in ,

AVATR 12 ซีดานคูเป้ไฟฟ้าสุดหรู ชาร์จไฟเต็มวิ่งไกล 700 กม.

AVATR 12 รถยนต์ไฟฟ้าในรูปแบบ Gran Coupe วิ่งไกล 700 กม. เปิดตัวที่ในงาน IAA Mobility ประเทศเยอรมนี ก่อนเปิดวางจำหน่ายในเร็ว ๆ นี้ คาดจะมีราคาอยู่ที่ราว ๆ 300,000 – 500,000 หยวน หรือประมาณ 1.4 – 2.4 ล้านบาท

AVATR 12

หลังจากที่ทาง AVATR แบรนด์รถที่สุดหรูรุ่น ที่เป็นผลงานการร่วมมือกันระหว่างสุดยอดแบรนด์ชื่อดังจาก 3 ค่าย อย่าง Changan Automobile ผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ๋จากจีน CATL ผู้ผลิต และให้บริการแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน รวมถึงทาง Huawei แบรนด์โทรศัพท์ชื่อดังจากเมืองจีน ได้เปิดตัว AVATR 11 รถเอสยูวีไฟฟ้าดีไซน์หรูเมื่อ 2 ปี ที่ผ่านมา 

AVATR 12

ล่าสุดทาง AVATR ได้ใช้เวทีในงาน IAA Mobility หรือ Munich Auto Show 2023 ที่ถูกจัดขึ้นในประเทศเยอรมนี เผยโฉมรถรุ่นที่ 2 ของทางค่าย ออกมานั่นก็คือ AVATR 12 (ออกเสียงว่า “หนึ่งสอง”) ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกของแบรนด์ AVATR ที่เข้าสู่ตลาดยุโรป

AVATR 12

สำหรับ AVATR 12 จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มาในรูปแบบรถซีดานท้ายลาด Gran Coupe ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% โดยมีกำหนดการณ์ที่จะวางจำหน่ายในช่วงปลายปีนี่ ทั้งที่ในตลาดเมืองจีน รวมทั้งในยุโรป โดยคาดว่าจะมีราคาอยู่ที่ระหว่าง 300,000 – 500,000 หยวน หรือราว 1.4 – 2.4 ล้านบาท 

AVATR 12

ในด้านงานดีไซน์จะเป็นรถซีดาน 4 ประตูท้ายลาด งานออกแบบภายนอกจะมีความคล้ายคลึงกับรุ่น AVATR 12 เป็นอย่างมาก โดยงานดีไซน์ทั้งหมดจะถูกออกแบบโดยทาง Avita Global Design Center ที่ตั้งอยู่ในเมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี 

AVATR 12

ด้านหน้ารถมากับชุดไฟหน้า LED และไฟ DRLs ในดีไซน์แบบเบางเฉียบ ที่เป็นเส้นตรง และรูปตัว C ที่อยู่ถัดลงมาด้านล่าง ในส่วนกระจังหน้าแบบปิดทึบ พร้อมติดตราโลโก้ของทางแบรนด์ไว้ตรงกลาง 

AVATR 12

AVATR 12

AVATR 12

ดีไซน์ด้านข้างตัวรถแบบเรียบหรู แนวหลังคาลาดเอียงในสไตล์รถคูเป้ มือเปิดประตูเป็นแบบ Pop-Up ที่ราบเรียบไปกับตัวรถ ตัวรถจะไม่มีขอบหน้าต่าง พร้อมติดตั้งกล้องไว้ที่ด้านข้างตัวรถ เพื่อแสดงว่ารถรุ่นนี้มาพร้อมกล้องรอบคันแบบ 360 องศา กระจกมองข้างเป็นแบบกล้อง ที่จะสะท้อนภาพไปยังภายในห้องโดยสาร ส่วนล้ออัลลอย จะที่มีขนาด 20 – 21 นิ้วให้เลือก

