335 นิวตันเมตร ทำงานผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุดรวม 412 แรงม้า ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์ E-CVT พร้อมด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ E-Four โดย Toyota Century SUV มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 51Ah สามารถขับขี่ด้วยไฟฟ้าล้วนได้ระยะทาง 69 กม. มาตรฐาน WLTC
สำหรับระบบช่วงล่างด้านหน้า เป็นแบบอิสระ MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังเป็นแบบอิสระ Multi-link พร้อมเหล็กกันโคลง
สำหรับ All-New Toyota Century SUV ที่เปิดวางจำหน่ายในญี่ปุ่นจะมีเฉดสีภายนอกให้เลือกที่งแบบทูโทน และโมโนโทน ได้แก่ สีขาวสลับเงิน White/Silver
สีเทาสลับเงิน Prominent gray/Silver, สีดำสลับเงิน Black/Silver, สีดำสลับเทา Prominent gray/Black, สีแดงสลับเงิน Glory Red/Silver, สีดำ Black, สีเทา Prominent gray
ในด้านราคาของ Toyota Century SUV 2024 ทางโตโยต้าในญี่ปุ่นเปิดราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 25,000,000 เยน หรือคิดเป็นเงินไทยราว 6 ล้านบาท (ราคายังไม่รวมภาษีนำเข้าจากไทย) และจะผลิตเดือนละ 30 คันเท่านั้น นอกจากนั้นยังวางจำหน่ายไปพร้อม ๆ กับ Toyota Century ในรู่นซีดาน