AVATR 12

AVATR 12

ส่วนด้านท้ายจะมาแบบท้ายลาดเหมือนรถคูเป้ มาพร้อมสปอยเลอร์แบบอัตโนมัติที่ซ่อนตัวอย่างแนบเนียนที่ฝากระโปรงท้าย อีกทั้งยังเพิ่มลูกเล่นด้วยการติดตั้งหน้าจอ LED ไว้ที่บนฝากระโปรงที่ เรียกว่า “Halo Display” ซึ่งจะเอาไว้สำหรับสื่อสารกับผู้คนภายนอกรถ ขณะที่ชุดไฟท้ายเป็นแบบ LED ที่ออกแบบให้เป็นเส้น โดยมีโลโก้ AVATR คั้นกลางเอาไว้ ขณะที่กันชนหลังติดตั้งแผ่นดิฟฟิวเซอร์สีดำขนาดใหญ่พร้อมครีบรีดอากาศตามสไตล์รถซีดานทรงเฉี่ยว 

AVATR 12

AVATR 12

AVATR 12

ในด้านมิติขนาดตัวรถจะมี 5,020 มม., กว้าง 1,999 มม., สูง 1,460 มม. และมีระยะฐานล้อ 3,030 มม. 

AVATR 12

ภายในห้องโดยสารออกแบบภายใต้แนวคิด “Vortex Emotional Eddy Current” มาพร้อมเทคโนโลยี และนวัตกรรมแบบสุดล้ำ เบาะที่นั่งหุ้มด้วยหนัง Nappa เบาะคู่หน้าดีไซน์ทรงสปอร์ต Bucket-Shape มาพร้อมที่วางพักน่อง ปรับด้วยไฟฟ้า มาพร้อมระบบทำความร้อน และฟังก์ชั่นนวด 

AVATR 12

แผงแดชบอร์ดติดตั้งจอไวด์สกรีนแบบพาโนรามาที่มีความยาว 35.4 นิ้ว ความละเอียด 4K มาพร้อมจอแสดงผลที่สะท้อนภาพมาจากกระจกมองข้างที่ติดตะั้งไว้บริเวณมุมเสา A นอกจากนั้นยังมาพร้อมหน้าจอส่วนกลางที่วางแบบลอยตัวมีขนาด 15.6 นิ้ว รองรับระบบปฏิบัติ Hamony OS รุ่นล่าสุด ระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะระดับไฮเอนด์ เช่น Huawei ADS 2.0

AVATR 12

AVATR 12

AVATR 12

ส่วนคอนโซลกลางออกแบบใหม้มีพื้นที่ขนาดใหญ่วางคั้นกลางระวห่างเบาะคู่หน้า โFยติดตั้งแท่าร์จสมาร์ตโฟนแบบไร้สายได้พร้อมกันถึง 2 เครื่อง 

AVATR 12

ส่วนด้านบนหลังคาจะเป็นกระจกอิเล็กโทรโครมิก ที่สามารถสลับเปลี่ยนให้ทึบแสง หรือโปร่งใสได้เพียงแค่กดสวิตช์

AVATR 12

ด้านความปลอดภัย AVATR 12 มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ไม่น้อยกว่า 29 ตัว รวมถึงเซ็นเซอร์ Lidar 3 ตัว และคอมพิวเตอร์ส่วนกลางประสิทธิภาพสูงที่ประกอบขึ้นเป็นชุดช่วยเหลือ Huawei Advanced Driving System (ADS) 2.0

AVATR 12

ในด้านพละกำลังขับเคลื่อนจะมีให้เลือกทั้งแบบรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียวที่วางอยู่ที่คู่ล้อหลัง ให้กำลัง 313 แรงม้า แรงบิด 370 นิวตัน เมตร 

นอกจากนั้นยังมีในรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ขับเคลื่อนแบบสี่ล้อ DriveONE ของ Huawei ให้กำลังรวมอยู่ที่ 578 แรงม้า

AVATR 12

โดยทั้ง 2 รุ่น จะมากับแบตเตอรี่ขนาด 94.5 kWh โดยในรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเกดียวจะวิ่งได้ระยะทาง 700 กม. ส่วนในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อจะวิ่งได้ระยะทางไกลสุดที่ 650 กม. 

AVATR 12

AVATR เผยว่า AVATR 12 จะเริ่มลงโชว์รูมวางจำหน่ายในช่วงปลายปี 2023 นี้ ซึ่งนอกจากจะมีวางจำหน่ายในประเทศจีนแล้วยังส่งออกไปยังในตลาดยุโรปอีกด้วย ด้านราคาจำหน่ายคาดว่าจะมีราคาอยู่ที่ระหว่าง 300,000 – 500,000 หยวน หรือประมาณ 1.4 – 2.4 ล้านบาท